โรคที่จะถูกยกเว้นความคุ้มครอง หากยังรักษาไม่หายขาดเกิน 5 ปีก่อนทำประกันสุขภาพ

โรคหรืออาการใดบ้างที่เข้าข่ายจะถูกยกเว้นความคุ้มครอง หากเป็นมาก่อนทำประกันสุขภาพ

มาเช็คดูกันค่ะว่า โรคหรืออาการใดที่ท่านกำลังเป็นอยู่ เคยเป็นหรือรักษาหายแล้วน้อยกว่า 5 ปี ที่อาจจะโดนประกันสุขภาพยกเว้นความคุ้มครองหรือไม่คุ้มครอง อันเนื่องมาจาก

 เป็นโรคมาก่อนทำประกันและยังไม่มีการรักษาให้หายขาดเกิน 5 ปี (เป็นโรคที่มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำสูง)

เป็นโรคเรื้อรัง ที่มีโอกาสรักษาหายขาดได้ยาก

เป็นโรคที่สามารถทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่รุนแรง

หรือหากท่านยังไม่เคยเป็นโรคใด ๆ มาก่อน สามารถอ่านบทความนี้เพื่อสังเกตตัวเอง และเตรียมตัวดูแลตัวเอง ไม่ให้เสี่ยงเป็นโรคดังกล่าวก่อนการทำประกันสุขภาพ โดยบทความนี้มีรายละเอียดโรคหรืออาการเด่น ๆ ที่คนนิยมเป็นกัน มาให้อ่านกันดังต่อไปนี้ค่ะ

(ซึ่งล้วนเป็นโรคหรืออาการที่เกิดขึ้นได้ตั้งแต่วัยรุ่น ไม่ใช่เพียงวัยทำงาน ดังนั้นยิ่งทำประกันสุขภาพช้าเท่าใด ยิ่งมีโอกาสที่เบี้ยประกันที่ท่านจ่ายไปจะไม่ครอบคลุมทุกโรคมากเท่านั้นค่ะ)

1. โรคกรดไหลย้อน (GERD)

หมายถึง การไหลย้อนกลับของกรดหรือน้ำย่อย ขึ้นไปในหลอดอาหารส่วนบนผิดปกติ โดยสาเหตุของโรคนี้ เกิดจากพฤติกรรมการดำเนินชีวิตของแต่ละคน เช่น ทำงานหนัก นอนดึก ชอบทานมื้อดึก ความเครียด ชนิดของอาหารที่รับประทาน ชอบดื่มชา กาแฟ ฯลฯ ด้วยพฤติกรรมเหล่านี้ พบมากในวัยทำงาน ซึ่งเป็นกลุ่มที่เป็นโรคกรดไหลย้อนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

โรคกรดไหลย้อนมี 2 ประเภทคือ แบบธรรมดา (CLASSIC GERD) และ แบบย้อนขึ้นมาที่คอและกล่องเสียง (LPR) สำหรับ โรคกรดไหลย้อนขึ้นมาที่คอและกล่องเสียง มักเกิดในขณะเดิน นั่ง หรือยืน ในเวลากลางวัน ส่วนโรคกรดไหลย้อนธรรมดา มักเกิดขณะนอน และเกิดในเวลากลางคืน

ทำไมโรคกรดไหลย้อนถึงอันตรายและบริษัทประกันฯ ถึงไม่คุ้มครอง หากเป็นมาก่อนหรือยังรักษาไม่หายขาดเกิน 5 ปี

เพราะสาเหตุการเกิดนอกจากพฤติกรรมของแต่ละคนแล้ว ยังอาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Helicobacter pylori ซึ่งเชื้อตัวนี้มีความสัมพันธ์กับการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร และทำให้มีอัตราเสี่ยงในการเกิด มะเร็งของกระเพาะอาหาร มากขึ้น

การรักษาโรคกรดไหลย้อนต้องใช้เวลานาน และถึงแม้ว่าแพทย์จะให้หยุดยาแล้ว ไม่ได้หมายความว่าโรคนี้หายขาด ผู้ป่วยมีโอกาสกลับมามีอาการใหม่ได้จนอาจต้องรักษาโดยการผ่าตัด หากมีการใช้ยารักษาอย่างเต็มที่แล้ว แต่อาการไม่ดีขึ้น

Helicobacter pylori กรดไหลย้อน

ดังนั้นหากมีประวัติการรักษาโรคกรดไหลย้อนที่หยุดทานยาแล้วต่อเนื่องน้อยกว่า 5 ปี หรืออาจกำลังเป็นโรคกรดไหลย้อนที่ยังทานยาและพบแพทย์เป็นประจำ บริษัทประกันฯ จะไม่คุ้มครองโรคดังกล่าวรวมถึงภาวะสืบเนื่อง เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร เป็นต้น

และหากเป็นโรคกรดไหลย้อนมาที่กล่องเสียงทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนหรือโรคร่วมทางหู คอ จมูก ได้ เช่น กล่องเสียงอักเสบ โรคคออักเสบ/ทอนซิลอักเสบ ไซนัสอักเสบ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ หูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลัน

ทำอย่างไรหากบริษัทฯ ไม่คุ้มครองหรือยกเว้นความคุ้มครองโรคกรดไหลย้อนและภาวะสืบเนื่อง

หากขอบเขตของความไม่คุ้มครอง มีความสมเหตุสมผลและชัดเจน อาจไม่ต้องทำขั้นตอนใดนอกจากยอมรับข้อเสนอใหม่ตามที่บริษัทฯ ยื่นมา ท่านสามารถตอบรับข้อเสนอใหม่ที่ระบุเงื่อนไขความไม่คุ้มครองได้เลยค่ะ

เมื่อเวลาผ่านไปหลังจากทำประกัน ท่านไม่เคยมีอาการหรือเจ็บป่วยด้วยโรคกรดไหลย้อน หรือมีอาการที่เป็นภาวะสืบเนื่องใด ๆ อีกเลยต่อเนื่องกัน 5 ปี ท่านสามารถติดต่อ Release Your Risk เพื่อยื่นเรื่องให้บริษัทฯ ยกเลิกการไม่คุ้มครองโรคดังกล่าวได้ค่ะ

เว้นแต่ว่า ท่านต้องการให้บริษัทฯ ทบทวนการพิจารณาใหม่พร้อมหลักฐานเพิ่มเติม เช่น

     ✦ ชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาและอาการปัจจุบัน เพื่อขอให้ลดขอบเขตการไม่คุ้มครองให้แคบลง

     ✦ ยื่นหลักฐานใบรับรองแพทย์ หรือผลประวัติการส่องกล้องกระเพาะอาหารและลำไส้ เป็นต้น

หมายเหตุ: 1. การขอให้บริษัทฯ ทบทวนการรพิจารณาใหม่ และการที่ต้องใช้หลักฐานพิสูจน์โรคหรืออาการที่เคยเป็นว่า มีผลที่ปกติดี ท่านจะต้องฝ่ายดำเนินการและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเหล่านั้นเอง

                  2. โดยผลการพิจารณาครั้งใหม่จากหลักฐานที่ท่านยื่นไป เป็นการให้โอกาสได้ต่อสู้ แต่ไม่ได้เป็นการการันตีว่าบริษัทฯ จะไม่ยกเว้นการไม่คุ้มครอง

คำแนะนำเพิ่มเติม

เมื่อมีการแถลงเกี่ยวกับโรคหรืออาการกรดไหลย้อนในแบบฟอร์มคำขอทำประกันฯ และถ้าท่านมี

ประวัติการรักษาโรคกรดไหลย้อน และ/หรือ
ประวัติการตรวจสุขภาพ หรือการส่องกล้องกระเพาะอาหาร

ท่านสามารถแนบมาพร้อมกับการขอทำประกันได้ตั้งแต่แรก เพื่อความรวดเร็วในขั้นตอนการพิจารณารับประกันค่ะ

2. เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

โรคยอดฮิตสำหรับผู้หญิง ที่พบมากในช่วงอายุ 25-35 ปี สาเหตุส่วนใหญ่เชื่อว่าเกิดจาก การไหลย้อนทางของประจำเดือนผ่านท่อนำไข่เข้าไปฝังตัวอยู่ตามอวัยวะต่าง ๆ ภายในช่องท้อง

อาการแสดงถึงโรคนี้ คือ ปวดท้องน้อยมากถึงเรื้อรัง อาจมีเลือดออกกะปริดกะปรอยระหว่างรอบเดือน รวมถึงภาวะมีบุตรยาก ทั้งนี้บางรายก็ไม่มีอาการใด ๆ แม้จะมีรอยโรคชัดเจน

ทำไมโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ถึงอันตรายและบริษัทประกันฯ ถึงไม่คุ้มครอง หากเป็นมาก่อนหรือยังไม่มีการผ่าตัดรักษาหายขาดเกิน 5 ปี

