Release Your Risk

ช่วยคุณ  วิเคราะห์   เลือกใช้  เครื่องมือการเงินอย่างเข้าใจ  ในการ ออม ลดหย่อนภาษี และ วางแผนเกษียณ

เจาะลึกวิธีการเลือก การเปรียบเทียบเชิงคุณสมบัติที่จำเป็นต่อการใช้งานจริง การเปรียบเทียบเชิงตัวเลขอย่างละเอียด สรุปข้อดีข้อจำกัดของเครื่องมือการเงิน พร้อมเครื่องมือคำนวณ เพื่อคุณสามารถ ออม กับ วางแผนเกษียณ ได้อย่างเข้าใจ สบายใจ ประหยัดเวลา และ ประหยัดเงินเตรียมเกษียณได้กว่าหลักล้านบาทขึ้นไป

เรียน.. ท่านที่ 
  • ต้องการ "วางแผน การออม การเกษียณ อย่างจริงจังและต้องการทราบวิธีที่จะเริ่มต้น"
  • ต้องการทราบว่าควรเตรียมเงินเกษียณเท่าใด และในเรื่องใดบ้าง แบบคำนวณละเอียด
  • ต้องการลดเงินที่ต้องใช้ออมเพื่อเกษียณลงให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ผ่านเครื่องมือการเงิน 
  • ต้องการข้อมูลข้อควรระวังที่จำเป็นต้องทราบล่วงหน้าให้ครบถ้วนมากที่สุด ก่อนการตัดสินใจเลือกเครื่องมือการเงินไม่ใช่มาทราบเองภายหลัง
  • ไม่ต้องการถูกหลอกหรือถูกทำให้เข้าใจผิดจากคำโฆษณาหรือคำชวนเชื่อของผู้ขายเครื่องมือการเงิน หรือ ต้องการทราบว่าตนเองกำลังถูกหลอกอยู่หรือไม่
  • ไม่ต้องการพลาดเครื่องมือการเงินบางตัวด้วยความไม่รู้และทำให้หมดโอกาสได้ใช้ หรือพลาดโอกาสที่จะได้ใช้อย่างมีผลประโยชน์สูงสุดไป
  • ไม่กลัวข้อมูลประกอบการพิจารณาจำนวนมากจนน่าตกใจ แต่กลัวที่จะไม่มีข้อมูลให้ได้พิจารณามากกว่า
และ ท่านที่ต้องการ ประหยัดเวลาในการคำนวณ การหาข้อมูลที่จำเป็นเหล่านี้ สำหรับการตัดสินใจเลือกเครื่องมือการเงินที่เหมาะสมที่สุดกับตัวท่านเองและครอบครัว

ปัจจุบันการเลือกเครื่องมือการเงิน
กำลังทำให้คุณเครียด ไม่สบายใจ และกลัวถูกหลอก ใช่หรือไม่

