จัดการความเสี่ยงการเงินอย่างไร ให้สามารถเปลี่ยนการลดหย่อนภาษีธรรมดามาเป็น เครื่องมือช่วยท่านประหยัดเงินได้หลักล้าน และไม่ถูกหลอกด้วยคำโฆษณาที่ต้องการเพียงแต่จะขาย
มี "เครื่องมือการเงิน" หลายอย่างที่สามารถช่วย "แบ่งเบา" ความเสี่ยงที่ท่านต้องแบกรับอยู่ได้ แต่ก็อาจมาพร้อมกับ ปัญหาในภายหลัง
ท่านจึงจำเป็นต้องทราบถึงข้อมูลต่าง ๆ ให้ครบถ้วน สามารถบูรณาการทุกเครื่องมือการเงินเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด และช่วยให้ท่านได้ทราบว่าควรต้องเตรียมเงินอีกเท่าไร
ซึ่งเป็นจุดประสงค์หลักของการวางแผนการเงิน ที่เปลี่ยนความไม่แน่นอนและคำนวณไม่ได้ ให้มีความแน่นอนมากขึ้น คำนวณได้
และที่สำคัญต้องช่วยให้ท่านได้ประโยชน์และประหยัดมากขึ้น จากสิทธิการลดหย่อนภาษีที่มีในปัจจุบัน เราจึงจะช่วยให้ท่านได้ทราบถึง
จัดการความเสี่ยงการเงินอย่างไร ให้สามารถเปลี่ยนการลดหย่อนภาษีธรรมดามาเป็น เครื่องมือช่วยท่านประหยัดเงินได้หลักล้าน และไม่โดนหลอกด้วยคำโฆษณาที่ต้องการเพียงแต่จะขาย
มี "เครื่องมือการเงิน" หลายอย่างที่สามารถช่วย "แบ่งเบา" ความเสี่ยงที่ท่านต้องแบกรับอยู่ได้ แต่ก็อาจมาพร้อมกับ ปัญหาในภายหลัง
ท่านจึงจำเป็นต้องทราบถึงข้อมูลต่าง ๆ ให้ครบถ้วน สามารถบูรณาการทุกเครื่องมือการเงินเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด และช่วยให้ท่านได้ทราบว่าควรต้องเตรียมเงินอีกเท่าไร
ซึ่งเป็นจุดประสงค์หลักของการวางแผนการเงิน ที่เปลี่ยนความไม่แน่นอนและคำนวณไม่ได้ ให้มีความแน่นอนมากขึ้น คำนวณได้
และที่สำคัญต้องช่วยให้ท่านได้ประโยชน์และประหยัดมากขึ้น จากสิทธิการลดหย่อนภาษีที่มีในปัจจุบัน เราจึงจะช่วยให้ท่านได้ทราบถึง
เครื่องมือการเงินที่ใช้อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของหน่วยงาน
Tax Optimization ทางออกสำคัญที่ช่วยให้ท่าน ลดความความเสี่ยงการเงินในยามเกษียณ โดยใช้เงินให้น้อยที่สุด
หลาย ๆ ครั้งที่ท่านจะเริ่มวางแผนลดหย่อนภาษีนั้น จะมีนักขายมากมายเสนอสินค้าการเงินตามที่ท่านสนใจ โดยมีผลประโยชน์เบื้องหน้าเข้าล่อผ่านเครื่องมือ Tax Planning ที่บอกเพียงว่า จะลดหย่อนอะไรได้บ้าง ลดหย่อนได้เท่าไร แต่ไม่มีการบูรณาการสินค้าทางการเงินเหล่านี้เข้าหากันเลย
เพราะการจะทำแบบนี้ได้นั้น ต้องใช้เครื่องมือหลากหลายและการคำนวณหลายด้าน และบริษัทเจ้าของสินค้าเองก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรเพิ่มเติม และอาจต้องเสียผลประโยชน์ไปด้วยซ้ำ จึงไม่มีเครื่องมือที่ช่วยคำนวณในลักษณะของ Tax Optimization ออกมาให้เห็นมากนัก ทุกอย่างเลยต้องขึ้นอยู่กับฝีมือของที่ปรึกษาทางการเงินที่ดูแลท่านอยู่
ผลลัพธ์ของ Tax Optimization ไม่เพียงมีประโยชน์กับตัวท่านเอง แต่ยังสามารถทำให้ลูกของท่าน หมดความกังวลเรื่องค่ารักษาไปตลอดชีพ ด้วยเงินที่มีโอกาสประหยัดได้กว่า 94% - 97% หรือประหยัดเงินหลักล้านบาทขึ้นไป
โดยจากการจำลองและการคำนวณของเรา การทำ Tax Optimization จะสามารถช่วยให้ ลูกชายของท่านที่มีอายุ 11 ขวบนั้น
ได้มีประกันสุขภาพที่มีค่าห้องเดี่ยวมาตรฐาน เหมาจ่ายตามจริง แผน 1 ล้านบาท (Deduct 100,000) โดยมีโอกาสใช้เงินน้อยที่สุดเพียง 97,189 บาทเท่านั้น จากปกติที่ต้องจ่ายเบี้ยรวม 2,771,103 บาท
หรือ ได้มีประกันสุขภาพเหมาจ่าย 100 ล้านบาท ที่มั่นใจว่าจะเพียงพอเป็นค่ารักษาตลอดชีพของลูกท่านได้แน่นอน โดยมีโอกาสใช้เงินน้อยที่สุดเพียง 1,804,574 บาท จากปกติต้องจ่ายเบี้ยรวมถึง 31,940,667 บาท!! (หรือเทียบด้วยเงินที่ใกล้เคียงกับค่าเทอมโรงเรียนนานาชาติ 2 ปีการศึกษาเท่านั้น)
หรือ ได้มีประกันสุขภาพเหมาจ่าย 80 ล้านบาท ที่มั่นใจว่าจะพอเพียงเป็นสวัสดิการค่ารักษาตลอดชีพของลูกท่าน โดยมีโอกาสใช้เงินน้อยที่สุดเพียง 917,691 บาท จากปกติต้องจ่ายเบี้ยรวมถึง 15,466,587 บาท!!
..เพื่อแลกกับ ความคุ้มครองค่ารักษาตลอดชีพของลูกท่าน และยังช่วยท่านหรือลูกของท่านประหยัดได้อีกหลายล้านบาท และนำเงินที่ประหยัดได้ไปใช้ในสิ่งที่จำเป็นมากกว่าได้
ทั้งหมดนี้ ยังไม่รวมเงินคืนภาษี และคิดจากสมมติฐานการลงทุนปีแรกงวดเดียว โดยมีผลตอบแทนเฉลี่ยของทุกกองทุนรวมที่ 6.4% ต่อปี ผ่านการทำ Tax Optimization ที่จัดพอร์ตกองทุนรวมแบบ Target-based Core/Satellite, Target Date, Global Asset Allocation และ Time-based Segmentation
ที่ทำให้มั่นใจได้ว่า เงินที่จะต้องถูกใช้จ่ายค่าเบี้ยประกันในปีนั้น ๆ จะมาจากกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงต่ำ 3%-4% เสมอเพื่อป้องกัน Sequence Risk และจะใช้เงินจากกองทุนรวมที่เสี่ยงปานกลางก็ต่อเมื่อ เงินลงทุนในกองทุนนั้นมีอายุนานเกินกว่า 10 ปีไปแล้วเท่านั้น เพื่อลดความเสี่ยงและความผันผวนของกองทุนรวมด้วยเวลาอย่างเต็มที่ และสอดคล้องกับกฏข้อบังคับของกองทุน SSF และ RMF
แต่การจะทำ Tax Optimization ได้นั้น จำเป็นต้องทราบเงื่อนไขสวัสดิการที่ท่านต้องมีให้ชัดเจน
สวัสดิการหรือความเสี่ยงที่ท่านต้องการโอนและแชร์ความเสี่ยงร่วมกับคนอื่น ๆ นั้นต้องชัดเจน เพื่อจะได้นำค่าใช้จ่ายในการโอนความเสี่ยงเหล่านี้มาคำนวณและทำ Tax Optimization ให้ตรงกับความต้องการ และความเหมาะสมของท่านมากที่สุด
จึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่ท่านจะต้องมีความเข้าใจถึงเครื่องมือการเงินที่ใช้รับโอนความเสี่ยงเหล่านี้ รวมถึงมีความเข้าใจในเครื่องมือการเงินที่ทำให้เงินของท่านไม่ขี้เกียจและเติบโตมาช่วยรับความเสี่ยงร่วมกันได้ในอนาคต ซึ่งจะทำให้ท่านได้เลือกให้เหมาะตามอายุ ตามการใช้งาน และเหมาะสมกับครอบครัวท่านมากที่สุด
โดยในแต่ละบริษัททั้งบริษัทประกันชีวิต บริษัทประกันวินาศภัย และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม ก็จะมีเครื่องมือการเงินมากมายให้เลือกใช้ ซึ่งหากท่านเข้าใจถึงเบื้องหลังของเครื่องมือ และเลือกเฉพาะที่จำเป็นต้องใช้งานออกมา ก็จะสามารถเลือกเครื่องมือการเงินจากบริษัทที่มีจุดประสงค์ตรงกับท่านได้
โดยสวัสดิการทั้งหมดจะพอสรุปส่วนที่จำเป็นได้ดังนี้ คือ
สวัสดิการที่ท่านควรมี เพราะเป็นความเสี่ยงที่ท่าน ไม่ควร แบกรับไว้คนเดียวและควรโอนออกไปนั้นมีอะไรบ้าง
ความเสี่ยงที่ท่านไม่ควรแบกรับไว้เอง คือ ความเสี่ยงที่ทำให้ท่านล้มละลายทางการเงินได้ แต่มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อย เพราะเป็นความเสี่ยงที่ สามารถแชร์กับผู้อื่นและรับความเสี่ยงร่วมกันได้ แทนที่ท่านจะเก็บความเสี่ยงเหล่านี้ไว้กับตัว และต่อสู้เพียงลำพังคนเดียวในวันที่ท่านยังไม่พร้อมรับความเสี่ยงทั้งหมดนั้นไว้เอง
1. ความเสี่ยงต่อชีวิต
เป็นความเสี่ยงที่รุนแรงมากที่สุด มีเอกลักษณ์ที่พิเศษคือ เป็นความเสี่ยงที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ โดยได้แต่ขอภาวนาให้เพียงไม่เกิดขึ้นในตอนช่วงที่ยังต้องดูแลครอบครัวอยู่เท่านั้น หรือในช่วงที่กำลังสร้างตัว จึงเป็นความเสี่ยงที่ควรโอนแบ่งให้ผู้อื่นมารับความเสี่ยงร่วมด้วยมากกว่าที่จะรับผลร้ายถึงชีวิตนี้ด้วยตัวเองเพียงคนเดียว
2. ความเสี่ยงโรคร้าย/ สุขภาพ
เป็นความเสี่ยงระดับรุนแรงมากที่กระทบทั้งต่อ ตนเองและครอบครัว เพราะค่ารักษาโรคร้ายแรงเหล่านี้ไม่ต่ำกว่าหลักล้าน และใช้เวลารักษาที่นาน เมื่อเป็นแล้ว อาจไม่สามารถกลับมาเหมือนปกติได้อีก และอาจต้องรักษาไปตลอดทั้งชีวิต จึงเป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงที่คาดเดาได้ยาก ไม่มีเหตุผลที่ดีอันใด ที่จะควรเก็บความเสี่ยงนี้ไว้กับตนเองตามลำพังเลย
3. ความเสี่ยงหลังเกษียณ