ถึงแม้ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ไม่ใช่เนื้อร้าย แต่เป็นโรคเรื้อรัง จนอาจต้องรักษาโดยการผ่าตัดหากมีการใช้ยารักษาอย่างเต็มที่แล้ว แต่อาการไม่ดีขึ้นหรือไม่มีการตอบสนอง รวมถึงมีอาการที่รุนแรง ซึ่งการผ่าตัดที่นิยมมากที่สุดคือ การผ่าตัดโดยวิธีการส่องกล้อง

ดังนั้นโดยทั่วไปเมื่อตรวจพบรอยโรคของเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ แพทย์จะรักษาโดยยการให้ทานยาต่อเนื่อง และเมื่อหายแล้ว ยังมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้ รวมถึงการรักษาโดยการผ่าตัดบางประเภทก็ยังมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้ เช่น การเลาะพังผืดออก หรือการเลาะก้อนบริเวณรังไข่ออก และอาจต้องผ่าตัดซ้ำได้

ดังนั้นหากมีประวัติการรักษาโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่หายแล้ว (หยุดทานยาและพบแพทย์) ต่อเนื่องน้อยกว่า 5 ปี หรืออาจกำลังเป็นเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ยังทานยาและพบแพทย์เป็นประจำ รวมถึงที่ผ่าตัดด้วยการจี้ การเลาะพังผืดออก หรือการเลาะก้อนบริเวณรังไข่ออก จนหายแล้วน้อยกว่า 5 ปี

บริษัทประกันฯ จะไม่คุ้มครองโรคดังกล่าวรวมถึงภาวะสืบเนื่อง เช่น มะเร็งรังไข่ โรคไขมันอุดตัน และโรคหลอดเลือดหัวใจ เป็นต้น

ทั้งนี้ อาจรวมถึงการเกิดภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ เช่น ลำไส้ทะลุ มีเลือดคั่งในช่องท้อง ไส้ติ่งอักเสบ ก้อนในรังไข่แตกหรือติดเชื้อ เนื่องจากมดลูกขยายขนาดขึ้นบริเวณที่มีพังผืด

โรคที่ยกเว้น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

ทำอย่างไรหากบริษัทฯ ไม่คุ้มครองหรือยกเว้นความคุ้มครองโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ รังไข่ มดลูกและภาวะสืบเนื่อง

หากขอบเขตของความไม่คุ้มครอง มีความสมเหตุสมผลและชัดเจน อาจไม่ต้องทำขั้นตอนใดนอกจากยอมรับข้อเสนอใหม่ตามที่บริษัทฯ ยื่นมา ท่านสามารถตอบรับข้อเสนอใหม่ที่ระบุเงื่อนไขความไม่คุ้มครองได้เลยค่ะ

หากท่านตอบรับข้อเสนอใหม่ที่ระบุเงื่อนไขความไม่คุ้มครองไปแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปหลังจากทำประกัน ท่านได้รักษาด้วยการผ่าตัดรังไข่และมดลูกออกทั้งหมดนานประมาณ 3-5 ปี ท่านสามารถติดต่อ Release Your Risk เพื่อยื่นเรื่องให้บริษัทฯ ยกเลิกการไม่คุ้มครองโรคดังกล่าวได้ค่ะ

เว้นแต่ว่า ท่านต้องการให้บริษัทฯ ทบทวนการพิจารณาใหม่พร้อมหลักฐานเพิ่มเติม เช่น

     ✦ ชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาและอาการปัจจุบัน เพื่อขอให้ลดขอบเขตการไม่คุ้มครองให้แคบลง

     ✦ ยื่นหลักฐานใบรับรองแพทย์ หรือผลการอัลตร้าซาวด์ช่องท้องช่วงล่าง เป็นต้น

หมายเหตุ: 1. การขอให้บริษัทฯ ทบทวนการรพิจารณาใหม่ และการที่ต้องใช้หลักฐานพิสูจน์โรคหรืออาการที่เคยเป็นว่า มีผลที่ปกติดี ท่านจะต้องฝ่ายดำเนินการและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเหล่านั้นเอง

                  2. โดยผลการพิจารณาครั้งใหม่จากหลักฐานที่ท่านยื่นไป เป็นการให้โอกาสได้ต่อสู้ แต่ไม่ได้เป็นการการันตีว่าบริษัทฯ จะไม่ยกเว้นการไม่คุ้มครองโรคที่เป็นมาก่อน

คำแนะนำเพิ่มเติม

เมื่อมีการแถลงเกี่ยวกับโรคหรือเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ในแบบฟอร์มคำขอทำประกันฯ และถ้าท่านมี

ประวัติการรักษาเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ และ/หรือ
ประวัติการตรวจสุขภาพ หรือผลการอัลตร้าซาวด์ช่องท้องล่าง

ท่านสามารถแนบมาพร้อมกับการขอทำประกันได้ตั้งแต่แรก เพื่อความรวดเร็วในขั้นตอนการพิจารณารับประกันค่ะ

3. ปวดศรีษะไมเกรน (Migraine)

ปวดหัวไมเกรนจะรุนแรงมากน้อยขึ้นอยู่กับความทนทานของร่างกายแต่ละบุคคล พบมากในกลุ่มวัยทำงาน อาการปวดหัวไมเกรนที่ดูเหมือนไม่มีอะไร แท้จริงแล้วเป็นอีกหนึ่งโรคร้ายที่อันตรายกว่าที่คิดไว้

โดยสิ่งกระตุ้นที่สำคัญ คือ ความเครียด ฮอร์โมนและอารมณ์ในร่างกาย การอดนอนเป็นเวลานาน ตาเฟอีน แอลกอฮอล์ ผงชูรส ชีส อากาศร้อน แสงแดดจ้า การใช้ยา กลิ่นน้ำหอม กลิ่นบุหรี่ ผู้ป่วยเป็นคนแพ้ช็อคโกแลต รวมไปถึงผู้หญิงที่มีภาวะการมีประจำเดือนเข้ามาเกี่ยวข้อง และคุณแม่หลังคลอดบุตร ทำให้เป็นไมเกรนได้

อย่างไรแล้วสิ่งกระตุ้นให้เป็นไมเกรนของแต่ละคนไม่เหมือนกัน 

ทำไมไมเกรนถึงมีความเสี่ยงและบริษัทประกันฯ ถึงไม่คุ้มครอง หากเป็นมาก่อนหรือยังรักษาไม่หายขาดเกิน 5 ปี

เนื่องจากอาการปวดหัวไมเกรน บางครั้งอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น อาการคลื่นไส้อาเจียน หรือหากมีอาการหนักมากอาจจะมีอาการผิดปกติ อาทิ มองเห็นแสงจ้า ตาพร่ามัว การมองเห็นไม่ชัด ไวต่อการรับเสียง วูบหรือหน้ามืด จนอาจเป็นลมได้ในที่สุด

ดังนั้นบริษัทฯ จึงมองว่าอาการปวดหัวไมเกรนเป็นความเสี่ยง และจะไม่คุ้มครองหากเป็นก่อนทำประกัน หรือยังรักษาไม่หายขาดเกิน 5 ปี (หยุดทานยาและพบแพทย์)

ผู้หญิงเป็นไมเกรนมากกว่าผู้ชาย คิดเป็นอัตรา 8 ต่อ 1 โดยเฉลี่ยอาการปวด 1 ถึง 2 ครั้งต่อเดือน และระยะเวลาที่เป็นจะอยู่ประมาณหลายชั่วโมง (แต่ไม่เกิน 1 ถึง 2 วัน)

โรคที่ไม่คุ้มครอง ไมเกรน

ทำอย่างไรหากบริษัทฯ ไม่คุ้มครองหรือยกเว้นความคุ้มครองอาการปวดศรีษะไมเกรนและภาวะสืบเนื่อง

หากขอบเขตของความไม่คุ้มครอง มีความสมเหตุสมผลและชัดเจน อาจไม่ต้องทำขั้นตอนใดนอกจากยอมรับข้อเสนอใหม่ตามที่บริษัทฯ ยื่นมา ท่านสามารถตอบรับข้อเสนอใหม่ที่ระบุเงื่อนไขความไม่คุ้มครองได้เลยค่ะ

หากท่านตอบรับข้อเสนอใหม่ที่ระบุเงื่อนไขความไม่คุ้มครองไปแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปหลังจากทำประกัน ท่านไม่เคยมีอาการหรือเจ็บป่วยด้วยไมเกรน หรือมีอาการที่เป็นภาวะสืบเนื่องใด ๆ อีกเลยต่อเนื่องกัน 5 ปี ท่านสามารถติดต่อ Release Your Risk เพื่อยื่นเรื่องให้บริษัทฯ ยกเลิกการไม่คุ้มครองโรคดังกล่าวได้ค่ะ

เว้นแต่ว่า ท่านต้องการให้บริษัทฯ ทบทวนการพิจารณาใหม่พร้อมหลักฐานเพิ่มเติม เช่น

     ✦ ชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาและอาการปัจจุบัน เพื่อขอให้ลดขอบเขตการไม่คุ้มครองให้แคบลง