เครื่องมือการเงินในปัจจุบัน โดยเฉพาะที่สามารถใช้ลดหย่อนภาษีส่วนบุคคลได้ทั้งประกันและกองทุนรวมนั้น ผู้ขายหรือผู้แนะนำจะได้รับค่าคอมมิชชันจากการขายเครื่องมือการเงินต่าง ๆ ซึ่งเป็นผลประโยชน์ทับซ้อน ที่สามารถทำให้คุณรู้สึก ไม่ไว้วางใจ และกลัวว่าจะถูกยัดเยียดเครื่องมือการเงินต่าง ๆ ให้ใช้ ..
  • เพียงเพราะผู้ขายจะได้ค่าคอมมิชชันจากคุณสูง หรือ 
  • เพียงเพราะผู้ขายแนะนำโดยเห็นว่าตรงตามความต้องการของคุณก็พอแล้ว (แต่ไม่ได้แนะนำต่อว่าที่คุณต้องการนั้นมีข้อควรระวังอะไร วิธีการเลือกถูกต้องหรือไม่ หรือเป็นเพียงความต้องการที่ถูกสื่อโฆษณาสร้างขึ้นมา หรือ เพื่อนบอกมาเท่านั้น)
ซึ่งการเลือกเครื่องมือการเงินนั้น จะคล้ายกับสถานการณ์เวลาที่คุณต้องเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอายุการใช้งานหลายสิบปี แต่คุณไม่สามารถเห็นผลลัพธ์การใช้งานก่อนซื้อได้ ทั้งยังมีหลายแบรนด์หลายรุ่นให้เลือกเยอะมากมาย เช่น ตู้เย็น แอร์ ปั๊มน้ำ เป็นต้น
สิ่งที่คุณทำได้มีด้วยกัน 3 ทาง คือ
  • 1. หาคนขายที่ดูขายดี ดูน่าเชื่อถือ แล้วเชื่อใจ ซื้อตามที่คนขายแนะนำ (Personal Branding based) หรือ
  • 2. หาคนขายที่เน้นให้ข้อมูล ดูเชี่ยวชาญ แล้วถามคนขายให้มากก่อนตัดสินใจเอง (Personal Branding then Information based) หรือ
  • 3. หาข้อมูลทำความเข้าใจต่าง ๆ เองให้เยอะที่สุด แล้วจึงสอบถามคนขายที่มีความสามารถตอบในส่วนที่ยังสงสัยก่อนตัดสินใจเลือกใช้ (Information before Personal Branding based) ซึ่งสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่น่ายากเพราะมีข้อมูลมากมายใน Internet
ครอบครัววางแผนการเงินและภาษี 2 release your risk
แต่สำหรับการเลือกเครื่องมือการเงินนั้นจะไม่เหมือนกับเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะ โดยส่วนใหญ่ผู้ขายหรือผู้แนะนำจะเน้นที่การทำ Personal Branding เป็นหลัก
จึงมักจะเจอข้อมูลเพียง การรีวิว คำชม คำขอบคุณ ความสำเร็จรางวัลขายดี กับ ข้อมูลเครื่องมือการเงินเฉพาะข้อดีจากบริษัทเจ้าของเครื่องมือ หรือที่ดียิ่งขึ้นคือ บอกเล่าประสบการณ์การใช้งาน การแก้ไขปัญหาให้ลูกค้า
ทำให้ถ้าหากคุณเลือกแนวทางข้อที่ 3 คือ เน้นหาข้อมูลนำหน้า สิ่งที่คุณมักจะเจอในตอนเริ่มค้นหาข้อมูลก็คือ บนหน้าเว็บไซต์หรือสื่อโซเชียลทั้งของบริษัทและตัวแทนนั้นจะ..
  • ไม่มีวิธีการเลือกเครื่องมือที่นอกเหนือจากข้อมูลเชิงโฆษณาเฉพาะจุดเด่น
  • ไม่มีข้อมูลที่ลงลึกมากพอที่จะอธิบายถึงความจริงหรือที่มาของจุดเด่นนั้น
  • ไม่มีการอธิบายวัตถุประสงค์ของเครื่องมือที่แท้จริง ที่ไม่เป็นไปเพื่อการตลาด
  • ไม่สามารถหาเงื่อนไขสำคัญ ที่ต้องเข้าใจ ข้อควรระวัง เจอได้โดยง่าย
  • ไม่มีสรุปข้อดี ข้อจำกัด ในเชิงการใช้งานจริง และในเชิงตัวเลขแบบละเอียด
  • ไม่มีการอธิบายถึงวิธีการใช้งานร่วมกันระหว่างเครื่องมือการเงินต่าง ๆ
  • ไม่มีการทำสรุปเปรียบเทียบแต่ละเครื่องมือชนกัน ที่ช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้นในทันที โดยไม่ต้องทยอยขอราคาและนำมาเปรียบเทียบเองกว่า 10 แบบ ซึ่งไม่รู้เลยว่าสิ่งที่นำมาเปรียบเทียบเองนั้นถูกต้องหรือไม่
  • ไม่มีข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมา ให้สามารถทยอยทำความเข้าใจได้เองที่บ้าน โดยที่ยังไม่จำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนตัว ยังไม่ต้องนัดพบ และ ยังไม่ต้องนัดประชุมวางแผนใด ๆ ทั้งที่ยังไม่รู้อะไรเลย (แม้คุณอาจจะชอบให้มีคนพูดสรุปหรืออธิบายให้ฟัง แต่ด้วยข้อมูลที่มาก การยัดข้อมูลทั้งหมดภายในเวลาอันจำกัดประมาณ 1 ชม. นั้น ยากที่จะได้ข้อมูลครบถ้วนได้ )
สุดท้ายเมื่อคุณไม่สามารถค้นหาข้อมูลได้ ความแคลงใจจะยังติดอยู่ในใจคุณ และด้วยความยากของการหาข้อมูลเหล่านี้ ทำให้คุณถูกบีบให้ต้องเดินทางไปสู่กับดักที่อันตรายที่สุดของโลกการเงินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นก็คือ
