BLA CANCER MAX VS. ประกันมะเร็งฝั่งประกันภัย
แบบประกันมะเร็งใด จะเป็นแบบประกันมะเร็งที่เหมาะในการคุ้มครองรายได้ของคุณที่จะขาดหายไปจากความโชคร้ายที่ชื่อว่าโรคมะเร็งมากกว่ากัน
ประกันมะเร็งของฝั่งประกันภัยแบบเบี้ยเพิ่มตามอายุ ส่วนใหญ่แล้วจะแบ่งการคุ้มครองออกเป็นดังต่อไปนี้
- ตรวจเจอจ่ายเงินก้อน วงเงินไม่เกิน 1.5-2 ล้านบาท
- จ่ายค่ารักษา ผ่าตัด เคมีบำบัด ฉายแสง ตามยอดค่ารักษาจริงไม่เกินวงเงินที่กำหนด หลักหมื่นถึงหลักแสนต่อปี
- จ่ายค่าชดเชยรายได้ เป็นผู้ป่วยในสูงสุดวันละ 1,000-3,000 บ. สูงสุด 30 วันต่อปี
- จ่ายค่าชดเชยรายได้ เคมีบำบัด ฉายแสง ในวงเงิน 25,000 บ. ครั้งเดียว
- จ่ายค่าเสียชีวิตด้วยมะเร็ง หรือ อุบัติเหตุ 50,000 บ.
ซึ่งหากพิจารณาจากคุณสมบัติทั้งหมดแล้วจะเห็นได้ว่า
- วงเงินตรวจเจอจ่ายเงินก้อนนั้นจะมีเพดานอยู่ที่ประมาณ 1.5-2 ล้านบาท จึงจำเป็นต้องทำประกันหลายบริษัททดแทน ซึ่งตอนสมัครจำเป็นต้องแถลงว่ามีประกันมะเร็งกับบริษัทใดบ้าง ซึ่งเสี่ยงที่จะทำให้บริษัทอื่นไม่รับทำประกันได้
- วงเงินค่ารักษาจะไปซ้ำซ้อนกับ ประกันสุขภาพ หรือ ประกันค่ารักษามะเร็ง ซึ่งคล้ายกับการที่จะเลือกประกันค่ารักษามะเร็งต้องมั่นใจแล้วว่าจะไม่ทับซ้อนกับประกันสุขภาพที่จะทำ
- ส่วนใหญ่ค่าชดเชยรายได้ จะได้เฉพาะเป็นผู้ป่วยในเท่านั้น และ มีเฉพาะแผนที่มีค่ารักษาร่วมด้วย ทำให้หากการทำเคมีบำบัดหรือฉายแสงเป็นแบบผู้ป่วยนอกจะไม่สามารถเคลมค่าชดเชยรายวันนี้ได้ และวงเงินค่าชดเชยที่ได้จะค่อนข้างน้อยมากเหมือนการรักษานอน รพ. ทั่วไป ที่ไม่ได้คำนึงว่าบางครั้งเป็นผู้ป่วยนอกที่ไม่ได้นอน รพ. แต่ต้องหาที่พักใกล้ ๆ รพ. แทน และไม่ได้คำนึงว่า จำเป็นต้องมีคนในครอบครัวหยุดงานอย่างน้อย 1 คน เพื่อมาดูแลร่วมด้วย รวมถึงจะให้ชดเชยรายวันไม่เกิน 30 วันต่อปีเท่านั้น
- หากมีค่าชดเชยรายได้แบบผู้ป่วยนอกให้ก็จะเป็นแบบเงินก้อนครั้งเดียว ซึ่งวงเงินค่อนข้างน้อย
- วงเงินค่าเสียชีวิตจากมะเร็งจะเน้นช่วยค่าปลงศพเท่านั้น (ค่าหีบศพ ค่าห่อศพ ค่าฉีดยาป้องกันศพเน่า ค่าแต่งตัวให้ศพ ค่าจ้างช่างตัดผม ค่าจ้างหมอเย็บศพ) ไม่รวมถึงภาระอื่น ๆ ที่อาจเกิดเป็นหนี้ขึ้นมาในระหว่างการรักษามะเร็ง