     ✦ ยื่นหลักฐานใบรับรองแพทย์ หรือผลประวัติการรักษาไมเกรนล่าสุด เป็นต้น

หมายเหตุ: 1. การขอให้บริษัทฯ ทบทวนการรพิจารณาใหม่ และการที่ต้องใช้หลักฐานพิสูจน์โรคหรืออาการที่เคยเป็นว่า มีผลที่ปกติดี ท่านจะต้องฝ่ายดำเนินการและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเหล่านั้นเอง

                  2. โดยผลการพิจารณาครั้งใหม่จากหลักฐานที่ท่านยื่นไป เป็นการให้โอกาสได้ต่อสู้ แต่ไม่ได้เป็นการการันตีว่าบริษัทฯ จะไม่ยกเว้นการไม่คุ้มครองโรคที่เป็นมาก่อน

คำแนะนำเพิ่มเติม

เมื่อมีการแถลงเกี่ยวกับโรคหรืออาการปวดหัวไมเกรนในแบบฟอร์มคำขอทำประกันฯ และถ้าท่านมี

ประวัติการรักษาปวดหัวไมเกรน

ท่านสามารถแนบมาพร้อมกับการขอทำประกันได้ตั้งแต่แรก เพื่อความรวดเร็วในขั้นตอนการพิจารณารับประกันค่ะ

4. ต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรัง

สาเหตุของการอักเสบมักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ผู้ป่วยทอนซิลอักเสบมักมีอาการ เช่น เจ็บคอ บางครั้งอาจเจ็บจนร้าวไปหู มีไข้หนาวสั่น กลืนเจ็บ กลืนลำบาก อาจคลำได้ต่อมน้ำเหลืองที่คอบวมโต

โดยหากมีอาการอักเสบบ่อย ๆ ทำให้ต่อมมีขนาดที่โตขึ้นและอาจกลายเป็นการอักเสบแบบเรื้อรัง มีการอักเสบซ้ำ ๆ ปีละหลายครั้ง หรือระคายเคืองคอเรื้อรัง มีกลิ่นปาก (ข้อมูลจากเว็บไซต์โรงพยาบาลกรุงเทพ)

ทำไมต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรังถึงอันตรายและบริษัทประกันฯ ถึงไม่คุ้มครอง หากเป็นมาก่อนหรือยังรักษาไม่หายขาดเกิน 5 ปี

หากปล่อยให้ต่อมทอนซิลอักเสบจนเรื้อรัง ทำให้ในหนึ่งปีมีโอกาสเป็นหลายครั้ง ในบางครั้งหากอาการไม่ดีขึ้น มีอาการรุนแรง ไข้สูง มีภาวะขาดน้ำขาดอาหาร อาจจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพื่อให้น้ำเกลือหรือยาปฏิชีวนะทางเส้นเลือด

และบางครั้งอาจเกิดอาการแทรกซ้อน เช่น การอักเสบติดเชื้อกระจายเป็นวงกว้าง เกิดหนองบริเวณรอบต่อมทอนซิล เกิดภาวะการติดเชื้อเข้าไปในกระแสเลือด ซึ่งเป็นภาวะที่มีอันตรายถึงแก่ชีวิต อาจจำเป็นจะต้องอาศัยการผ่าตัดเพื่อระบายหนองหรือการติดเชื้อร่วมกับการให้ยา

ดังนั้นบริษัทฯ จึงมองว่าเป็นความเสี่ยงและไม่คุ้มครองหากเป็นมาก่อนและยังรักษาไม่หายขาดเกิน 5 ปี 

ทำอย่างไรหากบริษัทฯ ไม่คุ้มครองหรือยกเว้นความคุ้มครองต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรังและภาวะสืบเนื่อง

หากขอบเขตของความไม่คุ้มครอง มีความสมเหตุสมผลและชัดเจน อาจไม่ต้องทำขั้นตอนใดนอกจากยอมรับข้อเสนอใหม่ตามที่บริษัทฯ ยื่นมา ท่านสามารถตอบรับข้อเสนอใหม่ที่ระบุเงื่อนไขความไม่คุ้มครองได้เลยค่ะ

หากท่านตอบรับข้อเสนอใหม่ที่ระบุเงื่อนไขความไม่คุ้มครองไปแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปหลังจากทำประกัน ท่านได้รักษาต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรังจนหายขาดเกิน 5 ปี ท่านสามารถติดต่อ Release Your Risk เพื่อยื่นเรื่องให้บริษัทฯ ยกเลิกการไม่คุ้มครองโรคดังกล่าวได้ค่ะ

เว้นแต่ว่า ท่านต้องการให้บริษัทฯ ทบทวนการพิจารณาใหม่พร้อมหลักฐานเพิ่มเติม เช่น

     ✦ ชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาและอาการปัจจุบัน เพื่อขอให้ลดขอบเขตการไม่คุ้มครองให้แคบลง

     ✦ ยื่นหลักฐานใบรับรองแพทย์ หรือผลประวัติการรักษาล่าสุด เป็นต้น

หมายเหตุ: 1. การขอให้บริษัทฯ ทบทวนการรพิจารณาใหม่ และการที่ต้องใช้หลักฐานพิสูจน์โรคหรืออาการที่เคยเป็นว่า มีผลที่ปกติดี ท่านจะต้องฝ่ายดำเนินการและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเหล่านั้นเอง

                  2. โดยผลการพิจารณาครั้งใหม่จากหลักฐานที่ท่านยื่นไป เป็นการให้โอกาสได้ต่อสู้ แต่ไม่ได้เป็นการการันตีว่าบริษัทฯ จะไม่ยกเว้นการไม่คุ้มครองโรคที่เป็นมาก่อน

คำแนะนำเพิ่มเติม

เมื่อมีการแถลงเกี่ยวกับต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรังในแบบฟอร์มคำขอทำประกันฯ และถ้าท่านมี

ประวัติการรักษาต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรัง

ท่านสามารถแนบมาพร้อมกับการขอทำประกันได้ตั้งแต่แรก เพื่อความรวดเร็วในขั้นตอนการพิจารณารับประกันค่ะ

5. โรคภูมิแพ้

เป็นปฏิกิริยาตอบสนองต่อสารที่พบได้ในชีวิตประจำวัน ทำให้เกิดอาการผิดปกติกับอวัยวะที่สัมผัสสารก่อภูมิแพ้นั้น ๆ ซึ่งผู้ป่วยโรคนี้แต่ละคนจะมีอาการแตกต่างกันและความรุนแรงไม่เท่ากัน เพราะชนิดของสารก่อภูมิแพ้ที่ได้รับและการตอบสนองของร่างกายแต่ละบุคคลต่างกัน

โรคภูมิแพ้เกิดขึ้นได้หลายระบบในร่างกาย เช่น ภูมิแพ้ทางเดินหายใจ ภูมิแพ้อาหารและยา ภูมิแพ้ผิวหนัง และภูมิแพ้ตา ที่พบได้บ่อย คือ ภูมิแพ้ทางเดินหายใจ หรือโรคแพ้อากาศ ปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยโรคภูมิแพ้เพิ่มมากขึ้น 3 – 4 เท่า หากเทียบกับ 10 ปีที่ผ่านมา โดยสาเหตุส่วนใหญ่เนื่องมาจาก

  • กรรมพันธุ์
  • มลภาวะ
  • สูบบุหรี่
  • ขาดการออกกำลังกาย
  • สภาพแวดล้อมภายในที่พักอาศัย เช่น เลี้ยงสัตว์ ปูพรม เครื่องปรับอากาศ เป็นแหล่งสะสมฝุ่นละอองและไรฝุ่นชั้นดี เป็นต้น

ทำไมภูมิแพ้ถึงมีความเสี่ยงและบริษัทประกันฯ ถึงไม่คุ้มครอง หากเป็นมาก่อนหรือยังรักษาไม่หายขาดเกิน 5 ปี

เนื่องจากภูมิแพ้เป็นโรคเรื้อรัง และเป็นโรคยอดฮิตที่พบได้ในทุกเพศทุกวัย ที่อาจกลายเป็นภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลัน จนส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายพร้อมกันหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจนำไปสู่ภาวะช็อกและร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ (ข้อมูลจากเว็บไซต์ โรงพยาบาลกรุงเทพ)

นอกจากนี้ภูมิแพ้ยังเป็นตัวารสำคัญของโรคหอบหืด ซึ่งถือเป็นโรคที่มีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตรุนแรงที่สุด และอาจส่งผลประทบต่อปอด ดังนั้นบริษัทประกันฯ จึงพิจารณาโรคภูมิแพ้ที่กำลังรักษา หรือยังไม่หายขาดเกิน 5 ปี นั้นเป็นความเสี่ยง จึงจะไม่คุ้มครองอาการหรือโรคภูมิแพ้ รวมถึงภาวะสืบเนื่อง

โรคที่บริษัทประกันฯ ไม่คุ้มครอง ภูมิแพ้

ทำอย่างไรหากบริษัทฯ ไม่คุ้มครองหรือยกเว้นความคุ้มครองอาการหรือโรคภูมิแพ้ และภาวะสืบเนื่อง