ไฟสำรองทางการเงิน release your risk
"การตัดสินใจซื้อเครื่องมือการเงินด้วยเพราะ ความเชื่อใจ ความชอบใจ ในตัวผู้ขาย"
โดยหากโชคร้ายคุณดูคนผิด จนตอนทำสัญญาคุณไม่ได้เข้าใจเงื่อนไขสำคัญ แล้วต้องมารู้เงื่อนไขนี้ภายหลัง..ซึ่งส่งผลให้คุณหมดสิทธิการใช้งานเครื่องมือนี้ไป หรือ แม้แต่กลายเป็นว่าคุณใช้งานเครื่องมือการเงินผิดวัตถุประสงค์ และต้องจ่ายแพงมากขึ้นกว่าปกติอีกถึงหลักแสนหรือหลักล้านบาท
ทั้งหมดนี้เอง..จะทำให้คุณเหลือเพียงทัศนคติที่ไม่ดีต่อเครื่องมือการเงินนั้น ๆ อย่างมาก จนไม่ได้เลือกใช้อีก เพียงเพราะคนที่คุณเชื่อใจเน้นให้ขายง่ายไว้ก่อนเท่านั้น
ดังนั้นสิ่งที่พอจะช่วยให้คุณดูคนไม่ผิด นั่นก็คือ เครื่องมือใด ๆ ที่อยู่ในลักษณะสัญญา ผู้แนะนำหรือผู้ขายที่ดีจะต้องเตือนคุณ บอกข้อควรระวังและสิ่งต้องทำความเข้าใจจำนวนมาก รวมถึงให้คุณเตรียมเอกสารมากมาย
"จนดูเหมือนไม่อยากขายให้คุณ"
แต่นั่นคือข้อบ่งชี้ว่า คน ๆ นั้น ต้องการทำธุรกิจระยะยาวกับคุณ โดยไม่ต้องการให้มีความเข้าใจผิดใหญ่หลวงเกิดขึ้นในภายหลัง 
ซึ่งการดูคนด้วยวิธีว่าใครอยากทำธุรกิจในระยะยาวนี้เอง จะสามารถช่วยคัดคนที่เน้นเพียงขายอย่างเดียวที่อาจจะไม่เหมาะกับการแนะนำสัญญาระยะยาวราคาสูงออกไปได้
ไฟสำรองเพียงเพื่อลดหย่อนภาษี 2 release your risk
ดังนั้นเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการดูคนกับการความยากในการหาข้อมูลที่จำเป็น  เพื่อทำให้คุณได้ใช้เครื่องมือการเงินจากความเข้าใจจริง ๆ  ทางเราจึงได้นำข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับเครื่องมือการเงิน
โดยเฉพาะที่ใช้ลดหย่อนภาษีและวางแผนเกษียณ มาจัดทำเป็นบทความบนเว็บไซต์นี้ และทยอยเพิ่มเติมข้อมูลอัพเดทเรื่อย ๆ
เพื่อให้คุณได้มีข้อมูลที่จำเป็นให้มากที่สุดประกอบการตัดสินใจ โดยไม่จำเป็นจะต้องพึ่งพิงผู้ขายหรือผู้แนะนำเพียงอย่างเดียวอีก
อย่างไรก็ตามเว็บไซต์นี้จะยังไม่เหมาะกับท่านที่
  • กลัวการอ่านข้อมูลจำนวนมาก "มากกว่า" กลัวการถูกหลอก แม้สัญญาทางการเงินจะมีมูลค่ารวมกันกว่าหลักแสนหรือหลักล้านบาทขึ้นไปก็ตาม ( โดยชอบเพียงสรุปย่อ เฉพาะประเด็นประโยชน์เท่านั้น ซึ่งประโยชน์ส่วนใหญ่เป็นไปเพื่อการตลาดและจะไม่ได้อธิบายถึงข้อควรระวังใด ๆ ) 
  • ไม่พร้อมสละเวลาทำความเข้าใจเครื่องมือการเงิน ข้อควรระวัง และเงื่อนไขทางสัญญาอย่างจริงจังก่อนทำสัญญา หรือแม้แต่ภายหลังทำสัญญาก็ยังไม่พร้อมทำความเข้าใจในเงื่อนไขของสัญญาใด ๆ
  • ไม่ต้องการสละเวลาให้ความยุ่งยากในการเตรียมเอกสารมากมายสำหรับใช้ทำสัญญา เพื่อให้ได้ผลประโยชน์สูงสุดทั้งปัจจุบันและอนาคต แต่ต้องการทำสัญญาให้ง่ายและเร็วที่สุด โดยไม่สนใจปัญหาที่จะตามมาภายหลัง
  • ไม่ต้องการใช้เครื่องมือการเงินที่สามารถลดหย่อนภาษีได้อย่างตรงวัตถุประสงค์การใช้งาน และให้ทำงานสอดคล้องกันอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยมั่นใจว่าใช้เพียงเครื่องมือการเงินเดียวก็เพียงพอ หรือไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือก็ได้
  • ไม่เห็นมูลค่าของเวลาและความรู้ที่ต้องใช้ในการค้นหา การได้สิทธิเข้าถึง และจัดทำ "ข้อมูลกับเครื่องมือคำนวณ" สำหรับช่วยในการเลือกเครื่องมือการเงินต่าง ๆ โดยเห็นว่าทั้งข้อมูลและเครื่องมือคำนวณเป็นของไม่มีราคา ถึงแม้จะสามารถช่วยประหยัดเงินในการวางแผนเกษียณได้กว่าหลักล้านบาทขึ้นไปก็ตาม
  • ยังไม่พร้อมเปิดใจรับข้อมูลและมุมมองอีกหนึ่งมุมมอง รวมถึงการรับทราบข้อมูลเบื้องหลังการตลาด ข้อมูลปัญหา ข้อควรระวัง และเงื่อนไขต่าง ๆ ของเครื่องมือการเงิน โดยมั่นใจว่าสิ่งที่ได้ยินมาหรือได้เจอมาจะเป็นอย่างที่เข้าใจแน่นอนในทุกสถานการณ์