จะห็นได้ว่า ประกันมะเร็งฝั่งประกันภัยที่จะสามารถให้ความคุ้มครองรายได้ 3 ช่วงเวลา เจอจ่าย เคมีจ่าย จากไปจ่าย ที่สูงถึง 11 ล้านบาท แบบ BLA Cancer Max นั้น จะหาได้ยากอย่างมาก
โดยส่วนใหญ่ฝั่งประกันภัยจะเน้นไปที่ ตรวจเจอจ่ายจบ + มีค่ารักษาบ้าง เป็นหลักมากกว่า และไม่ได้คำนึงว่าประกันมะเร็งจะไปทับซ้อนกับ ประกันสุขภาพ หรือ ประกันค่ารักษามะเร็ง
อย่างไรก็ตาม ประกันมะเร็งฝั่งประกันภัยนั้นจะมีข้อดี คือ จะมีเบี้ยประกันที่ไม่สูงมาก (ตามความคุ้มครองที่ได้) คุ้มครองมะเร็งทุกระยะ ทุกมะเร็ง สมัครทำประกันง่าย เหมาะกับการเริ่มมีประกันเป็นกรมธรรม์เล่มแรกเล่มเดียว และอาจไม่ได้วางแผนว่าจะมีกรมธรรม์อื่น ๆ อีก
ซึ่งข้อดีต่าง ๆ นี้ อาจเป็นไปด้วยเพราะ แนวทางการทำการตลาดของประกันมะเร็งฝั่งประกันภัยที่เน้นง่าย ชัดเจน รวดเร็ว แต่ก็จะมีข้อควรคำนึงเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจเลือกประกันมะเร็งฝั่งประกันภัยดังต่อไปนี้
การรับทำประกันมะเร็งฝั่งประกันภัยนั้น จะเน้นเรื่องการแถลงตามจริงเป็นสำคัญ โดยไม่ต้องตรวจสุขภาพ ไม่ขอประวัติการรักษา และถือว่าผู้สมัครทำประกันสุจริตใจอย่างยิ่ง
ซึ่งหากการแถลงตามจริงของผู้สมัครเข้าเกณฑ์ที่บริษัทสามารถรับทำประกันได้ ก็พร้อมจะอนุมัติออก กธ. ได้ในทันที แต่ถ้าสุขภาพทั้งของตนเองหรือครอบครัวไม่เข้าเกณฑ์หรือมีความเสี่ยงที่สูงเกินเกณฑ์ก็จะปฏิเสธการรับทำประกันทันที โดยไม่ขอให้ตรวจสุขภาพพิสูจน์ใด ๆ
เพราะด้วยเบี้ยประกันที่น้อยกว่า และการจ่ายค่าคอมมิชชันให้ตัวแทน/นายหน้า ที่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบคงที่เท่ากันทุกปีซึ่งรวมแล้วมักเยอะกว่าฝั่งประกันชีวิตนั้น ทำให้เหมือนฝั่งประกันภัยจะรับความเสี่ยงมากกว่าฝั่งประกันชีวิต
จึงทำให้วิธีที่จะป้องกันไม่ให้บริษัทประกันภัยรับความเสี่ยงมากเกินไป คือ การมีใบคำขอสมัครทำประกันที่จะต้องช่วยคัดกรองอย่างเข้มข้น ด้วยคำถามเกี่ยวกับการเป็นมะเร็งของคนในครอบครัว กับคำถามด้านสุขภาพที่ส่งผลต่อความเสี่ยงเป็นมะเร็งอย่างชัดเจน (กล่าวคือ ถ้าตอบว่าใช่หรือเคย เมื่อใดก็มีโอกาสสูงที่จะถูกปฏิเสธรับทำประกันทันที)
ในขณะที่ BLA Cancer Max การแถลงสุขภาพ จะไม่ได้มีการถามประวัติการเป็นมะเร็งของคนในครอบครัว แต่จะเน้นไปที่เจาะลึกที่ประวัติการรักษาของผู้ขอทำประกันเป็นหลัก ทำให้ภายหลังการยื่นสมัครอาจมีทั้งการขอให้ตรวจสุขภาพเพิ่มเติม หรือ ขอประวัติการรักษาเพิ่มเติม ตามมาอีก
แน่นอนว่าทำให้เหมือนจะทำประกันยุ่งยากกว่าฝั่งประกันภัย แต่ก็มีโอกาสการสมัครผ่านได้มากกว่า โดยเฉพาะกับผู้ที่มีประวัติการรักษาบางอย่าง หรือ คนในครอบครัวมีเป็นมะเร็ง
บางบริษัทประกันภัยจะมีสิทธิบอกล้างสัญญาได้ตลอดโดยไม่มีระยะเวลาจำกัด โดยเฉพาะหากพบว่าไม่ได้แถลงตามจริงมาตั้งแต่ตอนสมัคร
ดังนั้นตอนทำประกันฝั่งประกันภัยแม้จะดูเหมือนง่ายมาก แต่ตอนเคลมมีโอกาสสูงที่จะถูกหาจุดผิดที่ปกปิดไว้ไม่ได้แถลงอย่างละเอียด เพื่อสามารถบอกล้างสัญญาก่อนที่จะเคลมได้
โดยสัญญาประกันมะเร็งที่บอกล้างสัญญาได้ตลอดเวลานี้ ภายในกรมธรรม์จะมีเฉพาะการชี้แจ้งความสมบูรณ์ของสัญญาและสิทธิการบอกล้างเท่านั้น

ซึ่งแน่นอนว่า ผู้สมัครทำประกันมักไม่ทราบเรื่องนี้ หรือ อาจจำประวัติการรักษาตนเองไม่ได้หรือไม่ทราบว่าแพทย์มีการระบุแบบนี้ลงไปในประวัติด้วย จึงไม่ได้จริงจังในการแถลงสุขภาพมากนัก เพราะคิดว่าคงจะอะลุ่มอลวยกันได้ในตอนเคลม
แต่ในความเป็นจริงแล้วบริษัทประกันจะสามารถจับจุดผิดทุกเม็ดเพื่อที่จะบอกล้างสัญญาได้ตามสิทธิเสมอ ดังนั้นการทำประกันมะเร็งฝั่งประกันภัยจะห้ามปกปิดข้อมูลเป็นอันขาด
ในขณะที่ฝั่งประกันชีวิตอย่าง BLA Cancer Max นั้น จะมีเงื่อนไขการไม่โต้แย้งความไม่สมบูรณ์ของสัญญาเข้ามาด้วย จึงทำให้บริษัทจะมีสิทธิบอกล้างสัญญาเพราะไม่ได้แถลงตามจริงในระยะเวลาเพียง 2 ปีแรกหลังทำประกันเท่านั้น ซึ่ง 2 ปีเป็นระยะเวลาที่นานพอที่จะช่วยกรองได้ว่าไม่ได้เป็นมะเร็งจริง ๆ มาก่อนทำประกัน

เมื่อเลย 2 ปีไปแล้ว โรคร้ายแรงและอาการผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับโรคร้ายแรงที่ปกปิดไม่ได้แถลงตอนสมัครทำประกันอย่างอาการความเสี่ยงต่าง ๆ ที่สามารถพัฒนาเป็นโรคมะเร็งได้ เช่น ติ่งเนื้อ เนื้องอก กระเพาะอักเสบ เป็นต้น
บริษัทจะทำได้เพียงไม่คุ้มครองโรคร้ายแรงที่ได้เป็นมาก่อน หรือ ได้มีอาการผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับโรคร้ายแรงมาก่อน ที่จะทำประกันรวมถึงในระยะเวลารอคอย 90 วัน เท่านั้น ซึ่งจะสามารถสรุปข้อยกเว้นความคุ้มครองได้ดังต่อไปนี้

อย่างไรก็ตามทั้งฝั่ง BLA Cancer Max และฝั่งประกันภัย หากพบว่ามีการปลอมแปลงเอกสารโดยจงใจทุจริตเพื่อเคลมประกัน จะสามารถบอกเลิกสัญญาได้ตลอดไม่มีการจำกัดระยะเวลา

ปกติทางฝั่งประกันภัยมักจะสามารถทำประกันมะเร็งออนไลน์ได้เลย แต่ด้วยการมีคำถามที่ค่อนข้างเฉพาะเจาะจงในการคัดกรอง จึงจะไม่ได้มีการให้แนบประวัติการรักษาใด ๆ เพิ่มเติม แต่จะคัดออกอัตโนมัติแทนหากมีการตอบคำถามเฉพาะเจาะจงเหล่านี้
ในขณะที่เพื่อความมั่นใจในเรื่องความคุ้มครองตั้งแต่ตอนสมัครและไม่ต้องกังวลเรื่องสิทธิบอกล้างสัญญา หรืออาการผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับโรคร้ายแรง ตัวประกัน BLA Cancer Max จะสามารถเลือกแนบประวัติการรักษาทั้งหมดหรือผลตรวจสุขภาพล่าสุด เพื่อช่วยในการแถลงได้อีกด้วย (และยังไม่มีให้แถลงการเป็นมะเร็งของคนในครอบครัวเหมือนกับฝั่งประกันภัยอีกด้วย)
ทั้งหมดนี้เองจึงทำให้ BLA Cancer Max มีความปลอดภัยในการเคลมได้มากขึ้นพอสมควร เมื่อเทียบกับฝั่งประกันภัยบางบริษัทที่สามารถถูกบอกล้างสัญญาได้ตลอด
ในกรมธรรม์ฝั่งประกันภัยมักจะมีข้อความระบุว่าขอสงวนสิทธิตามดุลยพินิจของบริษัท ซึ่งนั้นจะเป็นการเปิดช่องให้ไม่ต่ออายุ หรือ อาจมีการเพิ่มเบี้ยได้ แม้จะเป็นประกันมะเร็งแบบเบี้ยประกันคงที่ก็ตาม
โดยปัญหานี้มักเกิดกับการเคลมประกันมะเร็งแล้วพบว่า มีการปกปิดอาการผิดปกติบางอย่าง จนทำให้ไม่สามารถเคลมโรคมะเร็งนี้ได้ แต่ก็ยังคงต้องให้ความคุ้มครองมะเร็งชนิดอื่นต่อ ด้วยหากมีเงื่อนไขบอกล้างสัญญาได้เพียง 2 ปี
และมักเกิดกับ ประกันมะเร็งที่เจอจ่ายไม่จบในมะเร็งระยะไม่ลุกลาม หรือ เป็นแบบมีค่ารักษา หรือ แบบมีค่าชดเชยรายวัน คือ เป็นประกันมะเร็งที่หลังจากเจอจ่ายไปแล้วยังมีความคุ้มครองเหลือดูแลต่อไปอยู่
แต่ด้วยการเป็นมะเร็งไปแล้ว มีให้ความคุ้มครองบางส่วนไปแล้ว ย่อมทำให้ความเสี่ยงภัยสูงขึ้นมากกว่าตอนยังไม่เป็นมะเร็งแน่นอน ซึ่งทำให้อาจเสี่ยงต่อการถูกเพิ่มเบี้ย หรือ ไม่ต่ออายุสัญญาได้ ตามตัวอย่างเงื่อนไขการต่ออายุของบริษัทประกันภัย 2 ตัวอย่างด้านล่างนี้


ทั้งนี้ในฝั่งประกันชีวิตอย่าง BLA Cancer Max จะไม่มีข้อความขอสงวนสิทธินี้ และรับประกันการต่ออายุ โดยจะต่ออายุอัตโนมัติหากชำระเบี้ยไม่เกินระยะเวลาผ่อนผัน (60 วัน) เท่านั้น

โดยส่วนใหญ่ทางผู้ทำประกันจะต้องเป็นผู้ติดต่อขอเคลมกับบริษัทประกันภัยโดยตรงและทำการติดตามความคืบหน้าเอง เนื่องจากมักจะเป็นการขายประกันมะเร็งผ่านทางเว็บบริษัท ทางธนาคาร หรือ ทางโบรกเกอร์ประกันภัย ที่จะเน้นเพียงการขายเท่านั้น ในส่วนการดูแลจะให้เป็นหน้าที่ของบริษัทประกันภัย
การเคลมสามารถยื่นเคลมผ่านทางแอพ BLA Happy Life ได้ หรือ จะให้ทางตัวแทนทำเรื่องเคลมผ่านระบบ และผู้ทำประกันยืนยันผ่าน OTP ได้เช่นกัน
ซึ่งทางตัวแทนจะสามารถช่วยติดตามความคืบหน้า และประสานกับทางสินไหมโดยตรงได้ว่า ต้องการเอกสารใดเพิ่มเติม หรือ ต้องการประวัติการรักษา รพ. ใด เพิ่มบ้าง หรือ ต้องการข้อมูลจากแพทย์เพิ่มเติมส่วนใด
เพื่อประกอบเคลมประกัน รวมถึงขอทราบสาเหตุหากยังไม่สามารถอนุมัติให้เคลมได้ เพื่อสามารถที่จะทำเรื่องโต้แย้งและให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับทางสินไหมได้ต่อ
หากไม่ต้องการเงินชดเชยระหว่างทำเคมีบำบัดที่สูง ความคุ้มครองการจากไปด้วยมะเร็ง ไม่เคยมีประวัติการรักษาใด ๆ มาเลยก่อนทำประกัน และ คนในครอบครัวไม่มีประวัติการเป็นมะเร็ง รวมถึง ไม่มีประกันสุขภาพ หรือ ประกันค่ารักษามะเร็งมาก่อนทั้งในอดีตและในอนาคต
ประกันมะเร็งแบบประกันภัยจะเหมาะสม เพราะสามารถทำประกันมะเร็งได้อย่างง่ายรวดเร็ว รวมถึงมั่นใจว่าจะเคลมประกันได้แน่นอนไม่จำเป็นต้องมีผู้ดูแลหรือตัวแทนคอยประสานงานใด ๆ
แต่หากต้องการความคุ้มครองที่สูงและครบทั้ง เจอจ่าย เคมีบำบัดจ่าย จากไปด้วยมะเร็งจ่าย รวมถึงมีประกันสุขภาพ หรือ คาดว่าจะทำประกันสุขภาพที่จะคุ้มครองค่ารักษามะเร็งในอนาคตอยู่แล้ว
ประกันมะเร็งแบบ BLA Cancer Max จะน่าสนใจ โดยเฉพาะกับผู้ที่มีประวัติการรักษาที่หากแถลงกับบริษัทประกันภัยแล้วอาจจะถูกปฏิเสธทันที หรือ ผู้ที่ต้องการให้ผู้ดูแลตัวแทนช่วยประสานงานและติดตามการเคลมประกันในยามที่ต้องโชคร้ายป่วยเป็นโรคร้ายมะเร็งนี้
การวางแผนเก็บเงินและเกษียณอย่างจริงจัง เริ่มขึ้น เมื่อเข้าใจ..
วิธีใช้ธรรมชาติของเครื่องมือการเงินที่จำเป็นให้เกิดประโยชน์สูงสุด
"ตน (ในปัจจุบัน) จักเป็นที่พึ่งของตน (ในอนาคต)"