หากขอบเขตของความไม่คุ้มครอง มีความสมเหตุสมผลและชัดเจน อาจไม่ต้องทำขั้นตอนใดนอกจากยอมรับข้อเสนอใหม่ตามที่บริษัทฯ ยื่นมา ท่านสามารถตอบรับข้อเสนอใหม่ที่ระบุเงื่อนไขความไม่คุ้มครองได้เลยค่ะ

เมื่อเวลาผ่านไปหลังจากทำประกัน ท่านไม่เคยมีอาการหรือเจ็บป่วยด้วยภูมิแพ้ หรือมีอาการที่เป็นภาวะสืบเนื่องใด ๆ อีกเลยต่อเนื่องกัน 5 ปี ท่านสามารถติดต่อ Release Your Risk เพื่อยื่นเรื่องให้บริษัทฯ ยกเลิกการไม่คุ้มครองโรคดังกล่าวได้ค่ะ

เว้นแต่ว่า ท่านต้องการให้บริษัทฯ ทบทวนการพิจารณาใหม่พร้อมหลักฐานเพิ่มเติม เช่น

     ✦ ชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาและอาการปัจจุบัน เพื่อขอให้ลดขอบเขตการไม่คุ้มครองให้แคบลง

     ✦ ยื่นหลักฐานใบรับรองแพทย์ หรือผลประวัติการรักษาล่าสุด เป็นต้น

หมายเหตุ: 1. การขอให้บริษัทฯ ทบทวนการรพิจารณาใหม่ และการที่ต้องใช้หลักฐานพิสูจน์โรคหรืออาการที่เคยเป็นว่า มีผลที่ปกติดี ท่านจะต้องฝ่ายดำเนินการและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเหล่านั้นเอง

                  2. โดยผลการพิจารณาครั้งใหม่จากหลักฐานที่ท่านยื่นไป เป็นการให้โอกาสได้ต่อสู้ แต่ไม่ได้เป็นการการันตีว่าบริษัทฯ จะไม่ยกเว้นการไม่คุ้มครองโรคที่เป็นมาก่อน

คำแนะนำเพิ่มเติม

เมื่อมีการแถลงเกี่ยวกับโรคหรืออาการโรคภูมิแพ้ในแบบฟอร์มคำขอทำประกันฯ และถ้าท่านมี

ประวัติการรักษาภูมิแพ้ และ/หรือ

ผลประวัติการตรวจสุขภาพประจำปี

ท่านสามารถแนบมาพร้อมกับการขอทำประกันได้ตั้งแต่แรก เพื่อความรวดเร็วในขั้นตอนการพิจารณารับประกันค่ะ

6. ไซนัสอักเสบ

การอักเสบของเยื่อบุโพรงอากาศข้างจมูก อาจจะเป็นการอักเสบติดเชื้อหรือการอักเสบชนิดไม่ติดเชื้อก็ได้ โรคไซนัสอักเสบเป็นโรคที่พบบ่อยทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคนี้อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างสูง และทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยแย่ลง

โรคไซนัสอักเสบเป็นโรคที่พบบ่อยที่สุดโรคหนึ่งที่ทำให้ผู้ป่วยมาพบแพทย์ ประมาณกันว่าประชากรทั่วไป 1 ใน 8 คน 

ทำไมไซนัสอักเสบถึงเสี่ยงและบริษัทประกันฯ ถึงไม่คุ้มครอง หากเป็นมาก่อนหรือยังรักษาไม่หายขาดเกิน 5 ปี

เนื่องจากโรคไซนัสอักเสบเป็นโรคที่พบบ่อยที่สุดโรคหนึ่งที่ทำให้ผู้ป่วยต้องมาพบแพทย์ อาจเกิดไซนัสอักเสบเฉียบพลันเป็น ๆ หาย ๆ หรือเกิดไซนัสอักเสบเรื้อรัง จนอาจมีภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ เช่น เยื่อบุหูชั้นกลางอักเสบ ภาวะแทรกซ้อนทางตา หรือสมอง เช่นฝีในลูกตาหรือสมอง รวมถึงเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ฯลฯ (ข้อมูลจากเว็บไซต์ www.si.mahidol.ac.th)

ดังนั้นในมุมมองของบริษัทประกันฯ ไซนัสอักเสบที่ยังรักษาหรือยังไม่หายขาดเกิน 5 ปี นั้นมีความเสี่ยง จึงจะไม่คุ้มครองอาการหรือโรคไซนัสอักเสบและภาวะสืบเนื่อง (ที่อาจรวมถึง การติดเชื้อในหูชั้นกลาง)

ทำอย่างไรหากบริษัทฯ ไม่คุ้มครองหรือยกเว้นความคุ้มครองไซนัสอักเสบและภาวะสืบเนื่อง

หากขอบเขตของความไม่คุ้มครอง มีความสมเหตุสมผลและชัดเจน อาจไม่ต้องทำขั้นตอนใดนอกจากยอมรับข้อเสนอใหม่ตามที่บริษัทฯ ยื่นมา ท่านสามารถตอบรับข้อเสนอใหม่ที่ระบุเงื่อนไขความไม่คุ้มครองได้เลยค่ะ

หากท่านตอบรับข้อเสนอใหม่ที่ระบุเงื่อนไขความไม่คุ้มครองไปแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปหลังจากทำประกัน ท่านได้รักษาไซนัสอักเสบจนหายขาดเกิน 5 ปี ท่านสามารถติดต่อ Release Your Risk เพื่อยื่นเรื่องให้บริษัทฯ ยกเลิกการไม่คุ้มครองโรคดังกล่าวได้ค่ะ

เว้นแต่ว่า ท่านต้องการให้บริษัทฯ ทบทวนการพิจารณาใหม่พร้อมหลักฐานเพิ่มเติม เช่น

     ✦ ชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาและอาการปัจจุบัน เพื่อขอให้ลดขอบเขตการไม่คุ้มครองให้แคบลง

     ✦ ยื่นหลักฐานใบรับรองแพทย์ หรือผลประวัติการรักษาล่าสุด เป็นต้น

หมายเหตุ: 1. การขอให้บริษัทฯ ทบทวนการรพิจารณาใหม่ และการที่ต้องใช้หลักฐานพิสูจน์โรคหรืออาการที่เคยเป็นว่า มีผลที่ปกติดี ท่านจะต้องฝ่ายดำเนินการและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเหล่านั้นเอง

                  2. โดยผลการพิจารณาครั้งใหม่จากหลักฐานที่ท่านยื่นไป เป็นการให้โอกาสได้ต่อสู้ แต่ไม่ได้เป็นการการันตีว่าบริษัทฯ จะไม่ยกเว้นการไม่คุ้มครองโรคที่เป็นมาก่อน

คำแนะนำเพิ่มเติม

เมื่อมีการแถลงเกี่ยวกับไซนัสอักเสบในแบบฟอร์มคำขอทำประกันฯ และถ้าท่านมี

ประวัติการรักษาไซนัสอักเสบ และ/หรือ

ผลประวัติการตรวจสุขภาพ

ท่านสามารถแนบมาพร้อมกับการขอทำประกันได้ตั้งแต่แรก เพื่อความรวดเร็วในขั้นตอนการพิจารณารับประกันค่ะ

7. หลอดลมอักเสบเรื้อรัง

โรคหลอดลมอักเสบชนิดเรื้อรัง เป็นอาการที่เกิดจากการไอเรื้อรังมากกว่า 3 เดือน ติดต่อกันอย่างน้อย 2 ปี สาเหตุมาจาก โรคภูมิแพ้ หรือภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรังจากการสูบบุหรี่เป็นระยะเวลานานและการสัมผัสกับมลภาวะเป็นระยะเวลานาน เช่น ฝุ่น ควัน

ทำไมหลอดลมอักเสบเรื้อรังถึงมีความเสี่ยงและบริษัทประกันฯ ถึงไม่คุ้มครอง หากเป็นมาก่อนและยังกำลังรักษาต่อเนื่อง

โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง เป็นโรคที่เกิดจากเยื่อบุหลอดลมมีความไวต่อสิ่งกระตุ้นมากผิดปกติ ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ มักจะมีอาการ เป็นๆ (มีเหตุมากระตุ้น) หายๆ (ไม่มีเหตุมากระตุ้น) และทำให้ผู้ป่วยเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียได้ง่ายขึ้น ซึ่งอาจทำให้เสมหะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง หรือเขียว

หากผู้ป่วยสัมผัสกับเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการ เช่น ความเครียด การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ อารมณ์เศร้า วิตก กังวล เสียใจ รวมถึงการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ หรือหวัด ผู้ป่วยก็จะกลับมามีอาการอีกดังเดิม ดังนั้นผู้ป่วยจะลดการรักษาและการใช้ยาดังกล่าวได้หรือไม่ อยู่ที่การปฏิบัติตัวของผู้ป่วยค่ะ