เมื่อได้อ่านมาถึงส่วนนี้ และยังเห็นว่าเว็บไซต์นี้ยังสามารถเหมาะกับตัวท่านเองได้ จะสามารถเริ่มทำความเข้าใจเครื่องมือการเงิน ซึ่งจะถูกแบ่งออกเป็น 7 หัวข้อใหญ่ด้วยกัน ดังการเกริ่นสรุปย่อต่อไปนี้
ครอบครัววางแผนการเงินและภาษี 1 release your risk
เงินแต่ละก้อนที่ออมนั้น หากไม่กำหนดวัตถุประสงค์ของเงินออมให้ชัดเจน และไม่ออมในเครื่องมือการเงินที่ถูกวัตถุประสงค์แล้ว จะทำให้ต้องออมเงินเพิ่มขึ้นอย่างมาก เช่นเดียวกับเครื่องมือการเงินที่ตรงข้ามกับการออม อย่าง.. 
เครื่องมือสำหรับการกู้ยืมเงิน ที่..
  • หากคุณไม่ได้ระบุวัตุประสงค์ว่าเงินที่กู้มานี้จะเอาไปทำอะไร ระยะเวลาคืนเงินเท่าไร คุณก็จะได้เงินมาในรูปของบัตรกดเงินสดที่ดอกเบี้ยสูงถึง 25% ต่อปี (ทำให้เงินต้นที่กู้มามีโอกาสโดนดอกเบี้ยท่วมได้ไม่ยาก)
  • แต่ถ้าหากคุณเริ่มระบุวัตถุประสงค์ เช่น จะกู้เงินมารวบหนี้บัตรกดเงินสด และผ่อนจ่ายภายใน 36 เดือน คุณก็จะได้เงินมาในรูปแบบสินเชื่อส่วนบุคคลที่ดอกเบี้ยจะลดลงมาเหลือที่ 15%-22% ต่อปี (ทำให้รู้ชัดเจนว่าจะโดนดอกเบี้ยเท่าไรในระยะเวลาเท่าใด)
  • หรือหากคุณระบุวัตถุประสงค์ชัดเจนว่าจะนำเงินมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ และกำหนดระยะเวลาผ่อนที่ชัดเจน คุณก็จะได้มาเงินมาในรูปแบบสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ที่ดอกเบี้ยลดลงมาเหลือที่ 3% - 7% ต่อปี (ทำให้สามารถโปะหนี้ลดดอกเบี้ยลงได้ง่ายขึ้นอีก)
เครื่องมือการออมก็ไม่ต่างกับเครื่องมือการกู้ยืมเงินนี้ ที่..
  • หากคุณระบุวัตถุประสงค์ไม่ชัดเจนว่าเงินที่ออมจะเอาไปทำอะไรและตอนไหน เครื่องมือออมที่ใช้ได้ ก็จะไม่พ้นฝากธนาคารที่ดอกเบี้ยประมาณ 1% ต่อปี
  • แต่ หากคุณระบุว่าเงินออมนี้จะเอาไว้ใช้ในอีก 15-20 ปีข้างหน้าตอนอายุ 55 ปี ก็จะสามารถเลือกเครื่องมือการเงินที่ลดหย่อนภาษีได้ และอัตราผลตอบแทนอาจสูงได้ถึง 10% ต่อปี โดยเฉพาะหากรวมกับเงินคืนภาษี
  • หรือ หากคุณระบุชัดเจนว่าเงินออมนี้จะใช้เพื่อเป็นเงินชดเชยหากป่วยเป็นโรคร้ายแรงและต้องเลิกทำงานเพื่อรักษาตัวเท่านั้น ก็จะทำให้เงินที่คุณต้องออมน้อยลงอย่างมาก โดยหากเป็นโรคร้ายแรงจะได้รับเงินมากกว่า 5000% ของเงินที่ออมปีแรกเลยทีเดียว  
ดังนั้นเพื่อที่จะสามารถได้ผลประโยชน์จากการออมให้มากที่สุด การเลือกใช้เครื่องมือการออมให้เป็นจึงสำคัญมาก และที่สำคัญบางเครื่องมือการออมจำเป็นต้องรีบใช้ลำดับแรก ๆ เพราะหากเริ่มใช้ช้า เครื่องมือนี้อาจหายไปจากรายการเครื่องมือที่สามารถเลือกใช้ได้แล้ว
1.เหตุการณ์ Death release your risk
หากหน้าที่ของเงินออมส่วนนี้ คือ การออมเพื่อนำออกไปใช้ได้เฉพาะ การดูแลส่งต่อให้คนข้างหลังภายหลังการจากไปเท่านั้น โดยเงินที่ออมห้ามถูกนำไปใช้อย่างอื่น (หรือ หากถูกใช้จะต้องมีกลไกให้รีบนำกลับมาคืนให้เร็วที่สุด) รวมถึงสามารถส่งต่อเงินสดตรงไปยังคนข้างหลังได้โดยไม่ต้องผ่านกองมรดก เจ้าหนี้ หรือ สรรพากร
ที่สำคัญที่สุด คือ เงินที่คนข้างหลังจะได้ ต้องมากกว่า เงินที่ได้ออมไปแล้วหลายเท่า ในทันทีที่เริ่มออม (ไม่รวมเงินคืนภาษีที่จะได้ภายหลังการลดหย่อนภาษี) ทำให้เครื่องมือที่สามารถทำแบบนี้ได้ ในปัจจุบันจะมีเพียงประกันชีวิต เท่านั้น
แต่ปัญหาคือ ประกันชีวิตมีหลากหลายรูปแบบมาก ทั้งแบบชั่วเวลากับแบบตลอดชีพ ทั้งแบบมีเงินคืนเงินปันผลกับไม่มีเลย ทั้งแบบที่เป็นมรดกโดยตรงกับแบบตลอดชีพปกติ ทั้งแบบทุนชีวิตสูงไม่กี่ปีกับทุนชีวิตสูงจนถึงอายุเกษียณ ทั้งแบบชำระเบี้ยสั้นกับแบบชำระเบี้ยยาว ทั้งแบบควบโรคร้ายและไม่ควบโรคร้าย
ด้วยความหลากหลายนี้เอง หากไม่ทราบถึงวิธีเลือกประกันชีวิตที่เหมาะสมกับตนเอง อาจทำให้ได้ประกันชีวิตที่ผิดวัตถุประสงค์ และต้องจ่ายเงินมากขึ้นกว่าปกติเพื่อเป็นค่าฟังก์ชันเสริมเพิ่มเติมจากวัตถุประสงค์ได้
ดังนั้นการเปรียบเทียบแบบเจาะลึกในวิธีการเลือกประกันชีวิต จึงเป็นสิ่งที่ยากจะหลีกเลี่ยงได้ รวมไปถึงการนำไปเปรียบเทียบกับเครื่องมือการเงินอื่น ๆ อย่างการลงทุนด้วย
เหตุการณ์ Critical Illness release your risk
หากหน้าที่ของเงินออมส่วนนี้ คือ การออมเพื่อนำออกไปใช้ได้เฉพาะ ค่าชดเชยรายได้ที่หายไประหว่างการรักษาโรคร้ายแรงที่เสี่ยงเป็นสูง และเงินชดเชยที่ได้ต้องมากกว่าเงินที่ออมไปหลายเท่า ในทันทีที่เริ่มออม กับต้องมีกลไกป้องกันการนำเงินออมไปใช้อย่างผิดวัตถุประสงค์
หน้าที่ทั้งหมดนี้เองจึงทำให้ "ประกันโรคร้ายแรง" กลายเป็นเครื่องมือที่ตอบโจทย์ที่สุด
เพียงแต่ว่า ระกันโรคร้ายแรงมีหลากหลายรูปแบบ มีทั้งคุ้มครองหลายโรคร้ายกับแบบคุ้มครองเฉพาะโรคร้ายเสี่ยงสูง มีทั้งเป็นแบบเบี้ยคงที่กับแบบเบี้ยเพิ่มตามอายุ มีทั้งแบบที่คุ้มครองชีวิตร่วมด้วยกับแบบที่ไม่คุ้มครองชีวิต มีทั้งแบบที่เจอจบทีละกลุ่มโรคกับเจอจ่ายจบครั้งเดียว
จึงทำให้ประกันโรคร้ายแรง มีความซับซ้อนสูงมากในการเปรียบเทียบ โดยหากไม่เข้าใจถึงวิธีการเลือกประกันโรคร้ายแรงอย่างถูกต้อง ก็อาจพลาดถูกอัพเซลจนได้แบบประกันโรคร้ายแรงที่ผิดวัตถุประสงค์ ทำให้เงินชดเชยที่ควรจะได้ลดลงไปหลายเท่าได้
3.เหตุการณ์ illness release your risk
หากหน้าที่ของเงินออมส่วนนี้ คือ การออมเพื่อนำออกไปใช้ได้เฉพาะ ค่าตรวจรักษาใน รพ.เอกชน ที่ไม่ต้องรอคิวนาน เช่น ค่าตรวจวินิจฉัยฉายภาพขั้นสูง ค่าห้อง ค่ารักษา ค่าผ่าตัด ค่าแพทย์ ค่าฟื้นฟู ค่าติดตามอาการ ค่าตรวจหายีนส์ที่เหมาะกับยา ค่ายา ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต (รวมถึงค่ารักษานวัตกรรมการรักษาแบบใหม่)
รวมถึงค่ารักษาโรคที่แพงและมีระยะเวลารักษาที่ยาวนาน อย่างกลุ่มโรคล้มละลาย เช่น มะเร็งได้ตลอดชีวิต หรืออย่างน้อยจนถึงอายุครบ 99 ปี
ที่สำคัญต้องให้สามารถทยอยออมเงินได้ แต่ยังคงได้รับความคุ้มครองค่ารักษามากกว่าเงินที่ออมไปหลายเท่าในทันทีที่เริ่มออม โดยหากอายุน้อยก็ออมน้อย หากอายุมากขึ้นก็ออมมากขึ้น ไม่เก็บเงินออมจำนวนมากหลายล้านบาทไปในทันที ทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้ว่าจะใช้เมื่อใด
ด้วยหน้าที่ทั้งหมดนี้คงไม่มีเครื่องมือการเงินใดที่สามารถจะทำได้ หากไม่ใช่เครื่องมือ "ประกันสุขภาพส่วนบุคคล"
ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องมือการออมเงินที่ทรงพลังมากที่สุดในปัจจุบัน ด้วยการเปลี่ยนเงินออมที่ไม่รู้ว่าต้องออมเท่าใดถึงจะเพียงพอต่อค่ารักษาทั้งในปัจจุบันและอนาคต ให้กลายมาเป็นเงินออมที่คาดการณ์ได้ผ่านตารางเบี้ยประกัน
อย่างไรก็ตามเพื่อไม่ให้ทรงพลังจนเกินไป เครื่องมือนี้จึงใช้ได้เฉพาะผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงเท่านั้น โดยเฉพาะก่อนทำประกัน 5 ปีและหลังทำประกัน 3 ปี รวมถึงมีเงื่อนไขข้อยกเว้นความคุ้มครองที่ต้องทำความเข้าใจให้เรียบร้อยก่อนทำประกัน ด้วยมีจุดประสงค์เพื่อป้องกันการใช้ประกันสุขภาพอย่างจงใจให้เกิดเหตุขึ้นได้
"ทำให้ หากทำประกันสุขภาพด้วยความโลภหรือความตระหนี่ ไม่ใช่ด้วยความเข้าใจ จะมีแต่ข้อขัดแย้งตามมาภายหลังอย่างมากมาย"
ดังนั้นการจะเลือกประกันสุขภาพที่เหมาะสมกับตนเองได้นั้น ควรต้องทำความเข้าใจอย่างน้อย สถิติการเป็นโรคต่าง ๆ ค่ารักษาโรคใดบ้างที่สูง หมวดความคุ้มครองต่าง ๆ หมวดใดจำเป็น หมวดใดไม่จำเป็นพอรับความเสี่ยงเองไว้ รวมถึงข้อจำกัดแต่ละหมวด ไปจนถึงวิธีการแถลงสุขภาพ วิธีการและเงื่อนไขการเคลม 
และที่สำคัญที่สุด คือ ควรต้องเข้าใจอย่างน้อยหนึ่งวิธี ที่จะจัดการกับเบี้ยประกันสุขภาพหลังเกษียณได้ ด้วยประกันสุขภาพจำเป็นที่สุดในตอนเกษียณ
ซึ่งการที่ประกันสุขภาพไม่เก็บเงินมากตอนอายุยังน้อย จึงเปิดช่องให้สามารถใช้เครื่องมือการเงินอื่น ๆ ที่เน้นออมให้เงินเติบโตขึ้นมาจ่ายค่าประกันสุขภาพในตอนเกษียณได้เอง และยังทำให้ลดค่าประกันสุขภาพลงไปได้มากกว่า 50%
4. เหตุการณ์ Retirement release your risk
หากเงินออมส่วนนี้มีหน้าที่ คือ การออมเพื่อนำออกมาใช้ได้เฉพาะ การสร้างรายได้ประจำปลอดภาษีตลอดอายุเกษียณหรือจนถึงอายุ 99-100 ปี โดยให้เงินรายได้รวมทั้งหมดมากกว่าเงินที่ออมไปหลายเท่า และไม่ต้องมีการบริหารหรือจัดการใด ๆ เพิ่มเติมอีก (เป็น Passive Income อย่างแท้จริง) 
รวมถึงไม่ต้องกังวลว่าเงินออมส่วนนี้จะถูกนำออกไปใช้จนหมดอย่างผิดวัตถุประสงค์ในทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเพราะตนเองหรือลูกหลาน หรือการถูกมิจฉาชีพเล่นงานตอนเกษียณ 
ทั้งยังสามารถเป็นเงินรายได้ประจำปราการด่านสุดท้ายสำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็น NEEDs หรือ แม้แต่ใช้ช่วยจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพ ในตอนเกษียณอย่างมั่นคง
ซึ่งเครื่องมือที่สามารถทำแบบนี้ได้ในปัจจุบันจะมีเพียง บำนาญของข้าราขการ (ต้องเสียภาษี) และ บำนาญจากประกันบำนาญเท่านั้น (ไม่ต้องเสียภาษี) 
อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นข้าราชการ ดังนั้นการเลือกเปรียบเทียบหาประกันบำนาญที่จะให้บำนาญได้มากที่สุดต่อเงินที่ออมไป จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก
เพียงแต่ประกันบำนาญเป็นหนึ่งในแบบประกันที่ถูกทำให้ไขว้เขวด้วยการตลาดมากที่สุด คือ ประกันบำนาญหลายแบบไม่ได้ทำหน้าที่เพียงให้บำนาญอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีการนำไปควบกับประกันชีวิต ควบกับประกันสะสมทรัพย์ หรือควบกับการมีเงินปันผลให้ด้วย
อีกทั้งยังมีวิธีการจ่ายบำนาญที่หลากหลาย ทั้งคงที่เท่าเดิมตลอดสัญญาหรือเพิ่มขึ้นตามปีที่กำหนด ทั้งอายุสุดท้ายที่รับบำนาญที่ไม่เท่ากัน ทั้งจำนานปีที่ชำระเบี้ยที่แตกต่างกันโดยมีทั้งสั้นและยาวจนถึงเกษียณ มีทั้งหากอายุสั้นจะขาดทุนและไม่ขาดทุน (แม้ตอนจากไปจะไม่รับรู้การขาดทุนแล้วก็ตาม)
ทั้งหมดนี้จึงทำให้ หากเลือกแบบประกันบำนาญผิดไปจะต้องจ่ายเบี้ยแพงขึ้นกว่าที่ควรเป็นถึงหลักล้านบาทขึ้นไปได้ไม่ยาก ดังนั้นการเลือกเครื่องมือการเงินตัวนี้จึงต้องมีความเข้าใจที่มากพอสมควร และไม่ลืมวัตถุประสงค์ของทั้งเงินที่ออมและของประกันบำนาญนี้ ว่าคือ..
"การลดความเสี่ยงจากขาดรายได้หากอายุยืนมาก"
และช่วยแก้ไขปัญหาความยากที่จะทำธุรกิจใด ๆ ในตอนเกษียณ ซึ่งยากที่จะมีธุรกิจใด เพียงแค่ลงทุนเงินก้อนหนึ่งโดยไม่ต้องบริหารใด ๆ อีก แล้วจะสามารถสร้างรายได้ประจำปลอดภาษีแบบการันตีโดยไม่สนใจภาวะเศรษฐกิจได้นานถึงอายุ 99 หรือ 100 ปี หรือมากกว่าเงินที่ลงทุนไปหลายเท่า ได้เหมือนกับเครื่องมืออย่างประกันบำนาญอีก
จ่ายเบี้ยประกันได้ตลอดสัญญา release your risk
หากหน้าที่ของเงินออมส่วนนี้ คือ การออมเพื่อนำออกมาใช้ได้เฉพาะ ค่าใช้จ่ายยามเกษียณส่วนที่เป็น WANTs (เพิ่มความสะดวกสบาย) ช่วยจ่ายค่าเบี้ยประกันสุขภาพ รวมถึงค่าชดเชยเงินเฟ้อที่ทยอยเพิ่มขึ้นแบบไม่แน่นอนในแต่ละปี
ที่สำคัญต้องมีกลไกป้องกันไม่ให้สามารถนำเงินออมออกมาใช้ก่อนเกษียณ และยังได้สิทธิลดหย่อนภาษีร่วมด้วย
แน่นอนว่าเครื่องมือการเงินที่ตอบโจทย์ที่สุดย่อมเป็น กองทุนรวมลดหย่อนภาษี ทั้ง RMF PVD และ กบข.
อย่างไรก็ตามข้อจำกัดของกองทุนรวมเมื่อนำมาใช้เป็นบำนาญ คือ ยิ่งอายุยืนมากเท่าไรโอกาสที่กองทุนรวมที่คำนวณและเตรียมไว้จะไม่เพียงพอจะมีมากขึ้นเท่านั้น 
เนื่องด้วยความผันผวนของผลตอบแทนในแต่ละปีตามภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงความเสี่ยงที่จะใช้เงินผิดวัตถุประสงค์โดยขายกองทุนรวมทั้งหมดออกมาไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้
กองทุนรวมจึงมักต้องจับคู่กับประกันบำนาญ เพื่อเติมเต็มข้อจำกัดกันและกัน โดยกองทุนรวมเน้นเติมเต็มการใช้เงินที่มากในช่วงแรกของการเกษียณ และประกันบำนาญช่วยเติมเต็มและการันตีการดูแลค่าใช้จ่ายในอายุช่วงท้ายของชีวิต
อย่างไรก็ตาม การใช้กองทุนรวมลดหย่อนภาษีเพื่อวางแผนเกษียณมีความซับซ้อนค่อนข้างมาก เพราะไม่สามารถคาดการณ์อายุขัยได้ ต้องคอยระวังเรื่องความเสี่ยงของพอร์ตที่จะสูงไปเมื่อใกล้เกษียณหรือตอนเกษียณ มีการปรับพอร์ตที่ค่อนข้างยุ่งยากโดยเฉพาะ RMF
ยังไม่นับรวมการต้องคำนวณเผื่อค่าเบี้ยประกันสุขภาพที่เพิ่มตามอายุ กับค่าใช้จ่ายดำรงชีพที่ทยอยเพิ่มขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อในแต่ละปี 
และการจัดสัดส่วนของพอร์ตว่าควรเป็น Core เท่าใด Satellite เท่าใด ทั้งก่อนและหลังเกษียณ กับกองทุนรวมที่มีให้เลือกจำนวนมาก
ที่สำคัญต้องมีการคำนวณอัตราความอยู่รอดของกองทุนรวมเมื่อใช้เป็นกองทุนบำนาญ ว่าอัตราความอยู่รอดในแต่ละอายุเป็นอย่างไร ยอมรับได้หรือไม่ ถ้ายอมรับไม่ได้ต้องทำอย่างไร
กับต้องคอยคำนวณเงินที่ควรลงทุนใหม่ตอนก่อนเกษียณ ถ้าหากมีบางปีที่ไม่ได้ลงทุนตามที่วางแผนไว้ เพราะ ไม่ได้มีกลไกบังคับให้ลงทุนเท่ากันทุกปีตามแบบการจ่ายเบี้ยของประกันบำนาญ   
ทั้งหมดนี้จึงทำให้การใช้กองทุนรวมลดหย่อนภาษีมาวางแผนเกษียณ โดยให้เป็นกองทุนบำนาญ จะต้องทำความเข้าใจในหลาย ๆ เรื่อง มากกว่าเพียงการเลือกกองทุนรวมและจัดสัดส่วนต่าง ๆ ตามที่วางแผนในตอนแรกเท่านั้น
มีเงินใช้ตอนเกษียณ release your risk
เงินออมหลายก้อนที่ใช้ในการวางแผนเกษียณ จะมีหน้าที่ที่แตกต่างกันไป ทั้งส่งต่อคนข้างหลัง เป็นเงินชดเชยเมื่อเป็นโรคร้าย เป็นค่ารักษาพยาบาลตลอดชีพ เป็นค่าเบี้ยประกันสุขภาพ เป็นค่าใช้จ่ายส่วน NEEDs เป็นค่าใช้จ่ายส่วน WANTs กับเงินเฟ้อ ยังไม่รวมถึงเป็นค่าความบันเทิง (ที่สามารถใช้การลงทุนอื่น ๆ ที่เสี่ยงสูงกว่ากองทุนรวมได้) และค่าปิดหนี้หากมี
ด้วยหน้าที่ของเงินออมที่หลากหลายนี่เอง จึงทำให้การวางแผนเกษียณนั้น จำเป็นต้องใช้เครื่องมือการเงินที่หลากหลายให้ตรงตามวัตถุประสงค์ไปด้วย
โดยไม่สามารถจะใช้เพียงเครื่องมือเดียวตอบโจทย์ทุกอย่างได้ เพราะหากใช้เพียงเครื่องมือเดียวมักจะต้องจ่ายแพงกว่า และเสี่ยงกว่าเสมอ
เช่น การเน้นใช้เครื่องมือลงทุนอย่างเดียว ซึ่งมีความเสี่ยงในเวลาที่เงินกำลังเติบโตให้ได้ตามเป้าหมาย เสี่ยงที่เงินจะถูกใช้ผิดวัตถุประสงค์ เสี่ยงเจอตลาดผันผวนไม่เป็นตามที่คำนวณ เสี่ยงต้องเตรียมกันเงินเผื่อไว้จำนวนมากทั้งที่ไม่รู้ว่าจะได้ใช้ตอนไหน เป็นต้น
ทั้งหมดนี้จึงเป็นสาเหตุว่า ทำไมจึงจำเป็นต้องเจาะลึกวิธีการเลือกเครื่องมือการเงินตั้งแต่ข้อ 1-6 ที่ผ่านมา ด้วยเพราะเพื่อท้ายที่สุดแล้ว จะสามารถนำเครื่องมือทั้งหมดมาประสานใช้ร่วมกันให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และลดเงินที่ต้องออมเองลงได้อย่างมากนั่นเอง
นอกจากนี้สิ่งที่ควรวางแผนให้เครื่องมือการเงินช่วยอีกอย่าง คือ การทำงานโดยอัตโนมัติ เช่น การจ่ายบำนาญจากกองทุนหรือประกันบำนาญโดยอัตโนมัติ การจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพโดยอัตโนมัติ การส่งต่อมูลค่ากองทุนรวมให้คนข้างหลังอัตโนมัติ การเตือนให้ปรับพอร์ตโดยอัตโนมัติ
เพราะพอ ยิ่งอายุมากขึ้นยิ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพการตัดสินใจเรื่องการเงินลดลง จึงจำเป็นที่ต้องมีกลไกป้องกันการตัดสินใจที่ผิดพลาดนี้ ด้วยการทำงานอย่างอัตโนมัติของเครื่องมือการเงิน
และสุดท้ายสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ จะต้องมีเครื่องมือคำนวณที่จะช่วยในการวางแผนเกษียณทั้งหมด รวมถึงช่วยในการเปรียบเทียบเลือกเครื่องมือการเงินที่ดีที่สุดในแต่ละด้านออกมา
การวางแผนเกษียณจึงมีความซับซ้อนสูง ส่วนหนึ่งด้วยเพราะข้อมูลที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจจำนวนมากนี้เอง แต่แน่นอนว่าการเสียเวลาในการพิจารณาข้อมูลเหล่านี้นั้นคุ้มค่า เพราะจะช่วยให้ประหยัดเงินที่ต้องออมได้หลายล้านบาทอย่างแน่นอน

ด้วยทั้งหมดนี้เอง จึงสามารถสรุปขบวนการเลือกใช้เครื่องมือการเงินที่ทาง

Release your Risk ยึดถือปฏิบัติ

ได้เป็น 3 องค์ประกอบสำคัญเพื่อนำไปสู่

การตัดสินใจเลือกใช้อย่างเข้าใจ

ดังต่อไปนี้

ความรู้เครื่องมือการเงิน

ตามลำดับเครื่องมือการเงินที่จำเป็นต้องใช้ ทั้งในกรอบการลดหย่อนภาษีให้มีประสิทธภาพสูงที่สุด และนอกกรอบการลดหย่อนภาษีที่เน้นเป้าหมายเป็นสำคัญ

"Put The Right Tool in The Right Job"

สรุปรวม Time Segmentation
Website Animation Content 1.3
Website Animation Content 2.2

พื้นฐาน มุมมอง วิเคราะห์เจาะลึก เปรียบเทียบ

ในเครื่องมือการเงิน

สำหรับการลดหย่อนภาษีทั้งประกันและกองทุนรวม ได้เห็นมุมมองการเลือกใช้ ข้อดีข้อจำกัด และเครื่องมือที่เหมาะสมตามช่วงอายุ

เครื่องมือคำนวณ
ประกอบการตัดสินใจ

สามารถคำนวณ สิทธิลดหย่อนภาษี/เบี้ย/ทุน ที่ต้องการได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องรอให้ตัวแทนคำนวณให้ พร้อมด้วยความรู้ด้านการพิจารณารับทำประกัน ข้อควรระวัง และสิ่งที่ควรเตรียมตัว

เครื่องมือคำนวนประกันชีวิตและโรคร้าย
Website Animation Content 3.2
Website Animation Content 4.2

ศึกษา เข้าใจ คำนวณ สอบถาม

ยื่นพิจารณา ติดตามผล

มีการคำนวณทั้งสิทธิการลดหย่อน และเบี้ยประกันต่าง ๆ พร้อมความรู้ข้อควรระวัง วิธีการแถลงสุขภาพ ผลการพิจารณาที่เป็นไปได้ รวมไปถึง การประสานงานในขั้นตอนการพิจารณารับทำประกัน การเปลี่ยนแปลงสัญญา การทบทวนข้อยกเว้น หลังทราบผลการพิจารณา

การบูรณการเครื่องมือการเงินสำหรับ วางแผนเกษียณ

วางแผนเป้าหมายทางการเงิน ให้กับในวันที่จะเกษียณผ่านเครื่องมือคำนวณ ประกันบำนาญ กองทุนบำนาญ การจัดการเบี้ยประกันสุขภาพตอนเกษียณ ที่สามารถเลือกอัตราความสำเร็จของแผนตามที่ต้องการ และ งบประมาณที่คาดไว้ได้ รวมไปถึงเครื่องมือการติดตามปรับแผนตามสถานการณ์ของรายได้ที่เปลี่ยนไปในแต่ละปี

ประกันบำนาญสุขภาพ1 1
มูลค่าพอร์ตกองทุน ก่อนเกษียณ หลังเกษียณ 2
Website Animation Content 5.1
Website Animation Content 6.1

จำลอง วางแผน ติดตาม ปรับปรุง

ให้ความรู้เจาะลึกเครื่องมือการเงินที่ต้องใช้สำหรับวางแผนเกษียณรอบด้าน และเครื่องมือคำนวณเงินที่ต้องใช้กับแผนเกษียณ ที่สามารถระบุได้ทั้งอายุที่ต้องการเกษียณ อายุที่เริ่มทำตามแผน จำนวนปีที่ต้องการดำเนินการ รวมถึงเครื่องมือคำนวณหากระหว่างทางมีการเปลี่ยนแปลงแผน

ทั้งหมดนี้ เริ่มต้นที่ความต้องการที่จะเข้าใจในเครื่องมือการเงิน และความต้องการที่จะเลือกใช้เครื่องมือการเงิน การออม การลดหย่อนภาษีให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

และเริ่มต้นที่ การทำความเข้าใจว่า การออมเงิน ไม่จำเป็นต้องได้ผลประโยชน์เพียงดอกเบี้ยเท่านั้น เพราะนั้นคือผลประโยชน์ที่น้อยที่สุดที่บริษัททางการเงินจะให้ได้

เกี่ยวกับ
RELEASE YOUR RISK

แอนนีนี่นี่

แอนนี่ - รุจิรา ต๊ะบุญเรือง

ผู้แนะนำให้ความรู้ในเครื่องมือการเงินแบบองค์รวม

ผู้แนะนำการลงทุนตราสารซับซ้อนประเภท 2 เลขที่ 088660

ตัวแทนกรุงเทพประกันชีวิต เลขที่ 6001021654

จากประสบการณ์ที่ผ่านมาในชีวิตการทำงานทั้งหมดของแอนนี่ในสายงาน CRM ได้พบว่า ความไม่รู้ เป็นศัตรูที่แพงอย่างมากในโลกของการเงิน และโดยส่วนใหญ่กว่าจะได้รู้ก็อาจจะสายไปแล้ว

แอนนี่จึงจะเน้นแก้ไขปัญหานี้ ผ่านการให้ความรู้ทางการเงินที่ครบถ้วนที่สุดเพื่อป้องกันการถูกเอาเปรียบจากความไม่รู้นี้ค่ะ

Untitled design 23 1

บาส - ฐิติ  รุ่งเจริญไพศาล

ผู้ค้นคว้าพัฒนา FRAMEWORK เพื่อการเกษียณสุข

ผู้วางแผนการลงทุน IP เลขที่ 105969

ที่ปรึกษทางการเงิน AFPT เลขที่ AFPT190104

ตัวแทนกรุงเทพประกันชีวิต เลขที่ 6101074044

ผมอยู่ในสายงานนักพัฒนาโปรแกรมและอาจารย์มหาวิทยาลัยมากว่า 10 ปี ซึ่งได้พบความจริงว่า หากขาดความรู้ ความเข้าใจ ลำดับการใช้งานของเครื่องมือทางการเงินที่ถูกต้องแล้ว  ก็ยากที่จะทราบได้ว่าจะมีอิสรภาพทางการเงินได้เมื่อใด

ผมจึงพยายามพัฒนาเครื่องมือคำนวณ ที่จะใช้เครื่องมือการเงินให้ครบรอบด้านโดยเฉพาะในกรอบการลดหย่อนภาษี เพื่อช่วยให้สามารถคำนวณเงินที่จำเป็นสำหรับนำไปสู่อิสรภาพทางการเงินในช่วงเกษียณได้ ทั้งยังต้องสามารถลงมือทำตามได้ง่ายและมีความยืดหยุ่นตามสถานการณ์รายได้ที่สามารถเปลี่ยนแปลงไปได้

>
Scroll to Top

เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งาน ซึ่งสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ตกลงทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึก