BLA CANCER MAX
ประกันมะเร็ง 3 ช่วงเวลาสำคัญ
จ่ายเงินก้อนเมื่อเจอมะเร็ง จ่ายชดเชยเมื่อเคมีบำบัดฉายแสง จ่ายเงินก้อนสุดท้ายเมื่อจากไปเพราะมะเร็ง โดยไม่นำประวัติการเป็นมะเร็งของคนในครอบครัวมาพิจารณารับทำประกัน
อายุรับทำประกัน
0 - 70 ปี
ทุนประกันโรคมะเร็งที่ทำได้
300,000 - 3,000,000
(ทำได้มากกว่า 1 กรมธรรม์ แต่ทุนรวมกันไม่เกิน 3,000,000 บ.)
ลดผลกระทบที่ต้องหยุดทำงานขาดรายได้เพราะรักษามะเร็งได้..
ด้วย BLA Cancer Max ประกันมะเร็งที่ทดแทนรายได้ที่สูญหายไป ทุกช่วงเวลาร้าย ๆ จากการรักษามะเร็ง..
- เน้นชดเชยรายได้ ที่ต้องสูญเสียเมื่อไม่สามารถทำงานได้เนื่องจากมะเร็ง ทั้งตอนตรวจเจอมะเร็ง นอน รพ. ด้วยมะเร็ง และจากไปเพราะมะเร็ง
- รวมเงินชดเชยสูงสุดถึง 11,100,000 บาท ด้วยเบี้ยประกันเพียง 500-800 บาทต่อเดือน หรือหลักพันบาทต่อปี โดยเฉพาะในช่วงวัยทำงานสร้างตัวอายุ 20-35 ปี
- คุ้มครองชีวิตด้วยทุนประกัน 100,000 บาท สำหรับเพียงพอใช้เป็นสัญญาหลักให้กับสัญญาประกันมะเร็งเท่านั้น (คปภ. กำหนดให้บริษัทประกันชีวิตต้องมีสัญญาประกันชีวิตเป็นสัญญาหลักเสมอ)
- พบมะเร็งระยะ 0 / ร้ายแรงเทียบเท่า คุ้มครองรายได้สูงสุดที่ 600,000 บ.
- พบมะเร็งระยะ 1-4 คุ้มครองรายได้สูงสุดที่ 3,000,000 บ. (เมื่อรวมชดเชยจาก ระยะ 0 แล้ว)
- ระหว่างการรักษา ชดเชยรายได้นอนโรงพยาบาลด้วยมะเร็ง สูงสุด 10,000 บาทต่อวัน (การฉายแสง เคมีบำบัด ทำหัตถการ หรือ การพักที่ รพ. นาน 6-24 ชม. จะเสมือนเป็นผู้ป่วยใน 1 วัน) ติดต่อกันสูงสุด 100 วัน (จะไม่นับว่าติดต่อกันหากรักษาห่างกันเกิน 90 วัน) โดยรวมทุกครั้งการรักษาสูงสุด 500 วัน หรือ รวมสูงสุดที่ 5,000,000 บ.
- หากเสียชีวิตเพราะมะเร็ง ครอบครัวจะได้รับเงินชดเชยสูงสุดที่ 3,000,000 บาท + ทุนประกันชีวิตอีก 100,000 บาท รวมเป็น 3,100,000 บ. เพื่อจัดการหนี้หรือช่วยภาระต่าง ๆ ไม่กระทบต่อคนข้างหลัง
- เป็นแผนประกันโรคร้ายที่ทาง กบข. คัดจากบริษัทประกันทุกบริษัท ให้นำเสนอให้กับข้าราชการ สมาชิก กบข. รวมถึงครอบครัว (บิดา มารดา สามี ภรรยา บุตร) ได้โดยตรงอย่างเป็นทางการ
เมื่อประกันมะเร็ง 'เบี้ยคงที่' อาจให้ความคุ้มครองรายได้ไม่เพียงพอ โดยเฉพาะในวัยทำงาน
เรียน
- ท่านที่ต้องการความคุ้มครองรายได้จากโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นจากประกันมะเร็งเบี้ยคงที่ที่มีอยู่โดยเฉพาะช่วงก่อนเกษียณ หรือ
- ท่านที่เน้นคุ้มครองรายได้จากโรคมะเร็ง ในช่วงวัยทำงานจนถึงอายุ 60 ปี ที่หากต้องหยุดทำงานไม่มีรายได้เพื่อรักษามะเร็งประมาณ 2-3 ปี จะกระทบต่อครอบครัวอย่างมาก
จากที่แอนนี่ได้อธิบายเจาะลึกถึงแบบประกันมะเร็งลงในบทความนี้
ทำให้ประกันมะเร็งในปัจจุบันนั้นจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ
แบบที่ 1 : เบี้ยคงที่ เบี้ยสูงตอนแรก
แบบที่ 2 : เบี้ยเพิ่มตามอายุ เบี้ยสูงตอนหลัง
- แบบเบี้ยคงที่ เน้นคุ้มครองทั้งก่อนและหลังเกษียณ โดยเบี้ยเริ่มต้นจะสูงแต่คงที่ไปตลอดอายุสัญญา ทำให้เบี้ยรวมสะสมจะน้อยกว่าทุนประกันที่คุ้มครอง
- แบบเบี้ยเพิ่มตามอายุ เน้นคุ้มครองเฉพาะช่วงก่อนเกษียณเป็นหลัก โดยเบี้ยเริ่มต้นน้อยมากแต่ทยอยปรับขึ้นตามอายุจนต้องยกเลิกก่อนอายุ 60 ปี ด้วยเพราะเบี้ยสะสมจะสูงเกินทุนประกันที่คุ้มครอง
จึงส่งผลให้การใช้งานแบบประกันทั้ง 2 นี้ จะเป็นไปดังกราฟด้านล่างนี้
ตัวอย่าง : Timeline ในการเลือกประกันมะเร็งโรคร้ายแรงแบบเบี้ยคงที่ และ แบบเบี้ยเพิ่มตามอายุ โดยเน้นให้ความสำคัญไปที่การชดเชยรายได้ตามอายุที่จะสูญหายไปเนื่องจากต้องเข้ารักษาตัวจากโรคร้ายแรง
โดยจากบทความที่แล้ว แอนนี่เองจะมีประกันมะเร็งเบี้ยคงที่ที่คุ้มครองรายได้ทั้งก่อนเกษียณและหลังเกษียณเรียบร้อยแล้วก็คือ BLA อุ่นใจโรคร้าย แต่ด้วยความคุ้มครองรายได้ที่ได้จะอยู่ที่ 1,000,000 บ. เท่านั้น
ซึ่งแอนนี่มองว่าถ้าได้ทุนประกันเพิ่มเป็น 2-3 ล้านบาท จะมั่นใจได้มากขึ้นว่าจะทดแทนรายได้หากโชคร้ายเป็นมะเร็งแล้วต้องหยุดทำงานยาว 2-3 ปีขึ้นไปได้ โดยเฉพาะในวัยทำงานนี้ซึ่งมีภาระหลายอย่าง (รวมถึงในระหว่างการรักษาอาจจำเป็นต้องมีคนในครอบครัวหยุดทำงานตามไปด้วยเพื่อช่วยดูแล)
แต่ปัญหาคือถ้าทำ BLA อุ่นใจโรคร้าย เพิ่ม จะทำให้เกินงบประมาณที่ตั้งไว้ ซึ่งในตอนนั้นเอง ทาง BLA ได้มีการเปิดตัว BLA Cancer Max ขึ้นมาใหม่พอดี
จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้แอนนี่ได้มาศึกษาทำความเข้าใจ BLA Cancer Max ต่อ ว่าจะสามารถตอบโจทย์แอนนี่ที่ต้องการทุนประกันมะเร็งเพิ่มเป็น 2-3 ล้านบาท แต่ขอเบี้ยต่อปีในตอนนั้นให้ไม่ถึงหลักหมื่นบาทจะเป็นไปได้หรือไม่
ซึ่งทำให้ได้พบผลลัพธ์ที่น่าสนใจของ BLA Cancer Max ว่า ไม่ใช่เพียงที่จะคุ้มครองรายได้ก่อนเกษียณอย่างเดียวตามแบบประกันมะเร็งเบี้ยเพิ่มตามอายุทั่วไป แต่ยังมีวิธีที่จะทำให้สามารถคุ้มครองเสริมกับ BLA อุ่นใจโรคร้าย ในตอนหลังเกษียณได้อีกด้วย
โดยจะมีรายละเอียดที่แอนนี่ได้มาทั้งหมดจากเริ่มเจาะลึกข้อมูลของ BLA Cancer Max ดังต่อไปนี้ค่ะ..
มะเร็งกับ 3 ช่วงเวลาสำคัญ ที่ยากจะหลีกเลี่ยงต่อการสูญเสียรายได้
โดยเมื่อแอนนี่เริ่มทำความเข้าใจ BLA Cancer Max นั้น พบว่า BLA Cancer Max จะมองปัญหาเรื่องการคุ้มครองรายได้อย่างจริง โดยได้เน้นให้ความคุ้มครองรายได้ที่สูญเสียไประหว่างการรักษามะเร็งซึ่งไม่สามารถทำงานได้ถึง 3 ช่วงเวลาด้วยกันคือ
- ช่วงเวลาที่ 1 : ตรวจเจอมะเร็งครั้งแรก ที่อาจต้องเริ่มทยอยหยุดทำงานทุกอย่างเพื่อทำการรักษา แต่รายจ่ายประจำทุกอย่างไม่ได้หยุดตามไปด้วย (ประกันมะเร็งเกือบทั้งหมดจะเน้นเพียงส่วนนี้ส่วนเดียว)
- ช่วงเวลาที่ 2 : วันที่ทำเคมีบำบัด ฉายแสง หรือ เป็นผู้ป่วยใน ที่ต้องหยุดทำงานอย่างแน่นอนในวันนั้นพร้อมด้วยรายจ่ายเพื่อมารักษาที่นอกเหนือจากรายประจำอย่าง ค่ากิน ค่าเดินทาง ค่าคนช่วยดูแล ค่าที่พักใกล้ รพ. (ประกันชดเชยรายได้ทั่วไป หรือ แม้แต่ประกันมะเร็งที่มีค่าชดเชยจะบังคับว่าต้องเป็นผู้ป่วยในเท่านั้น ทั้ง ๆ ที่การทำเคมีบำบัดและฉายแสง โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเพียงผู้ป่วยนอก)
- ช่วงเวลาที่ 3 : การจากไปเพราะมะเร็ง ที่อาจมีภาระการเงินต่าง ๆ ที่คนข้างหลังต้องจัดการต่อ โดยเฉพาะอาจมีหนี้ค่ารักษากับทาง รพ. อยู่ด้วย (ประกันมะเร็งเพียงส่วนน้อยมากที่จะมีให้ค่าชดเชยในส่วนนี้)
จึงทำให้หากประกันมะเร็งไม่สามารถชดเชยรายได้ที่หายไปจากทั้ง 3 ช่วงเวลานี้ได้ จะทำให้ทั้ง 3 ช่วงเวลา กลายเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายซ้ำเติมลงการป่วยเป็นมะเร็งลงไปอีก
และด้วยปัญหานี้เองจึงทำให้เกิด BLA Cancer Max ขึ้นมา เพื่อที่แก้ไขปัญหาของประกันมะเร็งที่มีอยู่ในตลาดในขณะนั้นได้
โดย BLA Cancer Max จะเป็นประกันแบบแพ็คเกจ ดังกรอบรายละเอียดด้านล่างนี้ (เนื่องจากโดยปกติแล้ว คปภ. จะมีการกำหนดให้กรมธรรม์ประกันที่มาจากบริษัทประกันชีวิต จะต้องมีสัญญาหลักเป็นประกันชีวิตเพื่อใช้กำหนดอายุของกรมธรรม์เสมอ จากนั้นจึงจะสามารถมีสัญญาเพิ่มความคุ้มครองรายได้ทั้ง 3 ช่วงเวลา มาแนบกับสัญญาหลักประกันชีวิตได้)
แพ็คเกจ BLA CANCER MAX
สัญญาหลักประกันชีวิต
- ทำหน้าที่กำหนดอายุสัญญาหรืออายุกรมธรรม์
- เบี้ยประกันคงที่ตามอายุที่เริ่มทำประกัน
- เป็นสัญญาหลักให้กับสัญญาเพิ่มเติมความคุ้มครองด้วยทุนประกันชีวิตขั้นต่ำ 1 แสนบาท ไม่ทำให้เบี้ยประกันรวมสูงเกินไป และเพียงเพื่อช่วยเหลือค่าฌาปนกิจบางส่วนเท่านั้น
สัญญาเพิ่มคุ้มครอง
- สัญญาเพิ่มเติมที่ 1 : ชดเชดรายได้ที่ต้องหยุดทำงานหารายได้ 2-3 ปี เมื่อโชคร้ายตรวจเจอโรคมะเร็ง โดยทุนประกันที่ได้สูงสุด 3 ล้านบาท
- สัญญาเพิ่มเติมที่ 2 : ชดเชดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการนอน รพ. เพื่อรักษามะเร็ง รวมถึงการทำ เคมีบำบัด ฉายรังสี แบบผู้ป่วยนอก ที่ต้องมีค่าที่พักใกล้ รพ. ในระหว่างคอร์สการรักษา (รวมถึงอาจต้องมีคนในครอบครัวหยุดงานคอยดูแล) โดยชดเชยวันละ 3,000 -10,000 บ. ติดต่อกันสูงสุด 100 วัน และรวมกันไม่เกิน 500 วัน สูงสุด 5 ล้านบาท
- สัญญาเพิ่มเติมที่ 3 : ทดแทนรายได้ที่ต้องสูญเสียไปจากการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง รวมถึงเป็นเงินจัดการภาระต่าง ๆ ที่ได้เหลือไว้ เช่น หนี้ค่ารักษากับทาง รพ. เป็นต้น โดยทุนประกันสูงสุดที่ 3 ล้านบาท
เมื่อเข้าใจวัตถุประสงค์ของ BLA Cancer Max แล้ว แอนนี่จึงเห็นว่า BLA Cancer Max นั้นเป็นรูปแบบประกันมะเร็งที่เหมาะสมในการคุ้มครองรายได้ในช่วงก่อนเกษียณที่ยังทำงานหาเงินอยู่จริง ๆ โดยเฉพาะการคำนึงถึง 3 ช่วงเวลาเลวร้ายที่ครบถ้วน
เพียงแต่ก็ยังสงสัยว่าจะมีประกันมะเร็งอื่น ๆ ที่คล้ายกับรูปแบบนี้อีกหรือไม่ จึงได้เริ่มศึกษาหาแบบประกันมะเร็งที่คล้าย ๆ กันอีก
BLA Cancer Max เทียบกับ ประกันมะเร็งฝั่งประกันภัย
จึงได้เริ่มต้นหาข้อมูลของประกันมะเร็งฝั่งประกันภัยดูก่อน ซึ่งแอนนี่ได้พบว่า ถ้าเป็นประกันมะเร็งของฝั่งประกันภัยที่เป็นแบบเบี้ยเพิ่มตามอายุ ส่วนใหญ่แล้วจะแบ่งการคุ้มครองออกเป็น 2 ช่วงเวลาเท่านั้น คือ
- ตรวจเจอจ่ายเงินก้อน วงเงินไม่เกิน 1.5-2 ล้านบาท
- จ่ายค่ารักษา ผ่าตัด เคมีบำบัด ฉายแสง ตามยอดค่ารักษาจริงไม่เกินวงเงินที่กำหนด หลักหมื่นถึงหลักแสนต่อปี
- จ่ายค่าชดเชยรายได้เป็นผู้ป่วยในสูงสุดวันละ 1,000-3,000 บ. สูงสุด 30 วันต่อปี
- จ่ายค่าชดเชยรายได้ เคมีบำบัด ฉายแสง ในวงเงิน 25,000 บ. ครั้งเดียว
- ค่าเสียชีวิตด้วยมะเร็งหรืออุบัติเหตุ 50,000 บ.
ซึ่งหากพิจารณาจากคุณสมบัติทั้งหมดแล้ว จะเห็นได้ว่า
- วงเงินตรวจเจอจ่ายเงินก้อนนั้นจะมีเพดานอยู่ที่ประมาณ 1.5-2 ล้านบาท จึงจำเป็นต้องทำประกันหลายบริษัททดแทน ซึ่งตอนสมัครจำเป็นต้องแถลงว่ามีประกันมะเร็งกับบริษัทใดบ้าง ซึ่งเสี่ยงที่จะทำให้บริษัทอื่นไม่รับทำประกันได้
- วงเงินค่ารักษาจะไปซ้ำซ้อนกับ ประกันสุขภาพ หรือ ประกันค่ารักษามะเร็ง ซึ่งคล้ายกับการที่จะเลือกประกันค่ารักษามะเร็งต้องมั่นใจแล้วว่าจะไม่ทับซ้อนกับประกันสุขภาพที่จะทำ
- ส่วนใหญ่ค่าชดเชยรายได้ จะได้เฉพาะเป็นผู้ป่วยในเท่านั้น และ มีเฉพาะแผนที่มีค่ารักษาร่วมด้วย ทำให้หากการทำเคมีบำบัดหรือฉายแสงเป็นแบบผู้ป่วยนอกจะไม่สามารถเคลมค่าชดเชยรายวันนี้ได้ และวงเงินค่าชดเชยที่ได้จะค่อนข้างน้อยมากเหมือนการรักษานอน รพ. ทั่วไป ที่ไม่ได้คำนึงว่าบางครั้งเป็นผุ้ป่วยนอกที่ไม่ได้นอน รพ. แต่ต้องหาที่พักใกล้ ๆ รพ. แทน และไม่ได้คำนึงว่า จำเป็นต้องมีคนในครอบครัวหยุดงานอย่างน้อย 1 คน เพื่อมาดูแลร่วมด้วย รวมถึงจะให้ชดเชยรายวันไม่เกิน 30 วันต่อปีเท่านั้น
- หรือ หากมีค่าชดเชยรายได้แบบผู้ป่วยนอกให้ก็จะเป็นแบบเงินก้อนครั้งเดียว ซึ่งวงเงินค่อนข้างน้อย
- วงเงินค่าเสียชีวิตจากมะเร็งจะเน้นช่วยค่าปลงศพเท่านั้น (ค่าหีบศพ ค่าห่อศพ ค่าฉีดยาป้องกันศพเน่า ค่าแต่งตัวให้ศพ ค่าจ้างช่างตัดผม ค่าจ้างหมอเย็บศพ) ไม่รวมถึงภาระอื่น ๆ ที่อาจเกิดเป็นหนี้ขึ้นมาในระหว่างการรักษามะเร็ง
จากทั้งหมดนี้เอง ประกันมะเร็งฝั่งประกันภัยที่จะสามารถให้ความคุ้มครองรายได้ 3 ช่วงเวลา ที่สูงถึง 11 ล้านบาท แบบ BLA Cancer Max นั้น จะหาได้ค่อนข้างยากมาก
เพราะส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ตรวจเจอจ่ายจบเป็นหลักมากกว่า และไม่ได้คำนึงว่าประกันมะเร็งจะไปทับซ้อนความคุ้มครองกับ ประกันสุขภาพ หรือ ประกันค่ารักษามะเร็ง ที่หากยังไม่มีประกันลักษณะนี้ในตอนนี้ ก็จำเป็นต้องรีบมีในอนาคตให้เร็วที่่สุด
อย่างไรก็ตามแอนนี่พบว่าประกันมะเร็งฝั่งประกันภัยนั้นจะมีข้อดี คือ จะมีเบี้ยประกันที่ไม่สูงมาก (ตามความคุ้มครองที่ได้) คุ้มครองมะเร็งทุกระยะ ทุกมะเร็ง สมัครทำประกันง่าย เหมาะกับการเริ่มมีประกันเป็นกรมธรรม์เล่มแรกเล่มเดียว และอาจไม่ได้วางแผนว่าจะมีกรมธรรม์อื่น ๆ อีก
ซึ่งข้อดีต่าง ๆ นี้ อาจเป็นไปด้วยเพราะ แนวทางการทำการตลาดของประกันมะเร็งฝั่งประกันภัยที่เน้นง่าย ชัดเจน รวดเร็ว แต่ก็จะมีข้อควรคำนึงเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจเลือกประกันมะเร็งฝั่งประกันภัยดังต่อไปนี้
โดยการรับทำประกันมะเร็งฝั่งประกันภัยนั้น จะเน้นเรื่องการแถลงตามจริงเป็นสำคัญ โดยไม่ต้องตรวจสุขภาพ ไม่ขอประวัติการรักษา และถือว่าผู้สมัครทำประกันสุจริตใจอย่างยิ่ง ซึ่งหากการแถลงตามจริงของผู้สมัครเข้าเกณฑ์ที่บริษัทสามารถรับทำประกันได้ ก็พร้อมจะอนุมัติออก กธ. ได้ในทันที แต่ถ้าสุขภาพทั้งของตนเองหรือครอบครัวไม่เข้าเกณฑ์หรือมีความเสี่ยงที่สูงเกินเกณฑ์ก็จะปฏิเสธการรับทำประกันทันที โดยไม่ขอให้ตรวจสุขภาพพิสูจน์ใด ๆ
เพราะด้วยเบี้ยประกันที่น้อยกว่า และการจ่ายค่าคอมมิชชันให้ตัวแทน/นายหน้า ที่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบคงที่เท่ากันทุกปีซึ่งรวมแล้วมักเยอะกว่าฝั่งประกันชีวิตนั้น ทำให้เหมือนฝั่งประกันภัยจะรับความเสี่ยงมากกว่าฝั่งประกันชีวิต
จึงทำให้วิธีที่จะป้องกันไม่ให้บริษัทประกันภัยรับความเสี่ยงมากเกินไป คือ การมีใบคำขอสมัครทำประกันที่จะต้องช่วยคัดกรองอย่างเข้มข้น ด้วยคำถามเกี่ยวกับการเป็นมะเร็งของคนในครอบครัว กับคำถามด้านสุขภาพที่ส่งผลต่อความเสี่ยงเป็นมะเร็งอย่างชัดเจน (กล่าวคือ ถ้าตอบว่าใช่หรือเคย เมื่อใดก็มีโอกาสสูงที่จะถูกปฏิเสธรับทำประกันทันที)
และ อีกข้อหนึ่งที่น่าสนใจและลดความเสี่ยงให้กับฝั่งประกันภัยได้อย่างมาก คือ โดยส่วนใหญ่แล้วบางบริษัทประกันภัยจะมีสิทธิบอกล้างสัญญาได้ตลอดโดยไม่มีระยะเวลาจำกัด โดยเฉพาะหากพบว่าไม่ได้แถลงตามจริงมาตั้งแต่ตอนสมัคร
ดังนั้นตอนทำประกันฝั่งประกันภัยแม้จะดูเหมือนง่ายมาก แต่ตอนเคลมมีโอกาสสูงที่จะถูกหาจุดผิดที่ปกปิดไว้ไม่ได้แถลงอย่างละเอียด เพื่อสามารถบอกล้างสัญญาก่อนที่จะเคลมได้
โดยสัญญาประกันมะเร็งที่บอกล้างสัญญาได้ตลอดเวลานี้ ภายในกรมธรรม์จะมีเฉพาะการชี้แจ้งความสมบูรณ์ของสัญญาและสิทธิการบอกล้างเท่านั้น
ซึ่งแน่นอนว่า ผู้สมัครทำประกันมักไม่ทราบเรื่องนี้ หรือ อาจจำประวัติการรักษาตนเองไม่ได้หรือไม่ทราบว่าแพทย์มีการระบุแบบนี้ลงไปในประวัติด้วย จึงไม่ได้จริงจังในการแถลงสุขภาพมากนัก เพราะคิดว่าคงจะอะลุ่มอลวยกันได้ในตอนเคลม
แต่ในความเป็นจริงแล้วบริษัทประกันจะสามารถจับจุดผิดทุกเม็ดเพื่อที่จะบอกล้างสัญญาได้ตามสิทธิเสมอ ดังนั้นการทำประกันมะเร็งฝั่งประกันภัยจะห้ามปกปิดข้อมูลเป็นอันขาด
ในขณะที่ฝั่งประกันชีวิตอย่าง BLA Cancer Max นั้น จะมีเงื่อนไขการไม่โต้แย้งความไม่สมบูรณ์ของสัญญาเข้ามาด้วย จึงทำให้บริษัทจะมีสิทธิบอกล้างสัญญาเพราะไม่ได้แถลงตามจริงในระยะเวลาเพียง 2 ปีแรกหลังทำประกันเท่านั้น ซึ่ง 2 ปีเป็นระยะเวลาที่นานพอที่จะช่วยกรองได้ว่าไม่ได้เป็นมะเร็งจริง ๆ มาก่อนทำประกัน
เมื่อเลย 2 ปีไปแล้ว โรคร้ายแรงและอาการผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับโรคร้ายแรงที่ปกปิดไม่ได้แถลงตอนสมัครทำประกันอย่างอาการความเสี่ยงต่าง ๆ ที่สามารถพัฒนาเป็นโรคมะเร็งได้ เช่น ติ่งเนื้อ เนื้องอก กระเพาะอักเสบ เป็นต้น
บริษัทจะทำได้เพียงไม่คุ้มครองโรคร้ายแรงที่ได้เป็นมาก่อน หรือ ได้มีอาการผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับโรคร้ายแรงมาก่อน ที่จะทำประกันรวมถึงในระยะเวลารอคอย 90 วัน เท่านั้น ซึ่งจะสามารถสรุปข้อยกเว้นความคุ้มครองได้ดังต่อไปนี้
ปกติทางฝั่งประกันภัยมักจะสามารถทำประกันมะเร็งออนไลน์ได้เลย แต่ด้วยการมีคำถามที่ค่อนข้างเฉพาะเจาะจงในการคัดกรอง จึงจะไม่ได้มีการให้แนบประวัติการรักษาใด ๆ เพิ่มเติมได้
ในขณะที่เพื่อความมั่นใจในเรื่องความคุ้มครองตั้งแต่ตอนสมัครและไม่ต้องกังวลเรื่องสิทธิบอกล้างสัญญา หรืออาการผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับโรคร้ายแรง ตัวประกัน BLA Cancer Max จะสามารถเลือกแนบประวัติการรักษาทั้งหมดหรือผลตรวจสุขภาพล่าสุด เพื่อช่วยในการแถลงได้อีกด้วย (และยังไม่มีให้แถลงการเป็นมะเร็งของคนในครอบครัวเหมือนกับฝั่งประกันภัยอีกด้วย)
ทั้งหมดนี้เองจึงทำให้ BLA Cancer Max มีความปลอดภัยในการเคลมได้มากขึ้นพอสมควร เมื่อเทียบกับฝั่งประกันภัยบางบริษัทที่สามารถถูกบอกล้างสัญญาได้ตลอด
อย่างไรก็ตามทั้งฝั่งประกันชีวิตและฝั่งประกันภัย หากพบว่ามีการปลอมแปลงเอกสารโดยจงใจทุจริตเพื่อเคลมประกัน จะสามารถบอกเลิกสัญญาได้ตลอดไม่มีการจำกัดระยะเวลา
นอกจากนี้ สิ่งที่ต้องระวังอีกอย่างของฝั่งประกันภัย (ที่แม้จะเป็นประกันมะเร็งเบี้ยคงที่ ที่จ่ายเบี้ยมากตั้งแต่แรกเพื่อเผื่อไว้ช่วยจ่ายในปีหลังด้วย) คือ เงื่อนไขของการต่ออายุหรือการขอปรับเพิ่มเบี้ย
โดยในกรมธรรม์ฝั่งประกันภัยมักจะมีข้อความระบุว่าขอสงวนสิทธิตามดุลยพินิจของบริษัท ซึ่งนั้นจะเป็นการเปิดช่องให้ไม่ต่ออายุ หรือ อาจมีการเพิ่มเบี้ยได้ แม้จะเป็นเบี้ยแบบคงที่ก็ตาม
โดยปัญหานี้มักเกิดกับการเคลมประกันมะเร็งแล้วพบว่า มีการปกปิดอาการผิดปกติบางอย่าง จนทำให้ไม่สามารถเคลมโรคมะเร็งนี้ได้ แต่ก็ยังคงต้องให้ความคุ้มครองมะเร็งชนิดอื่นต่อ ด้วยหากมีเงื่อนไขบอกล้างสัญญาได้เพียง 2 ปี
และมักเกิดกับ ประกันมะเร็งที่เจอจ่ายไม่จบในมะเร็งระยะไม่ลุกลาม หรือ เป็นแบบมีค่ารักษา หรือ แบบมีค่าชดเชยรายวัน คือ เป็นประกันมะเร็งที่หลังจากเจอจ่ายไปแล้วยังมีความคุ้มครองเหลือดูแลต่อไปอยู่
แต่ด้วยการเป็นมะเร็งไปแล้ว มีให้ความคุ้มครองบางส่วนไปแล้ว ย่อมทำให้ความเสี่ยงภัยสูงขึ้นมากกว่าตอนยังไม่เป็นมะเร็งแน่นอน ซึ่งทำให้อาจเสี่ยงต่อการถูกเพิ่มเบี้ย หรือ ไม่ต่ออายุสัญญาได้ ตามตัวอย่างเงื่อนไขการต่ออายุของบริษัทประกันภัย 2 ตัวอย่างด้านล่างนี้
ทั้งนี้ในฝั่งประกันชีวิตอย่าง BLA Cancer Max จะไม่มีข้อความขอสงวนสิทธินี้ และรับประกันการต่ออายุ โดยจะต่ออายุอัตโนมัติหากชำระเบี้ยไม่เกินระยะเวลาผ่อนผัน (60 วัน) เท่านั้น
BLA Cancer Max เทียบกับ ประกันมะเร็งฝั่งประกันชีวิต
แอนนี่พบว่า ถ้าเป็นประกันมะเร็งของฝั่งประกันชีวิตที่เน้นในกรณีแบบเจอจ่ายจบนั้นส่วนใหญ่จะเป็นประกันโรคร้ายแรงเจอจ่ายจบเสียมากกว่า ค่อนข้างน้อยที่จะมีในลักษณะของประกันมะเร็งเจอจ่ายจบอย่างเดียว หรือ ไม่มีเลยที่จะเป็นประกันมะเร็ง 3 ช่วงเวลาสำคัญแบบ BLA Cancer Max
แต่อย่างไรก็ตามถ้าหากเป็นลักษณะ จ่ายชดเชยรายวัน และ จ่ายเสียชีวิตด้วยมะเร็ง จะมีของ AIA ในแบบประกันสัญญาเพิ่มเติมที่ต้องแนบกับประกันชีวิตอย่าง Health Cancer และ Care for Cancer (Care for Cancer เพิ่งจะมีในปี 2567 ทำให้ในตอนแอนนี่ศึกษาแผนประกันมะเร็งที่ใกล้เคียงจะมีเพียง Health Cancer เท่านั้น)
โดย Health Cancer จะเน้นให้ค่าชดเชยรายวันสูงสุดที่ 500 วัน เฉพาะเป็นผู้ป่วยในนอน รพ. ด้วยโรคมะเร็ง โรคโปลิโอ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังชนิดถุงลมปอดโป่งพอง โรคกล้ามเนื้อเสื่อม โรคระบบประสาทมัลติเพิลสะเคลอโรสิส และโรคตับแข็ง แต่จะไม่รวมถึงค่าชดเชยการทำเคมีบำบัดฉายแสงแบบผู้ป่วยนอก
ซึ่งทำให้เป็นจุดอ่อนสำคัญของ Health Cancer ที่ทำให้ในภายหลังเกิดการพัฒนาเป็น Care for Cancer ขึ้นมา ที่มีการให้ค่าชดเชยการรักษามะเร็งแบบผู้ป่วยนอกที่ต้องมีฉีดยาเข้าร่างกายได้ด้วย และหากต้องเป็นผู้ป่วยในจะให้ค่าชดเชยเพิ่มขึ้นอีกถึง 4 เท่า หรือแม้แต่การตรวจวินิจฉัยฉายภาพขั้นสูงที่ไม่ได้เป็นภาระต่อร่างกายก็ยังมีให้ค่าชดเชยในฐานะผู้ป่วยนอกเช่นกัน แต่ได้สูงสุดปีละ 2 ครั้งเท่านั้น
เพียงแต่ในหนึ่งวัน Care for Cancer จะได้ค่าชดเชยอย่างใดอย่างหนึ่งที่สูงสุดเท่านั้น ไม่สามารถนำค่าชดเชยแต่ละแบบมารวมกันได้ โดยชดเชยรายวันจะสามารถให้สูงสุดได้ถึง 1,000 วัน
รวมถึงทั้ง Health Cancer และ Care for Caner ทั้ง 2 แบบ จะให้เงินก้อนชดเชยการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเช่นกัน และด้วยคุณสมบัตินี้เองจึงทำให้สามารถนำแบบประกันทั้ง 2 มาเปรียบเทียบกับ Cancer Max เฉพาะในส่วนสัญญาค่าชดเชยรายวัน และค่าชดเชยเงินก้อนจากการเสียชีวิตด้วยมะเร็งได้
ทั้งนี้จะเป็น Health Cancer ที่ให้ความคุ้มครองค่าชดเชยรายวันได้จำกัดที่สุด เนื่องจากต้องเป็นผู้ป่วยในเท่านั้น ในขณะที่ Cancer Max เคมีบำบัดฉายแสงผู้ป่วยนอกได้ จะรองลงมา และข้อจำกัดน้อยที่สุดจะเป็น Care for Cancer ที่ได้กว้างถึงวิธีการรักษามะเร็งแบบผู้ป่วยนอกที่ต้องมีการฉีดยา ฉายแสง และฉาพภาพขั้นสูง
ซึ่งความคุ้มครองที่ได้จะสะท้อนออกมาที่เบี้ยประกันในแต่ละอายุดังต่อไปนี้
การเปรียบเทียบประกันมะเร็งค่าชดเชยรายวัน และค่าชดเชยเงินก้อนเสียชีวิตด้วยมะเร็งของแบบประกัน Cancer Max (CM), Health Cancer (HC) และ Care for Cancer (CC) นั้น จะเน้นปรับทุนคุ้มครองให้ใกล้เคียงกันมากที่สุด คือ ชดเชยรายวันรวมกันสูงสุดที่ 5 ล้านบาท และเสียชีวิตด้วยมะเร็งที่ 1 ล้านบาทเท่ากัน
โดยเนื่องจาก Care for Cancer จะให้ชดเชยการรักษามะเร็งผู้ป่วยนอกได้ถึง 1,000 วัน จึงได้ปรับลดชดเชยรายวันหมวดนี้เหลือที่ 5,000 บ.ต่อวัน เพื่อที่ค่าชดเชยรวมกันจะได้ที่ 5 ล้านบาทพอดี แม้ว่าหากเป็นผู้ป่วยใน Care for Cancer จะได้ค่าชดชเยถึงวันละ 20,000 บ. หรือ 4 เท่าของผู้ป่วยนอก และอาจทำให้ค่าชดเชยรวมเกิน 5 ล้านบาทได้ก็ตาม
ซึ่งจะทำให้ได้ผลการเปรียบเทียบเบี้ย 3 ช่วงอายุ คือ อายุ 0-30 อายุ 31-60 และ อายุ 61-79 ดังต่อไปนี้ (ทั้ง Health Cancer และ Care for Cancer จะคุ้มครองถึงอายุครบ 80 ปีเท่านั้น)
ผลการเปรียบเทียบ : Cancer Max เบี้ยจะน้อยที่สุดเกือบทุกอายุ ที่เบี้ยในระดับไม่เกิน 3,000 บ. นี้
ผลการเปรียบเทียบ : Health Cancer เบี้ยจะน้อยกว่าในทุกอายุ เนื่องด้วยข้อจำกัดด้านผู้ป่วยใน ในขณะที่ Cancer Max เพศชาย เบี้ยจะน้อย Care for Cancer ในเกือบทุกอายุ แต่ได้ค่าชดเชยเคมีบำบัดฉายแสงผู้ป่วยนอกต่อวัน มากกว่าถึง 2 เท่า แต่ในทางกลับ กัน Cancer Max เพศหญิงที่ความเสี่ยงมะเร็งสูงกว่าเพศชายในช่วงอายุ 36-55 ปี เบี้ยจะสูงกว่า Care for Cancer อย่างชัดเจน ซึ่งก็ด้วยเพราะค่าชดเชยผู้ป่วยนอกที่มากกว่านี้เอง อย่างไรก็ตามด้วยเบี้ยที่มากสุดไม่เกิน 20,000 บ.ต่อปี ในช่วงอายุ 31-60 ปี แต่มีโอกาสได้ค่าชดเชยสูงสุดถึง 5 ล้านบาท รวมถึงคุ้มครองเสียชีวิตด้วยมะเร็ง 1 ล้านบาท ประกันมะเร็งแบบนี้จึงน่าสนใจมาก
ผลการเปรียบเทียบ : อายุ 61 ปีเป็นต้นความเสี่ยงมะเร็งของผู้หญิงจะน้อยกว่าผู้ชายจึงทำให้เบี้ยทั้ง 3 แบบประกันของเพศหญิงจะมีความใกล้เคียงกัน ในขณะที่เพศชายเบี้ยจะสูงมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่ง Cancer Max กับ Care for Cancer จะมีเบี้ยที่ค่อนข้างใกล้กันมาก เว้นแต่ช่วงอายุ 71 ปีเป็นต้นไปที่ Cancer Max จะเริ่มฉีกออกมากขึ้น ด้วยเพราะความเสี่ยงมะเร็งที่มากขึ้น และการให้ค่าชดเชยส่วนผู้ป่วยนอกที่มากกว่าถึง 2 เท่า
เนื่องจากค่าชดเชยเสียชีวิตด้วยมะเร็งของทั้ง 3 แบบประกันจะเท่ากันที่ 1 ล้าน และเงื่อนไขการเคลมไม่แตกต่างกัน จึงทำให้จุดที่จะตัดสินว่าแบบใดจะน่าสนใจกว่ากันจะอยู่ที่เบี้ยของค่าชดเชยรายวัน ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเน้นค่าชดเชยไปที่เคมีบำบัดฉายแสงผู้ป่วยนอกแล้ว Cancer Max ย่อมน่าสนใจที่สุด
โดยเฉพาะในช่วงอายุ 31-60 ปี ที่แม้เบี้ยเพศหญิง Cancer Max จะสูงกว่า แต่เบี้ยก็ยังมีความแตกต่างกันเพียงหลักร้อยหลักพันเท่านั้น ในขณะที่เงินชดเชยที่ได้แตกต่างกันถึงหลักหมื่นหลักแสนได้ไม่ยาก
เนื่องด้วยเคมีบำบัดจะให้เป็นชุด ใช้เวลา 1-5 วันต่อชุด แต่ละชุดห่างกัน 3-4 สัปดาห์ ซึ่งจะได้รับเคมีบำบัดเฉลี่ย 6-8 ชุดและการฉายรังสี จะอยู่ที่วันละ 1 ครั้ง 5 วันต่อสัปดาห์ หยุดพัก 2 วัน แล้วเริ่มต้นใหม่ ซึ่งจะใช้เวลา 6-8 สัปดาห์
ซึ่งลักษณะการทำเคมีบำบัดและฉายแสงแบบนี้นี่เอง ทำให้การมีที่พักอยู่ใกล้ รพ. การดูแลผลข้างเคียง และอาหารการกินที่ดีจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก การได้ค่าชดเชยผู้ป่วยนอกที่สูงกว่าจึงเป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน
ในขณะที่อายุ 61 ปีเป็นต้นไป เบี้ยที่เพิ่มขึ้นตามอายุจะเพิ่มขึ้นที่ละหลักหมื่นบาท แต่ก็ถือว่าเบี้ยยังค่อนข้างถูกมากเมื่อเทียบกับเงินชดเชยรวมทั้งหมด รวมถึงหากเบี้ยดูแล้วจะสูงไปอย่าง Cancer Max ก็ยังสามารถปรับลดเงินชดเชยรายวันลงมาได้ เช่น เหลือที่ 5,000 บ.ต่อวัน เท่ากับ Care for Cancer ในส่วนผู้ป่วยนอก แต่เบี้ยที่ได้ก็ลดลงอย่างมากพอสมควร
จึงทำให้นำไปสู่คำถามใหม่ของแอนนี่ว่า ถ้าอนุสัญญาเจอจ่ายจบที่เบี้ยเพิ่มตามอายุนั้น จะไม่ควรเก็บไว้หลังอายุ 60 ปี เพราะเบี้ยสะสมจะเกินทุนประกันโดยใช้เวลาไม่นาน แต่ถ้าเป็นอนุสัญญาชดเชยวัน กับชดเชยเสียชีวิตด้วยมะเร็ง จะควรเก็บไว้ดีหรือไม่
ซึ่งคำตอบของคำถามนี้ แอนนี่จะต้องไปพิจารณาเบี้ยประกันแยกตามอนุสัญญาอีกครั้ง แต่อย่างน้อยก็ทำให้แอนนี่ตัดสินใจได้ไม่ยากแล้วว่า ถ้าเป็นอายุก่อนเกษียณหรือไม่เกิน 60 ปี BLA Cancer Max จะตอบโจทย์แอนนี่ได้อย่างมาก ด้วยค่าชดเชยผู้ป่วยนอกที่มากกว่าและเบี้ยแตกต่างกันไม่มากนัก
BLA CANCER MAX
ประกันมะเร็งที่ตอบโจทย์
แม้ BLA Cancer Max จะเป็นประกันมะเร็งคุ้มครองรายได้ก่อนเกษียณที่ตอบโจทย์แอนนี่พอสมควร โดยเฉพาะในส่วนความคุ้มครองครบทั้ง 3 ช่วงเวลาเลวร้าย แต่แอนนี่ก็ยังย้ำกับตนเองว่าควรทำความเข้าใจถึงความคุ้มครองอย่างละเอียด เงื่อนไขการทำประกัน และการแถลงสุขภาพ ก่อนการตัดสินใจเลือกใช้งาน ซึ่งจะมีรายละเอียดต่อไปนี้
ตัวอย่าง : Timeline ความคุ้มครองรายได้ BLA Cancer Max แผนเอ็มเมอร์รัล (2,000,000 บ.)
BLA Cancer Max
คุ้มครองจนถึงอายุ 90 ปี
(เริ่มคุ้มครองหลังสัญญามีผลบังคับ 90 วัน)
สัญญาหลัก บีแอลเอ อุ่นใจ : คุ้มครองกรณีตรวจเจอมะเร็ง
กรณีมีชีวิตอยู่จนครบสัญญา
- ผู้ทำประกันรับเงิน 100,000 บาท ในส่วนของทุนสัญญาหลักประกันชีวิต
กรณีเสียชีวิตทุกกรณี
- ผู้รับผลประโยชน์ที่ผู้ทำประกันระบุไว้ รับเงิน 100,000 บาท ในส่วนของทุนสัญญาหลักประกันชีวิต
สัญญาเพิ่มเติม BLA First Cancer (บีแอลเอ เฟิสต์ แคนเซอร์) : คุ้มครองกรณีตรวจเจอมะเร็ง
กรณีตรวจเจอมะเร็ง (ยกเว้น มะเร็งระยะ 0 ที่ยังไม่ลุกลามไปเนื้อเยื่อข้างเคียง มะเร็งผิวหนังทั่วไป และ มะเร็งชนิดที่รุนแรงใกล้เคียงกัน)
- รับเงิน 100% ของทุนประกันโรคร้ายแรง หรือ % ที่เหลือ หากมีการจ่ายผลประโยชน์ในกรณีมะเร็งระยะ 0 ไม่ลุกลามไปเนื้อเยื่อข้างเคียงแล้ว
- ทั้งนี้หากผู้ทำประกันเสียชีวิต ในระหว่างที่บริษัทพิจารณาการจ่ายเงินผลประโยชน์ที่คุ้มครอง บริษัทจะจ่ายเงินผลประโยชน์ให้แก่ผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์
กรณีตรวจเจอมะเร็งระยะ 0 (ที่ยังไม่ลุกลามไปเนื้อเยื่อข้างเคียง) รวมถึงมะเร็งชนิดที่รุนแรงใกล้เคียงกันต่อไปนี้
- ระยะที่ 0-1 มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งต่อมไทรอยด์ มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
- ระยะที่ 0-2 มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด Chronic Lymphocytic Leukemia
- ระยะที่ 0-1 มะเร็งผิวหนัง เฉพาะชนิด Malignant Melanoma
- ระยะที่ 0 ของกลุ่มเนื้องอกรังไข่ชนิด Borderline Tumor
- รับเงิน 20% ของทุนประกันต่อมะเร็งที่เจ็บป่วย (แต่ละมะเร็งต้องไม่เกี่ยวข้องกัน) โดยรวมทุกการเคลมต้องไม่เกิน 100% ของทุนประกันโรคร้ายแรง
- *มะเร็งระยะไม่ลุกลามไปเนื้อเยื้อข้างเคียง เป็นระยะมะเร็งที่มักจะยังไม่แสดงอาการผิดปกติใด ๆ ออกมา ทำให้ส่วนใหญ่แล้วจะตรวจเจอเฉพาะจากการขอตรวจสุขภาพแบบตรวจคัดกรองมะเร็งเท่านั้น (หลักพันจนถึงหลักหมื่นบาท) โดยหากตรวจเจอเพราะเริ่มมีอาการผิดปกติ มะเร็งมักจะเติบโตเลยระยะนี้ไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นการเคลมมะเร็งในระยะนี้จึงมีโอกาสเกิดขึ้นได้ค่อนข้างน้อยมาก
สัญญาเพิ่มเติม BLA Daily Cancer (บีแอลเอ เดย์ลี่ แคนเซอร์) : คุ้มครองกรณีเป็นผู้ป่วยในรักษาโรคมะเร็ง
กรณีมีความจำเป็นทางการแพทย์ต้องเป็นผู้ป่วยใน ในโรงพยาบาล ด้วยอาการเจ็บป่วยจากโรคมะเร็ง
- จ่ายผลประโยชนค่ารักษาพยาบาลชดเชยรายวันตามแผนที่เลือกไว้ (3,000 บ. / 5,000 บ. / 10,000 บ. ต่อวัน) สูงสุดไม่เกิน 100 วันต่อ
การพักรักษาเป็นผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง และรวมกันไม่เกิน 500 วัน (หากเกิน 100 วันแล้ว จะต้องรอ 90 วัน จึงจะนับเป็นครั้งการรักษาใหม่)
กรณี เคมีบำบัด รังสีบำบัด หรือ
การทำหัตถการรักษาโรคมะเร็ง หรือ
การต้องพักในโรงพยาบาลนานกว่า 6 ชั่วโมง แต่ไม่เกิน 24 ชั่วโมง
- จ่ายผลประโยชนค่ารักษาพยาบาลชดเชยรายวัน โดยถือเสมือนว่า
ผู้ทำประกันได้รับการตรวจรักษาในฐานะผู้ป่วยในจำนวน 1 วัน
สัญญาเพิ่มเติม BLA Ending Cancer (บีแอลเอ เอ็นดิ้ง แคนเซอร์) : คุ้มครองเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง
กรณีเสียชีวิตสืบเนื่องจากโรคมะเร็ง
- จ่ายผลประโยชน์ตามแผนที่เลือก (300,000 - 3,000,000 บ.) ให้กับผู้รับผลประโยชน์ตามกรมธรรม?
นอกจากหลักเกณฑ์ความคุ้มครองแล้ว สิ่งที่สำคัญที่แอนนี่จะพลาดไม่ได้เลยในการทำความเข้าใจอย่างละเอียด คือ รายละเอียดคำนิยามโรคมะเร็งที่ประกันคุ้มครอง ซึ่งคำวินิจฉัยโรคของแพทย์จะจำเป็นต้องตรงกับคำนิยามความคุ้มครองในกรมธรรม์เท่านั้นจึงจะสามารถเคลมได้
จึงเป็นสาเหตุสำคัญในการตรวจวินิจฉัยกับแพทย์ การแจ้งแพทย์ว่ามีประกันมะเร็ง และนำกรมธรรม์ทั้งแบบเล่ม หรือ แบบไฟล์ PDF ให้ทางแพทย์ได้ร่วมพิจารณาด้วย จะช่วยให้ลดเวลาการที่ต้องกลับมาเพื่อขอคำขยายความคำวินิจฉัยจากแพทย์เพิ่มเติมให้ตรงกับคำนิยามได้อย่างมาก ซึ่งตรงตามที่มีระบุไว้ในกรมธรรม์ดังนี้
ภายหลังเห็นหลักเกณฑ์ความคุ้มครอง และแผนต่าง ๆ ที่มีใน BLA Cancer Max แล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยว่าจะได้ทำประกันหรือไม่ จะอยู่ในขั้นตอนต่อไปนี้
ซึ่งเป็นขั้นตอนที่แอนนี่ถือว่าสำคัญที่สุดที่ต้องเข้าใจก่อนสมัครทำประกันต่าง ๆ รวมถึง BLA Cancer Max เพราะไม่ได้เพียงส่งผลต่อการพิจารณารับทำประกันเท่านั้น แต่จะส่งผลต่อการพิจารณาเคลมประกันโดยตรงร่วมด้วย
BLA Cancer Max จะมีคำถามที่ประกอบการสมัครที่ควรต้องแถลงตามจริง เพื่อป้องกันการถูกบอกล้างสัญญาภายใน 2 ปี ดังต่อไปนี้ (จำนวนคำถามจะมีน้อยกว่าการทำประกันชีวิตและการทำประกันชีวิตควบโรคร้ายแรง)
1. ท่านมีประกันชีวิต หรือประกันสุขภาพ หรือประกันอุบัติเหตุ หรือกำลังขอเอาประกันภัยดังกล่าวไว้กับบริษัทนี้หรือบริษัทอื่นหรือไม่ *ไม่มีผลต่อการพิจารณาโดยตรง สอบถามเพียงป้องกันการฟอกเงิน
2. ท่านเคยถูกปฏิเสธ เลื่อนการรับประกันภัย เพิ่มอัตราเบี้ยประกันภัย เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขสำหรับการขอเอาประกันภัย หรือการขอกลับคืนสู่สถานะเดิม หรือการขอต่ออายุของกรมธรรม์ จากบริษัทนี้หรือบริษัทอื่นหรือไม่ *เพื่อพิจารณาว่าจะต้องขอประวัติการรักษาประกอบการพิจารณาหรือไม่
3. ท่านดื่มหรือเคยดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นประจำหรือไม่ *เพื่อพิจารณาว่าจะต้องขอตรวจสุขภาพหรือไม่ โดยเฉพาะหากมีการดื่มเป็นประจำทุกสัปดาห์ในปริมาณมาก โดยตอบตามที่เคยตอบแพทย์พยาบาลตอนเข้า รพ. หรือตอนตรวจสุขภาพ(ถ้ามี)
4. ท่านสูบหรือเคยสูบบุหรี่ หรือยาสูบชนิดอื่นหรือไม่ *เพื่อพิจารณาว่าจะต้องขอตรวจสุขภาพหรือไม่ โดยเฉพาะหากมีการสูบเป็นประจำและนานหลายปี โดยตอบตามที่เคยตอบแพทย์พยาบาลตอนเข้า รพ. หรือตอนตรวจสุขภาพ(ถ้ามี)
5. สอบถามเกี่ยวน้ำหนักส่วนสูง (ค่าดัชนีมวลกายที่รับทำประกันได้จะอยู่นอกเส้นสีแดง) และสอบถามในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา น้ำหนักตัวของท่านเปลี่ยนแปลงหรือไม่ *เพื่อพิจารณาว่าจะต้องขอตรวจสุขภาพหรือไม่ หากน้ำหนักตัวเปลี่ยนแปลงมากกว่า 5 kg ในรอบ 6 เดือน โดยตอบตามที่เคยมีผลบันทึกของแพทย์พยาบาลตอนเข้า รพ. หรือตอนตรวจสุขภาพ (ถ้ามี)
6. ในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ท่านเคยมีประวัติเกี่ยวกับโรคหรืออาการอื่นๆ ต่อไปนี้หรือไม่ (หากเคยมีจะต้องระบุรักษาอะไร ตรวจอะไร เมื่อใด ผลเป็นอย่างไร และสถานพยาบาลที่รักษา เพื่อประกอบการพิจารณาว่าจะต้องขอประวัติการรักษาหรือไม่)
- ได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทั้ง "ผู้ป่วยในและนอก" *โดยเฉพาะที่อาจมีความเสี่ยงสืบเนื่องกลายเป็นโรคร้ายแรงที่ BLA อุ่นใจโรคร้าย คุ้มครอง
- ได้พบแพทย์ และรับคำแนะนําจากแพทย์แผนปัจจุบันหรือแพทย์ทางเลือก เพื่อรับการรักษาใด ๆ *โดยเฉพาะที่อาจมีความเสี่ยงให้สืบเนื่องกลายเป็นโรคร้ายแรงที่ BLA อุ่นใจโรคร้าย คุ้มครอง
- ได้รับการตรวจสุขภาพ หรือ การตรวจเพื่อวินิจฉัยโรค เช่น ความดันโลหิต การตรวจปัสสาวะ การตรวจเอ็กซเรย์ การตรวจเลือด การตรวจเอ็มอาร์ไอ (MRI) การตรวจอัลตราซาวด์ การตรวจโดยการส่องกล้อง การตรวจเมมโมแกรม การตรวจคลื่น ไฟฟ้าหัวใจ การตรวจชิ้นเนื้อ การตรวจด้วยเครื่องมือพิเศษ การตรวจแบบอื่น ๆ *โดยเฉพาะ อัลตราซาวด์ เมมโมแกรม MRI CT-Scan การส่องกล้อง ที่มีโอกาสพบการอักเสบเรื้อรัง ติ่งเนื้อ เนื้องอก ต่าง ๆ ได้
- ได้รับการตรวจสุขภาพประจำปีเบื้องต้น เช่น วัดความดัน การตรวจเอ็กซเรย์ ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ" *โดยเฉพาะผลล่าสุดมีบางค่าเกินเกณฑ์อ้างอิง หรือมีการตั้งข้อสังเกตุจากแพทย์ที่อาจมีความเสี่ยงให้สืบเนื่องกลายเป็นโรคร้ายแรงที่ BLA อุ่นใจโรคร้าย คุ้มครอง
- ได้เข้ารับการ "ผ่าตัด" ใด ๆ *โดยเฉพาะได้ผล Lab ต่าง ๆ ที่มีค่าเกินเกณฑ์อ้างอิงมาจากขบวนการผ่าตัด
7. ท่านเคยมี หรือกำลังมีอาการ ดังต่อไปนี้หรือไม่ (หากเคยมีให้ระบุ วันเดือนปีที่เริ่มมีอาการ และอาการในปัจจุบัน) *แถลงเมื่อมีประวัติพบแพทย์ด้วยอาการด้านล่างนี้ หรือแถลงเมื่อคิดว่าต้องไปพบแพทย์เพราะอาการเหล่านี้ภายใน 2 ปีหลังทำประกันอย่างแน่อน *โดยเป็นอาการที่จะถูกเลื่อนการพิจารณาทำประกันได้ หากยังไม่มีผลการวินิจฉัยที่ชัดเจน
- การมองเห็นผิดปกติ
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ร่างกายสูญเสียประสาทรับความรู้สึก
- ปวดศีรษะรุนแรงเรื้อรัง
- ไอเรื้อรัง
- ไอเป็นเลือด
- เหนื่อยง่ายผิดปกติ
- เจ็บหรือแน่นหน้าอก
- ปวดท้องเรื้อรัง
- อาเจียนหรือถ่ายเป็นเลือด
- ท้องมาน
- มีเลือดปนในปัสสาวะ
- คลำพบก้อนเนื้อ
- การเคลื่อนไหวของร่างกายผิดปกติ
- ใจสั่น
- ท้องเสียเรื้อรัง
- น้ำหนักลด
- ไข้เรื้อรัง
- โรคผิวหนังเรื้อรัง
- ท้องผูกเรื้อรัง
- การพูดผิดปกติ
- ตัวเหลือง ตาเหลือง
- ภาวะการมีโปรตีนปนในปัสสาวะ
- ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง หรือมีน้ำตาลในปัสสาวะ
- ประจำเดือนมามากผิดปกติ
- เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด
- พิการทางร่างกาย
การยื่นประวัติและผลการตรวจสุขภาพพร้อมทำประกันนั้น แม้อาจต้องใช้เวลาใน การขอประวัติการรักษา แต่ก็จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะเคลมประกันได้แน่นอน เมื่อฝ่ายพิจารณาได้เห็นประวัติการรักษาที่เกี่ยวข้องกับคำถามสุขภาพข้อ 6 กับข้อ 7 เรียบร้อยแล้ว และพิจารณาอนุมัติรับทำประกัน
อย่างไรก็ตามหากยังไม่สะดวกขอประวัติ และต้องการทำประกันเร็วที่สุด จะต้อง..
- มั่นใจว่าไม่มีประวัติที่เกี่ยวข้องกับคำถามข้อ 7 ทั้งหมด
- มั่นใจว่าในประวัติที่เกี่ยวข้องกับคำถามข้อ 6 ไม่ได้มีอาการผิดปกติหรือความเสี่ยงใด ๆ ที่อาจจะพัฒนาเป็นโรคร้ายแรงได้ เช่น ติ่งเนื้อ, เนื้องอก, ก้อนเนื้อ, ตุ่มเนื้อ, ซีสต์, ไวรัสตับอักเสบบี, ตับแข็ง, ริดสีดวงทวารหนัก, การอักเสบเรื้อรังของ ปากมดลูก ช่องคลอด ปอด ตับ กระเพาะอาหาร ลำไส้ เป็นต้น
- มีสุขภาพที่แข็งแรง ประวัติของผลตรวจสุขภาพค่าต่าง ๆ อยู่ในเกณฑ์อ้างอิงทั้งหมด
- มั่นใจว่ายากที่จะเป็นโรคร้ายแรงในช่วง 2 ปีหลังทำประกัน
จะสามารถไม่ต้องขอประวัติได้ โดยเพียงตอบคำถามสุขภาพแบบไม่มีความเสี่ยงเท่านั้น
หากเกิดการเคลมขึ้นและการสืบประวัติภายใน 2 ปีหลังกรมธรรม์อนุมัติ แล้วพบว่าไม่ได้แถลงตามจริงและสิ่งที่ไม่แถลงเป็นสาระสำคัญต่อการพิจารณารับทำประกัน จะส่งผลให้บริษัทสามารถบอกล้างสัญญาและคืนเบี้ยประกันทั้งหมดได้
แต่หากเกิดการเคลมและการสืบประวัติภายหลังอายุกรมธรรม์มากกว่า 2 ปี แล้วพบว่าไม่ได้แถลงตามจริงและสิ่งที่ไม่แถลงเป็นสาระสำคัญต่อการพิจารณารับทำประกัน รวมถึงเป็นอาการที่สืบเนื่องหรือเกี่ยวข้องกับโรคร้ายแรงที่จะเคลม จะส่งผลให้บริษัทสามารถยกเว้นความคุ้มครองในโรคร้ายแรงที่จะเคลมได้ แต่ยังคงให้ความคุ้มครองโรคร้ายแรงอื่น ๆ ที่ไม่ได้เป็นก่อนทำประกันต่อไปภายหลังจบการสืบประวัติ
เว้นแต่อาการผิดปกติที่สืบเนื่องให้เป็นโรคร้ายแรงที่ไม่ได้แถลงนั้น ภายหลังทำประกันได้รับการตรวจรักษาจนอาการหายเป็นปกติอย่างน้อย 2 ปีขึ้นไป โดยมีประวัติการรักษายืนยัน
- ถ้าต่อมาเกิดเป็นโรคร้ายแรง จะมีโอกาสโต้แย้งได้ว่า ไม่ได้สืบเนื่องจากอาการผิดปกติที่ไม่ได้แถลงนั้น เนื่องจากได้ทำการรักษาหายขาดเรียบร้อยแล้ว
ผลการพิจารณาของ BLA อุ่นใจโรคร้าย นั้น จะไม่มีผลการพิจารณาแบบถูกขอให้เพิ่มเบี้ยรับความเสี่ยงด้วยปัญหาสุขภาพ เนื่องจากเป็นประกันแบบแพ็คเกจสำเร็จรูปที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเบี้ยประกันได้ จึงทำให้จะมีเพียง แจ้งว่าจะไม่คุ้มครองโรคหรืออาการผิดปกติที่มีในประวัติก่อนทำประกันอะไรบ้างเท่านั้น
ทำให้ในกรณีที่ฝ่ายพิจารณาพบว่า มีปัญหาสุขภาพหรืออาการผิดปกติในประวัติที่ไม่สามารถระบุข้อยกเว้นความคุ้มครองแบบเจาะจงอวัยวะหรือโรคได้ เพราะส่งผลต่อสุขภาพในภาพรวม เช่น ความดันสูง เบาหวาน ดัชนีมวลกายเกินเกณฑ์ ค่าไตเสื่อม เป็นต้น
และด้วยที่ไม่สามารถเพิ่มเบี้ยรับความเสี่ยงทั้งหมดขึ้นมาชดเชยเกณฑ์สุขภาพที่ต่ำกว่ามาตรฐานได้ ก็จะส่งผลให้ฝ่ายพิจารณาเหลือเพียงทางเลือกเดียว คือ จำเป็นต้องขอเลื่อนการรับทำประกันออกไปก่อนเท่านั้น
สรุปจุดเด่น
BLA Cancer Max
จากข้อมูลที่ค่อนข้างเยอะมากทั้งหมดนี่เอง ทำให้แอนนี่จทำการสรุปเปรียบเทียบทั้งหมดทั้งการเปรียบเทียบกับประกันฝั่งบริษัทประกันชีวิต และฝั่งบริษัทประกันภัยดังต่อไปนี้อีกครั้งหนึ่ง
BLA Cancer Max
- มีค่าชดเชยเคมีบำบัดฉายแสงที่ครอบคลุมถึงผู้ป่วยนอก
บริษัทประกันชีวิต
- ค่าชดเชยมักจะต้องเป็นผู้ป่วยในเท่านั้น แม้เคมีบำบัดฉายแสงส่วนใหญ่จะเป็นผู้ป่วยนอกก็ตาม
BLA Cancer Max
- รวมเป็นแพ็คเกจที่เน้นโรคมะเร็งโดยเฉพาะการแถลงสุขภาพจึงมีคำถามที่น้อยกว่ามาก
บริษัทประกันชีวิต
- ส่วนใหญ่เป็นแบบสัญญาเพิ่มเติมที่ต้องแนบกับประกันชีวิต จึงทำให้มีคำถามด้านสุขภาพที่ต้องแถลงมากกว่าพอสมควร
BLA Cancer Max
- ในส่วนสัญญาเจอจ่ายจบจะเน้นเฉพาะโรคมะเร็งเท่านั้น ทำให้เบี้ยประกันลดลง แต่ได้ทุนประกันที่สูงมากขึ้น
บริษัทประกันชีวิต
- ส่วนใหญ่สัญญาแบบเจอจ่ายจบจะไม่ได้มีเฉพาะโรคมะเร็ง แต่ต้องพ่วงโรคร้ายแรงอื่น ๆ ตามมาด้วย ซึ่งทำให้เบี้ยสูงขึ้นแต่ได้ทุนประกันลดลง และโรคร้ายแรงที่เพิ่มขึ้นนั้นอาจไม่ได้ใช้ระยะเวลาการรักษานานหรือมีความเสี่ยงเป็นสูงเท่ากับมะเร็ง
BLA Cancer Max
- เป็นกรมธรรม์แยกที่เกี่ยวข้องกับค่าชดเชยมะเร็งโดยตรง ทำให้บริการจัดการกรมธรรม์ได้ง่ายมากขึ้น ไม่ปะปนกับกรมธรรม์จุดประสงค์ด้านอื่น ๆ
บริษัทประกันชีวิต
- ส่วนใหญ่เป็นสัญญาเพิ่มเติมที่ต้องนำไปแนบกับประกันชีวิต ที่อาจถูกอัพเซลเพิ่มความคุ้มครองต่าง ๆ จนทำให้หลุดวัตถุประสงค์ของมะเร็ง และอาจทำให้ไม่สะดวกต่อการจัดการได้
BLA Cancer Max "คุ้มครองครบ 3 ช่วงเวลา"
- เป็นประกันที่คำนึงถึงช่วงเวลาที่ต้องมีการชดเชยรายได้จริงๆ จากการรักษามะเร็ง จึงให้ทุนประกันรวมกันสูงสุดถึง 11 ล้านบาท
บริษัทประกันภัย "คุ้มครองตอนตรวจเจอ"
- จะเน้นชดเชยรายได้ประจำที่ต้องขาดหายไประหว่างการรักษา แต่ก็ติดข้อจำกัดที่ทุนประกันมักทำได้ไม่สูงมาก
BLA Cancer Max "ค่าชดเชยได้ผู้ป่วยนอกด้วย"
- เข้าใจว่าเคมีบำบัดฉายแสงส่วนใหญ่เป็นผู้นอก และให้ค่าชดเชยได้โดยไม่ต้องเป็นผู้ป่วยใน ซึ่งมีวงเงินให้สูงถึง 5 ล้านนาท หรือ 500 วัน เพียงพอที่หากกลับมาเป็นมะเร็งซ้ำ
บริษัทประกันภัย "ค่าชดเชยเน้นที่ผู้ป่วยใน"
- แม้บางแบบจะให้มากกว่าเจอจ่ายจบ โดยให้ค่าชดเชยมาด้วย แต่ก็เป็นค่าชดเชยหลักพันฐานะผู้ป่วยในเท่านั้น และมักได้เพียง 30 วัน
BLA Cancer Max "มีชดเชยเสียชีวิตด้วยมะเร็ง"
- ซึ่งเป็นส่วนสำคัญด้วยเบี้ยที่ถูกกว่าเบี้ยประกันชีวิตมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรักษามะเร็งมักตามมาด้วยภาระหนี้สินต่าง ๆ ที่อาจสูงถึงหลักล้านได้ไม่ยาก
บริษัทประกันภัย "เสียชีวิตได้ค่าปลงศพ"
- ไม่ได้ให้ความสำคัญในส่วนภาระหนี้สินอื่น ๆ โดยจะเน้นเพียงค่าทำศพหลักหมื่นเท่านั้น
BLA Cancer Max "ความคุ้มครองไม่ทับซ้อน"
- ชัดเจนว่าเป็นแบบประกันชดเชยรายได้โดยตรง ไม่ทับซ้อนกับแบบประกันที่เป็นค่ารักษาอย่างแน่นอน
บริษัทประกันภัย "ความคุ้มครองทับซ้อนได้ง่าย"
- มักให้ความคุ้มครองทั้งค่าชดเชยเงินก้อน และค่ารักษา ซึ่งจะทำให้ไปทับซ้อนกับประกันค่ารักษาอย่างประกันสุขภาพ หรือ ประกันค่ารักษามะเร็งได้ง่าย และเสียเบี้ยค่าประกันภัยส่วนนี้โดยสู้ประกันค่ารักษาโดยตรงไม่ได้
BLA Cancer Max "บอกล้างสัญญา 2 ปีแรก"
- หากพบว่าปกปิดสาระสำคัญ บริษัทสามารถบอกล้างสัญญา เสมือนว่าไม่มีสัญญาเกิดขึ้นมาก่อนภายใน 2 ปี แต่หากเกินว่านี้จะบอกล้างไม่ได้แล้ว
บริษัทประกันภัย "บอกล้างสัญญาได้ตลอด"
- หากพบว่าปกปิดสาระสำคัญ บางบริษัทสามารถบอกล้างสัญญา เสมือนว่าไม่มีสัญญาเกิดขึ้นมาได้ตลอดไป
BLA Cancer Max "ต่ออายุอัตโนมัติ"
- เพียงชำระเบี้ยตามกำหนด หรือ ไม่เกิน 60 วันหลังครบกำหนดชำระเบี้ย กรมธรรม์จะต่ออายุอัตโนมัติแบบไม่มีเงื่อนไขใด ๆ
บริษัทประกันภัย "ต่ออายุแบบมีเงื่อนไข"
- แม้ชำระเบี้ยตามกำหนด กรมธรรม์อาจมีเงื่อนไขสงวนการต่ออายุ หรือ เพิ่มเงื่อนไขความคุ้มครอง หรือ เพิ่มเบี้ยประกัน หากพบว่ามีความเสี่ยงสูงขึ้น หรือ พบว่ามีการปกปิดสาระสำคัญ
BLA Cancer Max "มีโอกาสได้ตรวจสุขภาพพิสูจน์"
- หากแถลงสุขภาพที่อาจมีความเสี่ยงสูง (ไม่รวมคนในครอบครัว) พร้อมส่งประวัติการรักษา บริษัทสามารถออกค่าตรวจสุขภาพให้ได้ตามรายการตรวจสุขภาพที่บริษัทกำหนด หากจำเป็นต่อการพิจารณา
บริษัทประกันภัย "หากไม่เข้าเกณฑ์ไม่รับทันที"
- หากแถลงสุขภาพมีไม่เข้าเกณฑ์ความเสี่ยงแบบปกติ ส่วนใหญ่บริษัทจะปฏิเสธการรับทำประกันในทันที แม้ว่าจะเป็นสุขภาพหรือประวัติการเป็นมะเร็งของครอบครัวก็ตาม ด้วยเพราะคุ้มครองมะเร็งทุกระยะเท่ากันรวมถึงมะเร็งผิวหนัง
BLA Cancer Max "สมัครทำประกันยาก"
- คำถามสุขภาพจะกว้างมากกว่า ต้องทำประกันผ่านตัวแทน และฝ่ายพิจารณามีโอกาสขอข้อมูลเพิ่มได้สูง เพื่อให้มั่นใจตอนเคลมจะไม่มีปัญหา
บริษัทประกันภัย "สมัครทำประกันง่าย"
- คำถามสุขภาพเฉพาะเจาะจงที่มะเร็ง สามารถสมัครทำประกันผ่านระบบออนไลน์ของบริษัทประกันได้ทันที หรือ เพียงติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคาร
ตารางเบี้ยประกัน
BLA Cancer Max
และด้วยข้อสรุปการเปรียบเทียบด้านบน จึงเป็นการย้ำถึงสาเหตุที่สุดท้าย BLA Cancer Max จึงกลายเป็นแบบประกันที่แอนนี่เลือก
แต่เพียงการเลือกแบบประกันได้นั้นจะยังไม่จบขบวนการ เพราะยังจำเป็นต้องเลือกแผนความคุ้มครองภายในแบบประกันอีกครั้ง ว่าจะเลือกแผนที่มีทุนความคุ้มครองที่เท่าใดดี ซึ่งต้องพิจารณาจากตารางเบี้ยและความคุ้มครองแผนต่าง ๆ ของ BLA Cancer Max ตามอายุที่เริ่มทำประกันด้านล่างนี้ร่วมด้วย
ทั้งนี้ในตารางเบี้ย BLA Cancer Max ทุกแผนจะมีการรวมค่าเบี้ยสัญญาหลักประกันชีวิตทุน 100,000 บ. ซึ่งเป็นเบี้ยคงที่ตามอายุที่เริ่มทำประกัน ไว้เรียบร้อยแล้ว
โดยเบี้ยปีต่ออายุจะสามารถแบ่งออกได้เป็นสัญญาทั้งหมดต่อไปนี้
ผลการเปรียบเทียบ : ช่วงอายุนี้เบี้ยจะน้อยมากเมื่อเทียบกับความคุ้มครองที่ได้ โดย Daily Cancer (DC ชดเชยรายวัน) เบี้ยจะสูงที่สุดในบรรดาเบี้ยอนุสัญญาทั้งหมด ด้วยเพราะให้ความคุ้มครองรวมได้สูงถึง 5 ล้านบาท ในขณะที่อนุสํญญาอื่น ๆ จะอยู่ที่ 1 ล้านบาทเท่านั้น (BLA Cancer Max แผน Gold)
ผลการเปรียบเทียบ : ช่วงอายุนี้เบี้ยจะเริ่มมีการเพิ่มขึ้นตามอายุหลักพันบาท โดยเบี้ย DC ชดเชยรายวันยังเป็นเบี้ยที่สูงกว่าเบี้ยอนุสัญญาอื่น ๆ ในเพศเดียวกันตามวงเงินคุ้มครองที่สูงกว่า เพียงแต่จะเห็นได้ชัดเจนว่าเบี้ยเพศหญิงจะสูงกว่าเพศชายอย่างชัดเจนรวมถึง First Cancer (FC ตรวจเจอจ่าย) ตามความเสี่ยงของมะเร็งในเพศหญิงที่มากกว่า แต่อย่างไรก็ตามหากเป็นเรื่องการเสียชีวิต Ending Cancer (EC เงินก้อนเสียชีวิตจากมะเร็ง) เพศชายเบี้ยยังสูงกว่าโดยมีความเสี่ยงด้านชีวิตสูงกว่าเพศหญิงเสมอ
ผลการเปรียบเทียบ : ช่วงอายุนี้ FC ตรวจเจอจ่าย เบี้ยจะเริ่มพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยหากตรวจคัดกรองมะเร็งแล้วว่าไม่มีความเสี่ยงใด ๆ การยกเลิกก่อนที่เบี้ยสะสมจะสูงกว่าทุนประกันเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก โดยยังสามารถเหลือ DC ไว้คุ้มครองแทนได้ ด้วยเบี้ยสะสมยังน้อยกว่าวงเงินความคุ้มครองที่ได้ ในขณะที่ EC นั้นเบี้ยสะสมจะเริ่มเข้าใกล้ทุนประกันที่ได้แม้จะไม่มากกว่าก็ตาม จึงทำให้มักจะเก็บ EC ไว้เฉพาะผู้ที่เป็นมะเร็งแล้วเท่านั้น แต่หากยังไม่มีความเสี่ยงใด ๆ การเก็บเฉพาะ DC ไว้กันเหนี่ยวจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่า รวมถึง DC ยังสามารถลดทุนความคุ้มครองลงได้อีก เพื่อให้ประหยัดเบี้ยได้มากขึ้น
จะเป็นเบี้ยของสัญญาประกันชีวิต BLA อุ่นใจ ในส่วนสิทธิลดหย่อนประกันชีวิต 100,000 บ. กับเบี้ยอนุสัญญา First Cancer ในส่วนสิทธิลดหย่อนประกันสุขภาพ 25,000 บ. (แต่เมื่อรวมกับประกันชีวิตต้องไม่เกิน 100,000 บ.)
โบนัสพิเศษจาก
Release your Risk และ BLA
เนื่องจากทาง Release your Risk จะเน้นการบริการไปที่การวางแผนเกษียณผ่านการบูรณาการเครื่องมือการเงินต่าง ๆ ทั้ง ประกันชีวิต ประกันโรคร้ายแรง ประกันสุขภาพ ประกันบำนาญ กองทุนรวม โดยให้ข้อมูลที่ครบถ้วนมากที่สุดในทุกขั้นตอน เพื่อประกอบการตัดสินใจเลือกใช้เครื่องมือนั้น ๆ โดยไม่มีปัญหาเกิดขี้นตามมาภายหลัง
ซึ่งแน่นอนว่าจะรวมไปถึงการวางแผนให้เครื่องมือที่จำเป็นอย่างเช่น ประกันโรคร้ายแรง ประกันสุขภาพ สามารถอยู่ดูแลได้ตลอดช่วงเกษียณ (ที่รายได้ลดลงแต่ราคาเครื่องมือสูงขึ้นมากตามอายุ) โดยการให้เฉพาะข้อมูลเครื่องมืออย่างเดียวจะไม่เพียงพออีกต่อไป แต่จำเป็นต้องมีการคำนวณสำหรับตอนเกษียณมาร่วมด้วย
ดังนั้นทาง Release your Risk จึงได้พัฒนาเครื่องมือคำนวณขึ้นมา เพื่อให้ท่านที่มีเครื่องมือการเงินเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้วางแผนไปถึงตอนเกษียณ ได้สามารถใช้บริการเครื่องมือคำนวณนี้เพื่อเตรียมการได้ทันกาล และใช้เงินน้อยลงจากเดิมอย่างมาก
**อย่างไรก็ตามหากท่านเลือกสมัครใช้เครื่องมือการเงินต่าง ๆ กับทาง Release your Risk ท่านจะได้โบนัสพิเศษเป็นสิทธิการเข้าใช้เครื่องมือคำนวณต่อไปนี้ ได้โดยไม่ต้องเสียค่าบริการใด ๆ เพิ่มเติม
โบนัสพิเศษ Level -1-
Release Your Risk
สิทธิเข้าใช้เครื่องมือคำนวณวางแผนประกันบำนาญมูลค่า 5,000 บ.
BONUS Level : 1.1
แบบประกัน
เบี้ยไม่น้อยกว่า
ชีวิต/โรคร้ายแรง/สุขภาพ
7,000 - 14,999 บาท (ต่อปีต่อคน)
เครื่องมือคำนวณหาแบบประกันบำนาญผลตอบสูงสำหรับไว้ชำระเบี้ยประกันแบบคงที่ หรือ เป็นเงินบำนาญ ตอนเกษียณ
ช่วยในการคำนวณหาแบบประกันบำนาญของแต่ละบริษัทที่จะใช้เงินน้อยที่สุด
- เพื่อใช้ชำระเบี้ยประกันแบบคงที่ตอนเกษียณได้ (เหมาะอย่างยิ่งกับ BLA อุ่นใจโรคร้าย) โดยประหยัดเงินมากกว่า 50% ขึ้นไป และไม่ต้องกังวลการหาเงินสำหรับชำระเบี้ยตอนเกษียณ
- เพื่อใช้เป็นเงินบำนาญส่วน NEEDs แบบคงที่ต่อเดือนหรือต่อปีในตอนเกษียณได้ โดยเตรียมเงินน้อยลงกว่า 50% ขึ้นไป โดยเป็นเงินที่ไม่ต้องเสียภาษี ไม่ต้องดูแลบริหาร หรือมีความเสี่ยงด้านการลงทุนใด ๆ
BONUS Level : 1.2
แบบประกัน
เบี้ยไม่น้อยกว่า
ชีวิต/โรคร้ายแรง/สุขภาพ
15,000 - 24,999 บาท (ต่อปีต่อคน)
เครื่องมือคำนวณหาประกันบำนาญผลตอบแทนสูงสำหรับไว้ชำระเบี้ยประกันสุขภาพที่เบี้ยเพิ่มตามอายุ ตอนเกษียณ
ช่วยในการคำนวณหาแบบประกันบำนาญของแต่ละบริษัทที่จะใช้เงินน้อยที่สุด
- เพื่อใช้ชำระเบี้ยประกันสุขภาพที่เพิ่มตามอายุตอนเกษียณได้ (เหมาะอย่างยิ่งกับประกันสุขภาพเหมาจ่าย) โดยประหยัดเงินมากกว่า 50% ขึ้นไป และไม่ต้องกังวลการหาเงินสำหรับชำระเบี้ยตอนเกษียณ
โบนัสพิเศษ Level -2-
Release Your Risk
สิทธิเข้าใช้เครื่องมือคำนวณวางแผนเกษียณมูลค่า 20,000 บ.
ช่วยในการคำนวณวางแผนเกษียณ ผ่านการลงทุนในกองทุนรวมลดหย่อนภาษีเป็นอันดับแรก โดยใช้กลยุทธ กองทุน Target Date + กองทุน Global Asset Allocation + Time Segmentation + ประกันบำนาญ + Monte Carlo Simulations + การคำนวณติดตามผล
- สำหรับคำนวณวางแผนเกษียณทั้งส่วนเบี้ยประกันสุขภาพและบำนาญ เพื่อมีโอกาสประหยัดเงินได้มากกว่า 60%-80% ขึ้นไป
- สามารถคำนวณอัตราความอยู่รอดของกองทุนเกษียณที่ต้องการในแต่ละอายุได้ ผ่านการทำ Monte Carlo Simulation
- สามารถคำนวณอัตราความอยู่รอดของกองทุนเกษียณที่เพิ่มขึ้น หากนำบำนาญจากประกันบำนาญมาคำนวณร่วมด้วยในสัดส่วนที่ต้องการได้
- สามารถนำผลการลงทุนจริงที่ได้ในแต่ละปี มาคำนวณติดตามผลคาดการณ์ปรับแผนการลงทุนได้ โดยเฉพาะในกรณีที่มีการเปลี่ยนแผนการลงทุน เช่น ไม่ได้ลงทุนเท่ากันทุกปีตามแผนที่วางไว้ตอนแรก
BONUS Level : 2.1
แบบประกัน
เบี้ยไม่น้อยกว่า
ชีวิต/โรคร้ายแรง/สุขภาพ
25,000 - 49,999 บาท (ต่อปีต่อคน)
เครื่องมือคำนวณ "กองทุนสุขภาพ" สำหรับเบี้ยประกันสุขภาพและค่ารับผิดส่วนแรก ตอนเกษียณ
- สำหรับใช้ชำระเบี้ยประกันสุขภาพเหมาจ่าย และ สำหรับเผื่อค่ารับผิดส่วนแรกในตอนเกษียณ เพื่อมีโอกาสประหยัดเงินได้มากกว่า 60%-80% ขึ้นไป พร้อมการคำนวณร่วมกับบำนาญที่ได้จากประกันบำนาญ หรือจากประกันสังคม
BONUS Level : 2.2
แบบประกัน
เบี้ยไม่น้อยกว่า
ชีวิต/โรคร้ายแรง/สุขภาพ/บำนาญ
50,000 บาท (ต่อปีต่อคน)
ฺเครื่องมือคำนวณ "กองทุนเกษียณ" สำหรับเป็นเงินบำนาญเสริมประกันบำนาญตอนเกษียณ
- สำหรับใช้เป็นบำนาญส่วน WANTs หรือ ส่วนเงินเฟ้อของ NEEDs ตอนเกษียณ เพื่อมีโอกาสประหยัดเงินได้มากกว่า 60%-80% ขึ้นไป พร้อมการคำนวณร่วมกับบำนาญที่ได้จากประกันบำนาญ หรือจากประกันสังคม
สิทธิพิเศษจาก
BLA กรุงเทพประกันชีวิต
นอกจากโบนัสพิเศษจากทาง Release your Risk แล้ว ทางกรุงเทพประกันชีวิต หรือ BLA เอง ก็ยังมีสิทธิพิเศษต่าง ๆ มอบให้กับท่านที่ตัดสินใจเข้าร่วมโอนและเฉลี่ยความเสี่ยงภัยกับทาง BLA ดังต่อไปนี้
PROMOTION เบี้ยปีแรก 0% 4 เดือน
เพื่อให้ท่านสามารถทำการโอนและเฉลี่ยความเสี่ยงได้ง่ายมากขึ้น ทาง BLA จึงมีโปร 0% 4 เดือน ของบัตรและแบบประกันที่เข้าร่วมรายการดังนี้
BLA HAPPY LIFE CLUB
และเมื่อท่านได้เข้าร่วมโอนและเฉลี่ยความเสี่ยงกับทาง BLA เรียบร้อย ท่านจะได้สิทธิพิเศษการใช้บริการฟรี หรือได้รับสินค้าฟรี รวมถึงส่วนลดพิเศษ จากทางบริษัท Partner ของทาง BLA มากมาย ที่ครอบคลุมทั้งสินค้าและบริการในทุกด้านดังต่อไปนี้
BLA HEALTH SERVICES
นอกจากสิทธิพิเศษของบริษัท Partner ต่าง ๆ แล้ว ทางด้านที่เกี่ยวข้องกับการตรวจวินิจฉัยและการรักษา ทาง BLA จะมีบริการที่ดูแลและครอบคลุมเพิ่มเติมจากความคุ้มครองในกรมธรรม์ของท่าน ทั้งก่อนเข้ารับการรักษา ระหว่างการรักษา และ หลังเข้ารับการรักษา ดังต่อไปนี้ (*สิทธิพิเศษจะแตกต่างกันไปตามแบบประกันที่ท่านถืออยู่)
เงื่อนไขที่ต้องทำความเข้าใจก่อนทำประกัน
ในระหว่างขั้นตอนการพิจารณารับทำประกัน อาจจำเป็นต้องมีการขอข้อมูลดังต่อไปนี้ (ตาม พรบ.ป้องกันการฟอกเงิน)
ขอประวัติสุขภาพ/ ขอให้ตรวจสุขภาพ
ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับแหล่งที่มารายได้
ขอหลักฐานทางการเงิน ถิ่นที่อยู่อาศัย
เขตพื้นที่สีแดง (Red Zone)
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ
ภาคเหนือ
▸ ผู้ขอทำประกันมีโอกาสสูงที่จะถูกขอให้ตรวจสุขภาพ
▸ ขอให้แสดงแหล่งที่มาของรายได้ และสินทรัพย์ที่มี (มีที่มาที่ไปว่าทำไมต้องทำประกัน)
เขตจังหวัดสีแดง (Red Province)
อุดรธานี
อุบลราชธานี
ขอนแก่น
หนองบัวลำภู
มหาสารคาม
นครราชสีมา
▸ ผู้ขอทำประกันมีโอกาสสูงที่จะถูกขอให้ตรวจสุขภาพ
▸ ขอให้แสดงแหล่งที่มาของรายได้ และสินทรัพย์ที่มี (มีที่มาที่ไปว่าทำไมต้องทำประกัน)
เงื่อนไขที่สำคัญ
1. ระยะเวลาผ่อนผันชำระเบี้ยประกันภัย 60 วัน
2. กรณีผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต ผู้รับประโยชน์จะต้องรีบแจ้งให้บริษัททราบภายใน 14 วัน นับแต่วันที่เสียชีวิต
3. กรณีที่บริษัทจะไม่คุ้มครอง
(3.1) กรณีไม่เปิดเผยข้อความจริง หรือแถลงข้อความเท็จ บริษัทจะบอกล้างสัญญาภายใน 2 ปี นับแต่ วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามกรมธรรม์ หรือตามการต่ออายุ หรือวันที่บริษัทอนุมัติให้เพิ่มจำนวนเงินเอา ประกันภัยในเฉพาะส่วนที่เพิ่ม
(3.2) ฆ่าตัวตายภายใน 1 ปี นับแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามกรมธรรม์ หรือตามการต่ออายุ ตามกรมธรรม หรือตามการต่ออายุ หรือวันที่บริษัทอนุมัติให้เพิ่มจำนวนเงินเอาประกันภัยในเฉพาะส่วนที่เพิ่ม หรือถูกผู้รับประโยชน์ฆ่าตาย
เอกสารที่ใช้ประกอบการเรียกรองเงินตามกรมธรรมประกันภัย กรณีการเสียชีวิตจากโรค
(ก) กรมธรรม์ประกันภัยของผู้เอาประกันภัย และใบเรียกร้องสิทธิของผู้รับประโยชน์ทุกคน ตามแบบที่บริษัทกำหนด
(ข) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับประโยชน์ โดยต้องนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
(ค) สำเนาใบมรณบัตร โดยต้องนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
(ง) สำเนาทะเบียนบ้าน ที่มีการจำหน่ายการตายของผู้เอาประกันภัย โดยต้องนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
(จ) ใบยินยอมของผู้รับประโยชน์ หรือ ทายาทในการเปิดเผยประวัติ
(ฉ) ใบรายงานแพทย์ กรณีเสียชีวิตที่โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล
ถ้าเป็นการเรียกร้องเงินตามกรมธรรม์ประกันภัยกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ หรือเหตุอื่น ต้องมีเอกสารเพิ่ม เติม ดังต่อไปนี้
(ช) สำเนาบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดีที่ได้รับรองสำเนาถูกต้องจากพนักงานสอบสวน
(ซ) สำเนารายงานการชันสูตรพลิกศพ
การวางแผนเก็บเงินและเกษียณอย่างจริงจัง เริ่มขึ้น เมื่อเข้าใจ..
วิธีใช้ธรรมชาติของเครื่องมือการเงินที่จำเป็นให้เกิดประโยชน์สูงสุด
"ตน (ในปัจจุบัน) จักเป็นที่พึ่งของตน (ในอนาคต)"