บริษัทประกันฯ จึงมองว่าเป็นความเสี่ยงเกินที่จะให้ความคุ้มครอง จึงต้องยกเว้นการให้ความคุ้มครองโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรังและภาวะสืบเนื่อง ภายใต้สัญญาเพิ่มเติมสุขภาพค่ะ

โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง บริษัทประกันฯ ไม่คุ้มครอง

ทำอย่างไรหากบริษัทฯ ไม่คุ้มครองหรือยกเว้นความคุ้มครองอาการหรือโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง และภาวะสืบเนื่อง

หากขอบเขตของความไม่คุ้มครอง มีความสมเหตุสมผลและชัดเจน อาจไม่ต้องทำขั้นตอนใดนอกจากยอมรับข้อเสนอใหม่ตามที่บริษัทฯ ยื่นมา ท่านสามารถตอบรับข้อเสนอใหม่ที่ระบุเงื่อนไขความไม่คุ้มครอง เพื่อให้ความคุ้มครองเริ่มมีผลบังคับ

คำแนะนำเพิ่มเติม

เมื่อมีการแถลงเกี่ยวกับโรคหรืออาการหลอดลมอักเสบเรื้อรังในแบบฟอร์มคำขอทำประกันฯ และถ้าท่านมี

ประวัติการรักษาหลอดลมอักเสบเรื้อรัง และ/หรือ

ผลประวัติการตรวจสุขภาพประจำปี

ท่านสามารถแนบมาพร้อมกับการขอทำประกันได้ตั้งแต่แรก เพื่อความรวดเร็วในขั้นตอนการพิจารณารับประกันค่ะ

8. ติดเชื้อในหูชั้นกลาง

เป็นอาการหูชั้นกลางอักเสบ หรือหูน้ำหนวกชนิดเรื้อรังนานเกินกว่า 3 เดือน สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อหวัด ไซนัสอักเสบ ต่อมอะดีนอยด์อักเสบ บางรายอาจจะมีภาวะบางอย่างทำให้ติดเชื้อง่ายขึ้น บ่อยขึ้น เช่น ว่ายน้ำ ดำน้ำ การสั่งน้ำมูกอย่างรุนแรง การขึ้นที่สูง ขึ้นเครื่องบิน

ทำไมการติดเชื้อในหูชั้นกลางถึงเสี่ยงและบริษัทประกันฯ ถึงไม่คุ้มครอง หากเป็นมาก่อนหรือยังรักษาไม่หายขาดเกิน 5 ปี

ภาวะแทรกซ้อนจากอาการติดเชื้อในหูชั้นกลาง ถ้าไม่ได้รับการรักษา คือ ไข้สูงไม่ลดลง ประกอบกับ น้ำหนองไหลจากหูมากขึ้น ปวดบวมหลังหูอาจคิดถึงฝีลุกลามไปกระดูกหลังหูจำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัด รวมถึงการติดเชื้อลุกลามออกไปพวกหู เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ มีไข้สูงตลอดเวลา ปวดศีรษะรุนแรง อาเจียน เป็นต้น

ดังนั้นในมุมมองของบริษัทประกันฯ การติดเชื้อในหูชั้นกลางที่ยังรักษาหรือยังไม่หายขาดเกิน 5 ปี นั้นมีความเสี่ยง จึงจะไม่คุ้มครองอาการหรือภาวะการติดเชื้อในหูชั้นกลาง รวมถึงภาวะสืบเนื่อง

ทำอย่างไรหากบริษัทฯ ไม่คุ้มครองหรือยกเว้นความคุ้มครองการติดเชื้อในหูชั้นกลางและภาวะสืบเนื่อง

หากขอบเขตของความไม่คุ้มครอง มีความสมเหตุสมผลและชัดเจน อาจไม่ต้องทำขั้นตอนใดนอกจากยอมรับข้อเสนอใหม่ตามที่บริษัทฯ ยื่นมา ท่านสามารถตอบรับข้อเสนอใหม่ที่ระบุเงื่อนไขความไม่คุ้มครองได้เลยค่ะ

หากท่านตอบรับข้อเสนอใหม่ที่ระบุเงื่อนไขความไม่คุ้มครองไปแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปหลังจากทำประกัน ท่านได้รักษาภาวะติดเชื้อในหูชั้นกลางจนหายขาดเกิน 5 ปี ท่านสามารถติดต่อ Release Your Risk เพื่อยื่นเรื่องให้บริษัทฯ ยกเลิกการไม่คุ้มครองโรคดังกล่าวได้ค่ะ

เว้นแต่ว่า ท่านต้องการให้บริษัทฯ ทบทวนการพิจารณาใหม่พร้อมหลักฐานเพิ่มเติม เช่น

     ✦ ชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาและอาการปัจจุบัน เพื่อขอให้ลดขอบเขตการไม่คุ้มครองให้แคบลง

     ✦ ยื่นหลักฐานใบรับรองแพทย์ หรือผลประวัติการรักษาล่าสุด เป็นต้น

หมายเหตุ: 1. การขอให้บริษัทฯ ทบทวนการรพิจารณาใหม่ และการที่ต้องใช้หลักฐานพิสูจน์โรคหรืออาการที่เคยเป็นว่า มีผลที่ปกติดี ท่านจะต้องฝ่ายดำเนินการและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเหล่านั้นเอง

                  2. โดยผลการพิจารณาครั้งใหม่จากหลักฐานที่ท่านยื่นไป เป็นการให้โอกาสได้ต่อสู้ แต่ไม่ได้เป็นการการันตีว่าบริษัทฯ จะไม่ยกเว้นการไม่คุ้มครองโรคที่เป็นมาก่อน

คำแนะนำเพิ่มเติม

เมื่อมีการแถลงเกี่ยวกับการติดเชื้อในหูชั้นกลางในแบบฟอร์มคำขอทำประกันฯ และถ้าท่านมี

ประวัติการรักษาการติดเชื้อในหูชั้นกลาง และ/หรือ

ผลประวัติการตรวจสุขภาพ

ท่านสามารถแนบมาพร้อมกับการขอทำประกันได้ตั้งแต่แรก เพื่อความรวดเร็วในขั้นตอนการพิจารณารับประกันค่ะ

9. โรคนิ่ว

โรคนิ่วจัดเป็นปัญหาสุขภาพที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชากรไทยเป็นอย่างยิ่ง มักเริ่มต้นเกิดในไต และต่อมาเลื่อนตำแหน่งไปยังกรวยไต ท่อไต กระเพาะปัสสาวะ และท่อปัสสาวะ รวมถึงนิ่วในถุงน้ำดี

สาเหตุการเกิดมาจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น ด้านสิ่งแวดล้อม เมตาบอลิซึมของร่างกายแต่ละคน ปัจจัยทางพันธุกรรม วิถีการดำเนินชีวิต และอุปนิสัยการบริโภคอาหาร

ทำไมโรคนิ่วถึงมีความเสี่ยงและบริษัทประกันฯ ถึงไม่คุ้มครอง หากเป็นมาก่อนและยังกำลังรักษาไม่หายขาดเกิน 5 ปี

เนื่องจากกลไกของการเกิดนิ่วนั้น ในปัจจุบันยังไม่ทราบแน่ชัด เชื่อว่าคงมีปัจจัยร่วมกันหลายอย่างด้วยกัน เช่น การอยู่ในเขตร้อนที่ร่างกายสูญเสียเหงื่อง่าย แล้วดื่มน้ำน้อย ทำให้ปัสสาวะมีความเข้มข้นของแคลเซียม การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ความผิดปกติทางโครงสร้างของไต (ข้อมูลจากเว็บไซต์ รพ.กรุงเทพ)

หากปล่อยทิ้งไว้นานไม่รีบรักษา อาจเกิดการติดเชื้อบ่อยจนเนื้อไตเสีย ไตเสื่อม และไตวายเรื้อรังได้ในอนาคต และโรคนิ่วอาจเกิดซ้ำได้หากยังไม่มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการดำเนินชีวิต

ส่วนนิ่วในถุงน้ำดี (Gall Stone) เป็นโรคในระบบทางเดินน้ำดีที่พบได้บ่อยที่สุด เสี่ยงเกิดในผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป เพราะฮอร์โมนเอสโตรเจนมีส่วนทำให้คอเลสเตอรอลในน้ำดีสูงขึ้น การรักษาจึงต้องผ่าตัดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อน ทั้งนี้มีโอกาสเป็นซ้ำได้

ดังนั้นในมุมมองของบริษัทประกันฯ โรคนิ่วที่ยังรักษาหรือยังไม่หายขาดเกิน 5 ปี นั้นมีความเสี่ยง จึงจะไม่คุ้มครองอาการหรือโรคนิ่ว รวมถึงภาวะสืบเนื่อง

โรคนิ่ว บริษัทประกันฯ ไม่คุ้มครองหาเป็นมาก่กอน

ทำอย่างไรหากบริษัทฯ ไม่คุ้มครองหรือยกเว้นความคุ้มครองอาการหรือโรคนิ่ว และภาวะสืบเนื่อง