ทุกความเสี่ยง นักขายเครื่องมือการเงินมักจะให้ท่านได้เห็นเพียงระยะสั้นก่อนเกษียณเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วมีความเสี่ยงหลายอย่างที่ท่านไม่สามารถจะโอนได้แล้วในวัยเกษียณ หรือหากโอนได้ก็มีค่าโอนที่สูงมาก ถึงแม้จะมีเครื่องมือบางอย่างที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยเตรียมแก้ปัญหานี้โดยบริษัทเจ้าของสินค้า แต่ก็ต้องยอมรับว่าท่านจะไม่ได้ประโยชน์สูงสุด เพราะท่านต้องแบ่งประโยชน์กับเจ้าของเครื่องมือด้วย
ทั้ง 3 ความเสี่ยงนี้ คือสิ่งที่หนีไม่พ้นเช่นเดียวกับการ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถจะบอกได้ชัด ๆ ว่าจะเกิดขึ้นที่ไหน เมื่อไร และทั้ง 3 ความเสี่ยงนี้ ล้วนส่งผลกระทบต่อปัจจัย 4 คือ อาหาร ยา เครื่องนุ่งห่ม และที่อยู่อาศัย ทั้งสิ้น ดังนั้นการวางแผนการเงินเพื่อรองรับความเสี่ยงทั้ง 3 จึงเป็นเรื่องที่ควรจัดการให้เร็วที่สุด ทั้งต่อตัวท่านเองและคนที่ท่านรัก
และการทำ Tax Optimization จึงจะสามารถ Optimize ให้การลดหย่อนภาษีทุกบาททุกสตางค์ ได้สอดคล้องกับค่าการจัดการความเสี่ยงเหล่านี้ให้ได้มากที่สุด ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ Release your Risk เน้นเป็นพิเศษ
รวมถึงจะได้อธิบายให้เห็นภาพตามได้ง่ายว่าเครื่องมือที่ใช้จัดการความเสี่ยงทั้ง 3 นั้น มีอะไรบ้าง
วิธีการเลือกประกันด้านสุขภาพให้เหมาะสมกับตัวท่าน
หนึ่งในเครื่องมือการเงินที่หากไม่เข้าใจถึงที่มา อาจส่งผลให้ถูกการตลาดพาไปสู่จุดสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้เสียผลประโยชน์ได้ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
วิธีทำให้มีประกันสุขภาพไปตลอดชีวิต
แท้จริงแล้วเครื่องมืออย่างประกันสุขภาพ จะมีประโยชน์ที่สูงขึ้นมากที่สุดในตอนเกษียณ แต่เมื่อถึงตอนเกษียณนั้นเอง คนส่วนใหญ่ตัดสินใจยกเลิกประกันสุขภาพ ด้วยสาเหตุเพราะเบี้ยประกันที่สูงถึงหลักแสน++ แล้วจะต้องทำอย่างไรที่ไม่ต้องหาเงินจ่ายเบี้ยประกันหลังเกษียณอีก แต่ยังคงมีความคุ้มครองสุขภาพ
ข่าวสาร ข้อมูล และเหตุการณ์สำคัญ
ที่มาของพวกเรา
RELEASE YOUR RISK
ทุกความเสี่ยง.. หากเราเข้าใจ เราเลือกที่จะโอนได้
เพราะไม่ใช่ทุกความเสี่ยงที่เราจะแบกรับไว้เองได้ทั้งหมดตั้งแต่แรก เราจำเป็นต้องเลือกใช้เครื่องมือในแต่ละช่วงอายุให้เหมาะสม เพื่อโอนความเสี่ยงไปในช่วงเวลาที่เรารับความเสี่ยงเองได้ไม่ไว้ และ ต้องทยอยเตรียมการที่จะรับความเสี่ยงได้เองในช่วงอายุที่ไม่มีใครจะมารับความเสี่ยงร่วมกับเราได้แล้ว
"ไม่มีเครื่องมือการเงินตัวหนึ่งตัวใดที่ดีที่สุด แต่จำเป็นต้องใช้ทุกเครื่องมืออย่างเหมาะสม จึงจะทยอยปล่อยความเสี่ยงออกไปได้"
สงวนลิขสิทธิ์ © 2018-2021 RELEASE YOUR RISK