หากขอบเขตของความไม่คุ้มครอง มีความสมเหตุสมผลและชัดเจน อาจไม่ต้องทำขั้นตอนใดนอกจากยอมรับข้อเสนอใหม่ตามที่บริษัทฯ ยื่นมา ท่านสามารถตอบรับข้อเสนอใหม่ที่ระบุเงื่อนไขความไม่คุ้มครอง เพื่อให้ความคุ้มครองเริ่มมีผลบังคับ

หากท่านตอบรับข้อเสนอใหม่ที่ระบุเงื่อนไขความไม่คุ้มครองไปแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปหลังจากทำประกัน ท่านได้รักษาโรคนิ่วจนหายขาดเกิน 5 ปี ท่านสามารถติดต่อ Release Your Risk เพื่อยื่นเรื่องให้บริษัทฯ ยกเลิกการไม่คุ้มครองโรคดังกล่าวได้ค่ะ

เว้นแต่ว่า ท่านต้องการให้บริษัทฯ ทบทวนการพิจารณาใหม่พร้อมหลักฐานเพิ่มเติม เช่น

     ✦ ชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาและอาการปัจจุบัน เพื่อขอให้ลดขอบเขตการไม่คุ้มครองให้แคบลง

     ✦ ยื่นหลักฐานใบรับรองแพทย์ หรือผลประวัติการรักษาล่าสุด เป็นต้น

หมายเหตุ: 1. การขอให้บริษัทฯ ทบทวนการรพิจารณาใหม่ และการที่ต้องใช้หลักฐานพิสูจน์โรคหรืออาการที่เคยเป็นว่า มีผลที่ปกติดี ท่านจะต้องฝ่ายดำเนินการและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเหล่านั้นเอง

                  2. โดยผลการพิจารณาครั้งใหม่จากหลักฐานที่ท่านยื่นไป เป็นการให้โอกาสได้ต่อสู้ แต่ไม่ได้เป็นการการันตีว่าบริษัทฯ จะไม่ยกเว้นการไม่คุ้มครองโรคที่เป็นมาก่อน

คำแนะนำเพิ่มเติม

เมื่อมีการแถลงเกี่ยวกับโรคนิ่วในแบบฟอร์มคำขอทำประกันฯ และถ้าท่านมี

ประวัติการรักษาโรคนิ่ว

ท่านสามารถแนบมาพร้อมกับการขอทำประกันได้ตั้งแต่แรก เพื่อความรวดเร็วในขั้นตอนการพิจารณารับประกันค่ะ

10. ถุงน้ำดีอักเสบ

ถุงน้ำดีอักเสบเกิดได้จากทั้ง ถุงน้ำดีอักเสบจากนิ่ว เป็นสาเหตุของโรคถุงน้ำดีอักเสบที่พบมากถึง 95% อาจเกิดจากก้อนนิ่วในถุงน้ำดี (Gallstone) หรือตะกอนของถุงน้ำดี (Biliary Sludge) ไปอุดตันทางออกถุงน้ำดี (Cystic Duct) จนทำให้เกิดการติดเชื้อและอักเสบ

และ ถุงน้ำดีอักเสบจากสาเหตุอื่น ซึ่งพบได้ประมาณ 5% เช่น ถุงน้ำดีได้รับอุบัติเหตุฉีกขาด ถุงน้ำดีหรือท่อน้ำดีเกิดเนื้องอก ท่อน้ำดีตีบตันจากพังผืด การทำงานที่ผิดปกติของถุงน้ำดีในผู้ป่วย ICU ผู้ป่วยสูงอายุที่มีเส้นเลือดเสื่อม ติดเชื้อ หรือได้รับอาหารทางเส้นเลือดนาน ๆ เป็นต้น (ข้อมูลจากเว็บไซต์ รพ.กรุงเทพ)

ทำไมโรคถุงน้ำดีอักเสบถึงเสี่ยงและบริษัทประกันฯ ถึงไม่คุ้มครอง หากเป็นมาก่อนหรือยังรักษาไม่หาย

หากถุงน้ำดีอักเสบและติดเชื้อ ต่อมาอาจเกิดถุงน้ำดีเป็นหนอง ถุงน้ำดีขาดเลือดเกิดเนื้อตายเน่า ถุงน้ำดีแตกทะลุ ท่อน้ำดีติดเชื้อ หรือติดเชื้อในกระแสเลือดซึ่งร้ายแรงอาจถึงชีวิตได้

ถุงน้ำดีอักเสบเกิดไม่สามารถป้องกันได้ จึงต้องเน้นดูแลสุขภาพเรื่องอาหารการกินเพื่อไม่ให้เกิดนิ่วในถุงน้ำดี ซึ่งเป็นต้นเหตุหลัก ๆ ของถุงน้ำดีอักเสบ หากเป็นโรคถุงน้ำดีอักเสบชนิดเรื้อรัง อาการจะไม่รุนแรง แต่จะเกิดการอักเสบซ้ำบ่อย ๆ และหากเกิดการติดเชื้อเฉียบพลันซ้ำซ้อนขึ้นมาก็จะทำให้กลายเป็นโรคถุงน้ำดีอักเสบรุนแรงเหมือนชนิดเฉียบพลันได้เช่นกัน จนต้องผ่าตัดรักษา

ดังนั้นในมุมมองของบริษัทประกันฯ โรคถุงน้ำดีอักเสบที่ยังรักษาหรือยังไม่หายขาดเกิน 5 ปี นั้นมีความเสี่ยง จึงจะไม่คุ้มครองอาการหรือโรคถุงน้ำดีอักเสบ รวมถึงภาวะสืบเนื่อง

ทำอย่างไรหากบริษัทฯ ไม่คุ้มครองหรือยกเว้นความคุ้มครองถุงน้ำดีอักเสบและภาวะสืบเนื่อง

หากขอบเขตของความไม่คุ้มครอง มีความสมเหตุสมผลและชัดเจน อาจไม่ต้องทำขั้นตอนใดนอกจากยอมรับข้อเสนอใหม่ตามที่บริษัทฯ ยื่นมา ท่านสามารถตอบรับข้อเสนอใหม่ที่ระบุเงื่อนไขความไม่คุ้มครอง เพื่อให้ความคุ้มครองเริ่มมีผลบังคับ

หากท่านตอบรับข้อเสนอใหม่ที่ระบุเงื่อนไขความไม่คุ้มครองไปแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปหลังจากทำประกัน ท่านได้รักษาโรคถุงน้ำดีอักเสบจนหายขาดเกิน 5 ปี ท่านสามารถติดต่อ Release Your Risk เพื่อยื่นเรื่องให้บริษัทฯ ยกเลิกการไม่คุ้มครองโรคดังกล่าวได้ค่ะ

เว้นแต่ว่า ท่านต้องการให้บริษัทฯ ทบทวนการพิจารณาใหม่พร้อมหลักฐานเพิ่มเติม เช่น

     ✦ ชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาและอาการปัจจุบัน เพื่อขอให้ลดขอบเขตการไม่คุ้มครองให้แคบลง

     ✦ ยื่นหลักฐานใบรับรองแพทย์ หรือผลประวัติการรักษาล่าสุด เป็นต้น

หมายเหตุ: 1. การขอให้บริษัทฯ ทบทวนการรพิจารณาใหม่ และการที่ต้องใช้หลักฐานพิสูจน์โรคหรืออาการที่เคยเป็นว่า มีผลที่ปกติดี ท่านจะต้องฝ่ายดำเนินการและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเหล่านั้นเอง

                  2. โดยผลการพิจารณาครั้งใหม่จากหลักฐานที่ท่านยื่นไป เป็นการให้โอกาสได้ต่อสู้ แต่ไม่ได้เป็นการการันตีว่าบริษัทฯ จะไม่ยกเว้นการไม่คุ้มครองโรคที่เป็นมาก่อน

คำแนะนำเพิ่มเติม

เมื่อมีการแถลงเกี่ยวกับถุงน้ำดีอักเสบในแบบฟอร์มคำขอทำประกันฯ และถ้าท่านมี

ประวัติการรักษาถุงน้ำดีอักเสบ และ/หรือ

ผลประวัติการตรวจสุขภาพ

ท่านสามารถแนบมาพร้อมกับการขอทำประกันได้ตั้งแต่แรก เพื่อความรวดเร็วในขั้นตอนการพิจารณารับประกันค่ะ

11. หมอนรองกระดูกเคลื่อนหรือทับเส้นประสาท

อาการปวดหรือชาขาที่เกิดจากหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท สามารถปวดได้ตั้งแต่บริเวณเอว ต้นขา น่อง ไปจนถึงบริเวณเท้าและนิ้วเท้าได้ สาเหตุของโรคนี้ คือ

 การยกของหนักด้วยท่าทางที่ไม่ถูกต้องบ่อย ๆ
น้ำหนักตัวที่มากเกินไป
 นั่งทำงานด้วยอิริยาบถที่ไม่ถูกต้องนาน ๆ
 อุบัติเหตุและการบาดเจ็บต่อกระดูกสันหลัง

ทำไมโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนหรือทับเส้นประสาทถึงมีความเสี่ยงและบริษัทประกันฯ ถึงไม่คุ้มครอง หากเป็นมาก่อนและยังกำลังรักษาไม่หายขาดเกิน 5 ปี

โรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนหรือทับเส้นประสาทเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ และและมีความรุนแรงหลายระดับ รวมถึงการแสดงอาการของโรคหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทก็แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของข้อกระดูกสันหลังที่เป็น

ในระยะเริ่มแรกส่งผลให้มีอาการปวดเรื้อรัง อาการปวดเป็น ๆ หาย ๆ และมีอาการรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ หากปล่อยให้จนถึงระยะรุนแรง อาการปวดชาและอ่อนแรงจะเริ่มเป็นมากขึ้น จนสุดท้ายอาจเกิดการบาดเจ็บของเส้นประสาทก่อให้เกิดความพิการได้

การรักษามีหลายวิธี เช่น ลดน้ำหนักและหลีกเลี่ยงกิจกรรมเสี่ยง กายภาพบำบัด ยาลดการอักเสบและยาคลายกล้ามเนื้อ และการผ่าตัด ดังนั้นในมุมมองของบริษัทประกันฯ โรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทที่ยังรักษา ทำกายภาพบำบัดหรือยังไม่หายขาดเกิน 5 ปี นั้นมีความเสี่ยง จึงจะไม่คุ้มครองอาการหรือโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท รวมถึงภาวะสืบเนื่อง 

โรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท บริษัทฯ ไม่คุ้มครอง

ทำอย่างไรหากบริษัทฯ ไม่คุ้มครองหรือยกเว้นความคุ้มครองอาการหรือโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนหรือทับเส้นประสาท และภาวะสืบเนื่อง

หากขอบเขตของความไม่คุ้มครอง มีความสมเหตุสมผลและชัดเจน อาจไม่ต้องทำขั้นตอนใดนอกจากยอมรับข้อเสนอใหม่ตามที่บริษัทฯ ยื่นมา ท่านสามารถตอบรับข้อเสนอใหม่ที่ระบุเงื่อนไขความไม่คุ้มครอง เพื่อให้ความคุ้มครองเริ่มมีผลบังคับ

หากท่านตอบรับข้อเสนอใหม่ที่ระบุเงื่อนไขความไม่คุ้มครองไปแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปหลังจากทำประกัน ท่านได้รักษาโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทจนหายขาดเกิน 5 ปี ท่านสามารถติดต่อ Release Your Risk เพื่อยื่นเรื่องให้บริษัทฯ ยกเลิกการไม่คุ้มครองโรคดังกล่าวได้ค่ะ

เว้นแต่ว่า ท่านต้องการให้บริษัทฯ ทบทวนการพิจารณาใหม่พร้อมหลักฐานเพิ่มเติม เช่น

     ✦ ชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาและอาการปัจจุบัน เพื่อขอให้ลดขอบเขตการไม่คุ้มครองให้แคบลง

     ✦ ยื่นหลักฐานใบรับรองแพทย์ หรือผลประวัติการรักษาล่าสุด เป็นต้น

หมายเหตุ: 1. การขอให้บริษัทฯ ทบทวนการรพิจารณาใหม่ และการที่ต้องใช้หลักฐานพิสูจน์โรคหรืออาการที่เคยเป็นว่า มีผลที่ปกติดี ท่านจะต้องฝ่ายดำเนินการและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเหล่านั้นเอง

                  2. โดยผลการพิจารณาครั้งใหม่จากหลักฐานที่ท่านยื่นไป เป็นการให้โอกาสได้ต่อสู้ แต่ไม่ได้เป็นการการันตีว่าบริษัทฯ จะไม่ยกเว้นการไม่คุ้มครองโรคที่เป็นมาก่อน

คำแนะนำเพิ่มเติม

เมื่อมีการแถลงเกี่ยวกับหมอนรองกระดูกเคลื่อนหรือทับเส้นประสาทในแบบฟอร์มคำขอทำประกันฯ และถ้าท่านมี

ประวัติการรักษาหมอนรองกระดูกเคลื่อนหรือทับเส้นประสาท และ/หรือ

ผลประวัติการตรวจสุขภาพประจำปี

ท่านสามารถแนบมาพร้อมกับการขอทำประกันได้ตั้งแต่แรก เพื่อความรวดเร็วในขั้นตอนการพิจารณารับประกันค่ะ

12. เส้นเอ็นอักเสบเรื้อรัง

คือ ลักษณะอาการที่ร่างกายเกิดอาการเจ็บบวม ในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเรา ร่างกายของคนเราล้วนแล้วแต่เกิดการอักเสบขึ้นได้ทั้งนั้น แต่บริเวณที่พบบ่อยมากที่สุดคือ หัวไหล่ ข้อศอก ข้อมือ สะโพก ข้อเข่า และข้อเท้า (ข้อมูลจาก http://drsuttclinic.com/)

สาเหตุของการเกิดเอ็นอักเสบเรื้อรังส่วนหนึ่งเกิดจากการเคลื่อนไหวของร่างกายที่ผิดท่า เพราะเส้นเอ็นเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายช่วยให้ร่างกายเคลื่อนไหว สามารถเกิดแรงกระทบได้ทั้งภายนอกและภายใน เช่น การทำงานที่ใช้กำลัง การยกของหนัก การเอื้อมยกของ ต้องออกแรงแกว่งหรือแรงเหวี่ยง การออกกำลังกายที่หักโหม เป็นต้น

ทำไมเส้นเอ็นอักเสบเรื้อรังถึงเสี่ยงและบริษัทประกันฯ ถึงไม่คุ้มครอง หากเป็นมาก่อนหรือยังรักษาไม่หาย

อาการของเอ็นอักเสบเรื้อรังจะกลายเป็นปวดมากจนไม่สมารถขยับส่วนที่ใกล้เคียงบริเวณที่มีการอักเสบได้ หากยังคงทำกิจกรรมปกติช้ำ ๆ และไม่รีบทำการรักษาเบื้องต้น เพียงการขยับเบา ๆ ก็สามารถทำให้เจ็บปวดทรมานได้

เส้นเอ็นอักเสบเรื้อรังเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อน หากไม่รีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง การรักษาขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วย เช่น การทำกายภาพบำบัด ทานยาบรรเทาอาการปวด หรือการผ่าตัดเมื่ออาการไม่ดีขึ้น

ดังนั้นในมุมมองของบริษัทประกันฯ เส้นเอ็นอักเสบเรื้อรังที่ยังรักษาหรือยังไม่หายขาดเกิน 5 ปี นั้นมีความเสี่ยง จึงจะไม่คุ้มครองอาการหรือโรคเส้นเอ็นอักเสบเรื้อรัง รวมถึงภาวะสืบเนื่อง

ทำอย่างไรหากบริษัทฯ ไม่คุ้มครองหรือยกเว้นความคุ้มครองเส้นเอ็นอักเสบเรื้อรังและภาวะสืบเนื่อง

หากขอบเขตของความไม่คุ้มครอง มีความสมเหตุสมผลและชัดเจน อาจไม่ต้องทำขั้นตอนใดนอกจากยอมรับข้อเสนอใหม่ตามที่บริษัทฯ ยื่นมา ท่านสามารถตอบรับข้อเสนอใหม่ที่ระบุเงื่อนไขความไม่คุ้มครอง เพื่อให้ความคุ้มครองเริ่มมีผลบังคับ

หากท่านตอบรับข้อเสนอใหม่ที่ระบุเงื่อนไขความไม่คุ้มครองไปแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปหลังจากทำประกัน ท่านได้รักษาเส้นเอ็นอักเสบเรื้อรังจนหายขาดเกิน 5 ปี ท่านสามารถติดต่อ Release Your Risk เพื่อยื่นเรื่องให้บริษัทฯ ยกเลิกการไม่คุ้มครองโรคดังกล่าวได้ค่ะ

เว้นแต่ว่า ท่านต้องการให้บริษัทฯ ทบทวนการพิจารณาใหม่พร้อมหลักฐานเพิ่มเติม เช่น

     ✦ ชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาและอาการปัจจุบัน เพื่อขอให้ลดขอบเขตการไม่คุ้มครองให้แคบลง

     ✦ ยื่นหลักฐานใบรับรองแพทย์ หรือผลประวัติการรักษาล่าสุด เป็นต้น

หมายเหตุ: 1. การขอให้บริษัทฯ ทบทวนการรพิจารณาใหม่ และการที่ต้องใช้หลักฐานพิสูจน์โรคหรืออาการที่เคยเป็นว่า มีผลที่ปกติดี ท่านจะต้องฝ่ายดำเนินการและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเหล่านั้นเอง

                  2. โดยผลการพิจารณาครั้งใหม่จากหลักฐานที่ท่านยื่นไป เป็นการให้โอกาสได้ต่อสู้ แต่ไม่ได้เป็นการการันตีว่าบริษัทฯ จะไม่ยกเว้นการไม่คุ้มครองโรคที่เป็นมาก่อน

คำแนะนำเพิ่มเติม

เมื่อมีการแถลงเกี่ยวกับเส้นเอ็นอักเสบเรื้อรังในแบบฟอร์มคำขอทำประกันฯ และถ้าท่านมี

ประวัติการรักษาเส้นเอ็นอักเสบเรื้อรัง และ/หรือ

ผลประวัติการตรวจสุขภาพ

ท่านสามารถแนบมาพร้อมกับการขอทำประกันได้ตั้งแต่แรก เพื่อความรวดเร็วในขั้นตอนการพิจารณารับประกันค่ะ

13. โรคข้อเสื่อม

โรคข้อเสื่อมพบได้ในคนมีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป สามารถเกิดขึ้นได้ทุกแห่งของร่างกายและมักพบตามข้อที่มีการเคลื่อนไหวหนัก ๆ เช่น ข้อเข่า ข้อสะโพก ข้อเท้า ข้อกระดูสันหลังและกระดูกคอ

อาการข้อเสื่อมจะเริ่มเป็นที่ละน้อย และรู้สึกเจ็บปวดเมื่อมีการใช้งานข้อที่เสื่อม อาจจะมีอาการข้อตึงหรือข้อติดเวลาพักการใช้ข้อนาน ๆ

ทำไมโรคข้อเสื่อมถึงมีความเสี่ยงและบริษัทประกันฯ ถึงไม่คุ้มครอง หากเป็นมาก่อนและยังกำลังรักษาไม่หายขาดเกิน 5 ปี

ด้วยกลไกของข้อเสื่อมที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ เมื่อเป็นแล้วจึงเป็นโรคข้อเรื้อรังชนิดหนึ่ง การรักษาที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมีจุดหมาย คือ มุ่งลดอาการปวดและอาการอักเสบ จะไม่สามารถรักษาจนหายขาดได้

ดังนั้นในมุมมองของบริษัทประกันฯ โรคข้อเสื่อมที่ยังรักษาอยู่หรือเป็นมาก่อนทำประกันฯ นั้นมีความเสี่ยงที่ต้องอาศัยการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องในชีวิตประจำวัน จึงจะไม่คุ้มครองอาการหรือโรคข้อเสื่อม รวมถึงภาวะสืบเนื่อง

ทำอย่างไรหากบริษัทฯ ไม่คุ้มครองหรือยกเว้นความคุ้มครองอาการหรือโรคข้อเสื่อม และภาวะสืบเนื่อง

หากขอบเขตของความไม่คุ้มครอง มีความสมเหตุสมผลและชัดเจน อาจไม่ต้องทำขั้นตอนใดนอกจากยอมรับข้อเสนอใหม่ตามที่บริษัทฯ ยื่นมา ท่านสามารถตอบรับข้อเสนอใหม่ที่ระบุเงื่อนไขความไม่คุ้มครอง เพื่อให้ความคุ้มครองเริ่มมีผลบังคับ

เว้นแต่ว่า ท่านต้องการให้บริษัทฯ ทบทวนการพิจารณาใหม่พร้อมหลักฐานเพิ่มเติม เช่น

     ✦ ชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาและอาการปัจจุบัน เพื่อขอให้ลดขอบเขตการไม่คุ้มครองให้แคบลง

     ✦ ยื่นหลักฐานใบรับรองแพทย์ หรือผลประวัติการรักษาล่าสุด เป็นต้น

หมายเหตุ: 1. การขอให้บริษัทฯ ทบทวนการรพิจารณาใหม่ และการที่ต้องใช้หลักฐานพิสูจน์โรคหรืออาการที่เคยเป็นว่า มีผลที่ปกติดี ท่านจะต้องฝ่ายดำเนินการและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเหล่านั้นเอง

                  2. โดยผลการพิจารณาครั้งใหม่จากหลักฐานที่ท่านยื่นไป เป็นการให้โอกาสได้ต่อสู้ แต่ไม่ได้เป็นการการันตีว่าบริษัทฯ จะไม่ยกเว้นการไม่คุ้มครองโรคที่เป็นมาก่อน

คำแนะนำเพิ่มเติม

เมื่อมีการแถลงเกี่ยวกับโรคข้อเสื่อมในแบบฟอร์มคำขอทำประกันฯ และถ้าท่านมี

ประวัติการรักษาข้อเสื่อม และ/หรือ

ผลประวัติการตรวจสุขภาพประจำปี

ท่านสามารถแนบมาพร้อมกับการขอทำประกันได้ตั้งแต่แรก เพื่อความรวดเร็วในขั้นตอนการพิจารณารับประกันค่ะ

14. อาการหรือโรคอื่น ๆ ที่พบไม่มาก แต่บริษัทมองว่าเป็นความเสี่ยง

 ออทิสติก

 สมาธิสั้น

 เส้นประสาทอักเสบหรือถูกเบียดทับ

 กระดูกสันหลังเคลื่อน

 ฝีคันฑสูตร

 ไส้เลื่อน

 ริดสีดวงทวาร

ทำอย่างไรหากบริษัทฯ ไม่คุ้มครองหรือยกเว้นความคุ้มครองโรคหรืออาการดังกล่าว และภาวะสืบเนื่อง

หากขอบเขตของความไม่คุ้มครอง มีความสมเหตุสมผลและชัดเจน อาจไม่ต้องทำขั้นตอนใดนอกจากยอมรับข้อเสนอใหม่ตามที่บริษัทฯ ยื่นมา ท่านสามารถตอบรับข้อเสนอใหม่ที่ระบุเงื่อนไขความไม่คุ้มครอง เพื่อให้ความคุ้มครองเริ่มมีผลบังคับ

เว้นแต่ว่า ท่านต้องการให้บริษัทฯ ทบทวนการพิจารณาใหม่พร้อมหลักฐานเพิ่มเติม เช่น

     ✦ ชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาและอาการปัจจุบัน เพื่อขอให้ลดขอบเขตการไม่คุ้มครองให้แคบลง

     ✦ ยื่นหลักฐานใบรับรองแพทย์ หรือผลประวัติการรักษาล่าสุด เป็นต้น

หมายเหตุ: 1. การขอให้บริษัทฯ ทบทวนการรพิจารณาใหม่ และการที่ต้องใช้หลักฐานพิสูจน์โรคหรืออาการที่เคยเป็นว่า มีผลที่ปกติดี ท่านจะต้องฝ่ายดำเนินการและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเหล่านั้นเอง

                  2. โดยผลการพิจารณาครั้งใหม่จากหลักฐานที่ท่านยื่นไป เป็นการให้โอกาสได้ต่อสู้ แต่ไม่ได้เป็นการการันตีว่าบริษัทฯ จะไม่ยกเว้นการไม่คุ้มครองโรคที่เป็นมาก่อน

คำแนะนำเพิ่มเติม

เมื่อมีการแถลงเกี่ยวกับกลุ่มอาการหรือโรคดังกล่าวในแบบฟอร์มคำขอทำประกันฯ และถ้าท่านมี

ประวัติการรักษาโรคหรืออาการดังกล่าวข้างต้น และ/หรือ

ผลประวัติการตรวจสุขภาพ

ท่านสามารถแนบมาพร้อมกับการขอทำประกันได้ตั้งแต่แรก เพื่อความรวดเร็วในขั้นตอนการพิจารณารับประกันค่ะ

สนใจการนำวิธีนี้ไปประยุกต์ใช้จริง

เพียงติดต่อเรามาทางไลน์ และเลือกการโอนความเสี่ยงที่ท่านสนใจ ได้ที่ปุ่มด้านล่างนี้ค่ะ 

เกี่ยวกับผู้เขียน

  • Ruchira Taboonruang

    จากประสบการณ์ที่ผ่านมาในชีวิตการทำงานทั้งหมดของแอนนี่ในสายงาน CRM ได้พบว่า ความไม่รู้ เป็นศัตรูที่แพงอย่างมากในโลกของการเงิน ซึ่งในหลายครั้งกว่าจะรู้และเข้าใจก็อาจจะสายไปแล้ว และนี้คือสาเหตุใหญ่ที่ทางเรา จะแก้ไขปัญหานี้ให้ได้ โดยให้ความรู้ทางการเงินที่ดีและเหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา รวมถึงการป้องกันไม่ให้ถูกเอาเปรียบจากความไม่รู้นี้ ผ่านเว็บไซต์ Release your Risk ที่ต้องการให้ทุกคนได้ปล่อยความเสี่ยงที่ตนเองถือไว้อยู่ ผ่านเครื่องมือทางการเงินด้วยความเข้าใจ และมีประสิทธิภาพสูงสุดค่ะ

>
Scroll to Top

เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งาน ซึ่งสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ตกลงทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึก