ขั้นตอนการขอประวัติการรักษาจากโรงพยาบาล

ภายหลังจากที่ท่านได้ยื่นสมัครขอทำประกันกับ BLA โดยเฉพาะประกันสุขภาพหหรือโรคร้ายแรงพร้อมแถลงสุขภาพตามจริง ฝ่ายพิจารณาอาจมีการร้องขอประวัติการรักษาเพื่อประกอบการพิจารณาว่าจะสามารถรับความเสี่ยงจากอาการหรือโรคที่เคยรักษาหรือกำลังรักษาอยู่ได้หรือไม่

ทั้งนี้แม้ท่านไม่ได้แถลงสุขภาพ หรือ ลืมแถลงบางอย่าง แต่หากในฐานข้อมูลที่บริษัทประกันมี ได้บ่งชี้ว่าท่านเคยแอดมิตเข้ารับการรักษาที่ รพ. ใด ก็อาจจะมีการร้องขอประวัติการรักษาได้เช่นกัน

ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วทางเราแนะนำว่า หากท่านมีประวัติการรักษาอยู่กับหลาย ๆ รพ. จำนวน 5-7 รพ. ขึ้นไป จะแนะนำให้ท่านดำเนินการขอประวัติการรักษามาทั้งหมดมาก่อนแล้วยื่นพร้อมการสมัครทำประกัน 

มากกว่าที่จะรอให้ทางทางฝ่ายพิจารณาร้องขอประวัติภายหลังการยื่นสมัครทำประกัน เนื่องจากมีโอกาสที่จะถูกขอให้เลื่อนการรับประกันออกไปก่อนได้ ด้วยเพราะมีประวัติการรักษาอยู่ในหลาย รพ. มากเกินกว่าปกติ 

โดยการขอประวัติการรักษา จะมีด้วยกัน 2 แบบ ดังนี้ คือ 

  1. ดำเนินการขอประวัติด้วยตนเอง  
    • วิธีนี้จะมีโอกาสได้รับประวัติการรักษาในรูปแบบไฟล์ pdf ได้ รวมถึงหากแจ้งทาง รพ. ว่า เพื่อนำไปใช้รักษาต่อใน รพ. อื่นๆ จะมีโอกาสได้รับประวัติโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมการขอประวัติได้ (แต่หากมีค่าธรรมเนียม และใบเสร็จที่ได้ไม่ใช่ใบเสร็จกระดาษตัวจริง จะไม่สามารถเบิกค่าขอประวัติคืนจากทางบริษัทประกันได้)
    • ในกรณีที่ประวัติอยู่ในรูปแบบเอกสาร จะสามารถแจ้งขอให้ทาง รพ. ช่วยทำสำเนาประวัติที่ได้มาก่อนปิดผนึกซองได้ ( ห้ามเปิดผนึกซองประวัติเพื่อทำสำเนาเองเป็นอันขาดเพราะ ทางบริษัทจะถือว่าเป็นโมฆะจะต้องขอใหม่อีกครั้ง ) โดยประวัติชุดหนึ่งไว้ส่งบริษัท/ตัวแทน และตัวสำเนาไว้อ่านข้อมูลเพื่อตรวจสอบว่าเป็นไปตามที่ฝ่ายพิจารณาแจ้งมาหรือไม่ เวลาที่มีข้อเสนอยกเว้นความคุ้มครองบางอย่างที่เป็นมาก่อนทำประกัน
    • บางโรงพยาบาลหากกลับมารับประวัติเอง และประวัติยังไม่ปิดผนึกซอง จะยังสามารถขอทำสำเนาประวัติก่อนปิดผนึกได้เช่นกัน
    • การขอประวัติจะมีค่าธรรมเนียม 300 บ. ต่อชุดประวัติ แต่สามารถส่งใบเสร็จตัวจริงให้กับตัวแทน เพื่อรับเงินคืนจากบริษัทได้ (กรณีที่บริษัทมีจดหมายร้องขอประวัติ) โดยจะทำการโอนค่าขอประวัติคืนเมื่อครบกำหนดระยะเวลาพิจารณากรมธรรม์ 15 วัน (Free-look Period)
  2. การมอบอำนาจให้ Release Your Risk เป็นผู้ดำเนินการขอประวัติ (เมื่อสมัครทำประกันกับทาง Release your Risk และทางบริษัทประกันได้ร้องขอประวัติเรียบร้อย)  
    • วิธีนี้จะต้องรับในรูปแบบเอกสารเท่านั้น และ จะไม่สามารถทำสำเนาได้ โดยต้องส่งตรงเข้าบริษัทด้วยเพราะ พรบ.ข้อมูลส่วนบุคคล
    • ซึ่งจะทำให้ผู้ขอทำประกันไม่มีสำเนาประวัติในพิจารณาข้อเสนอยกเว้นความคุ้มครองโรคที่เป็นมาก่อนทำประกันได้

ข้อแนะนำ ทำไมจึงควรขอประวัติการรักษาด้วยตนเอง

  • หากท่านมีการตรวจสุขภาพเป็นประจำ ใช้บริการผู้ป่วยนอกบ่อยครั้ง หรือตรวจคัดกรองต่าง ๆ โอกาสได้รับข้อเสนอยกเว้นความคุ้มครอง หรือเพิ่มเบี้ยประกันในการรับทำประกันจะค่อนข้างสูงมาก การยื่นหลายบริษัทจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อไม่ให้ท่านเหมือนโดนมัดมือชกให้เลือกได้เพียงข้อเสนอจากบริษัทเดียว
  • การขอประวัติไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาไม่นาน และไม่ต้องเดินทางกลับไปรับอีกครั้ง โดยสามารถให้จัดส่งมาที่บ้านได้ (บาง รพ. จัดส่งทางอีเมลได้) โดยเฉพาะหาก รพ. อยู่ใกล้ท่าน หรือ ท่านต้องเข้าหรือผ่าน รพ. เช่น มีการขอให้ตรวจสุขภาพร่วมด้วย
  • ทำให้มีสำเนาประวัติเพื่อทำการตรวจสอบข้อมูลว่าเป็นตามจริงอย่างที่ฝ่ายพิจารณาแจ้งมาหรือไม่ เพราะหลายครั้งหลังได้รับข้อเสนอในการรับประกัน จะรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม และจะต้องการตรวจสอบประวัติการรักษาด้วยตนเองอีกครั้ง
  • เมื่อได้รับข้อเสนอจะมีเวลา 15 วันในการตอบรับ หรือ ตอบปฏิเสธ ซึ่งเวลาเพียงพอที่จะลองยื่นประวัติที่มีไปยังบริษัทประกันอื่น ๆ เพื่อไว้เปรียบเทียบข้อเสนอได้ แต่ถ้าหากต้องเข้าขบวนการขอประวัติใหม่เพราะไม่ได้ขอเองไว้ อาจไม่ทันกำหนดการ โดยเฉพาะกับ รพ.รัฐ

การขอประวัติการรักษาด้วยตนเอง หรือสามีภรรยาบุตรธิดาขอแทนให้

ท่านสามารถดำเนินการขอประวัติรักษาด้วยตนเองได้ โดยเฉพาะในกรณีที่ท่านอยู่ต่างจังหวัด หรือ ท่านต้องการประวัติการรักษาในรูปแบบไฟล์ หรือ ท่านต้องการทำสำเนาประวัติการรักษา เพื่อใช้ในการตรวจสอบข้อเสนอยกเว้นความคุ้มครองในอาการหรือโรคหรือความเสี่ยงที่เป็นมาก่อนทำประกันที่ถูกระบุไว้ในประวัตการรักษา ตามที่ทางฝ่ายพิจารณาได้แจ้งมาได้

โดยขั้นตอนการขอประวัตินั้นไม่ยุ่งยาก โดยสามารถเลือกปฏิบัติได้ 3 วิธี คือ การติดต่อขอประวัติที่โรงพยาบาลโดยตรง  การขอประวัติทางไปรษณีย์ (เฉพาะบาง รพ.) และ การขอประวัติทางอีเมล (เฉพาะบาง รพ.)

ซึ่งก่อนจะเลือกดำเนินการใน 3 วิธีนี้ ท่านจะสามารถโทรสอบถามกับทาง รพ. ก่อนได้ว่า รพ. จะสามารถให้ทำวิธีใดได้บ้าง และสามารถเลือกวิธีที่สะดวกกับท่านมากที่สุดได้ต่อไป

1. การติดต่อขอประวัติโดยเดินทางไปที่โรงพยาบาล

  • การขอประวัติโดยการ
    • ขอด้วยตนเอง เตรียมบัตรประชาชนตัวจริง และสำเนาบัตรประชาชนพร้อมรับรองสำเนา
    • สามี-ภรรยา-บุตรธิดา ขอให้กัน สำเนาบัตรประชาชนพร้อมรับรองสำเนาของผู้ขอและผู้ขอให้ และสำเนาทะเบียนบ้านยืนยันความสัมพันธ์ (หากอยู่คนละบ้าน อาจจำเป็นต้องใช้หนังสือมอบอำนาจแทน)
  • เดินทางไปโรงพยาบาลที่มีประวัติ
  • แจ้งเจ้าหน้าที่ว่า มาขอสำเนาประวัติการรักษา/การเจ็บป่วย ทั้งหมด เพื่อยื่นทำประกัน
  • ชำระค่าขอประวัติ 300 บาท หรือตามที่โรงพยาบาลเรียกเก็บ จากนั้น ส่งใบเสร็จตัวจริงเบิกกับบริษัทฯ (เฉพาะกรณีที่บริษัทฯ มีจดหมายเรียกขอประวัติเท่านั้น)
  • จากนั้นรอทางเจ้าหน้าที่แจ้งนัดหมายวันที่จะได้รับประวัติ เนื่องจากบาง รพ. การเปิดเผยประวัติจะต้องได้รับการเซ็นยินยอมจากผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมด้วย  (รพ.เอกชน ใช้เวลาประมาณ 3-7 วัน ส่วน รพ.รัฐ ประมาณ 15-30 วัน)
  • หากไม่ต้องการเข้ามารับประวัติด้วยตนเองอีก จะสามารถแจ้งทาง รพ. ให้จัดส่งประวัติให้ทางเราได้ เพื่อที่ทางเราจะจัดส่งเข้าบริษัทโดยตรงและมีเลขติดตามเอกสารภายในบริษัท รวมถึงให้ทาง รพ. แนบใบเสร็จค่าขอประวัติลงในซองประวัติได้ (แต่ละ รพ. จะมีรอบการส่งประวัติผ่านไปรษณีย์ที่แตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่มักจะมีรอบการส่งสัปดาห์ละครั้งเท่านั้น)
  • หากมารับประวัติการรักษาเอง สามารถแจ้งทาง รพ. ให้ทำสำเนาก่อนทำการปิดผนึกซองเอกสารประวัติได้ (ต้องปิดผนึกซองเอกสารและประทับตรา รพ. ก่อนจัดส่งให้ทางตัวแทนดำเนินงานต่อหรือส่งให้ทางบริษัทโดยตรง)

ตัวอย่างใบคำร้องขอเอกสารประวัติการรักษา ( รพ.รัฐ )

แบบฟอร์มขอเอกสารประวัติ e1700122358477

หมายเหตุ : แบบฟอร์มการขอประวัติจะแตกต่างกันไปตามแต่ละโรงพยาบาล

2. การติดต่อขอประวัติทางไปรษณีย์ (เฉพาะบาง รพ.)

โทรติดต่อโรงพยาบาลที่มีประวัติก่อนว่า สามารถขอประวัติทางไปรษณีย์ได้หรือไม่? พร้อมกับสอบถามขั้นตอนดำเนินการอีกครั้ง ทั้งนี้ การขอประวัติทางไปรษณีย์ปกติ มีขั้นตอนดังต่อไปนี้

  • สำเนาบัตรประชาชน 1 ฉบับ (พร้อมเซ็นกำกับ)
  • จดหมายเรียนถึง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯ 1 ฉบับ (เขียนคำพูดได้เอง) พร้อมระบุ "ที่อยู่" ให้โรงพยาบาลส่งสำเนาประวัติถึงท่าน หรือ ถึงทางตัวแทน
  • เงินสดจำนวน 300 บาทใส่ในซองเอกสาร หรือตามขั้นตอนชำระค่าธรรมเนียมที่ได้สอบถามทางโทรศัพท์  (ทาง รพ.จะแนบใบเสร็จตัวจริงมาในซองเอกสารพร้อมกับสำเนาประวัติ เพื่อนำไปเบิกกับบริษัทฯ) 

เมื่อเตรียมเอกสารเรียบร้อย จ่าหน้าซองถึง ผู้อำนวยการโรงพยาบาล... (แผนกเวชระเบียน) พร้อมระบุที่อยู่ รพ. และนำไปจัดส่งไปรษณีย์ EMS หรือบริษัทขนส่งเอกชนที่สามารถติดตามเอกสารได้ และโทรติดตามเอกสารหลังวันที่ รพ. ได้รับประมาณ 1 วัน เนื่องจากเมื่อ รพ. ได้รับจดหมายแล้ว จำเป็นต้องใช้เวลาในการกระจายจดหมาย หรือ แต่ละฝ่ายเข้าไปรับจดหมายเอง 

3. การติดต่อขอประวัติทาง E-mail (เฉพาะบาง รพ.)

โทรติดต่อโรงพยาบาลที่มีประวัติก่อนว่า สามารถขอประวัติทาง E-mail ได้หรือไม่? พร้อมกับสอบถาม E-mail address และ ขั้นตอนดำเนินการอีกครั้ง ทั้งนี้การขอประวัติทาง E-mail ปกติ มีขั้นตอนดังต่อไปนี้

  • แจ้งความประสงค์เรื่องการขอประวัติทาง E-mail ตามที่เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลวิธีการขอประวัติ ซึ่งอาจมีแบบฟอร์มให้ระบุ ชื่อ-นามสกุลของเจ้าของประวัติ และสิ่งที่ต้องการร้องขอ หรือ ประวัติการรักษาทั้งหมด
  • บาง รพ. สามารถระบุเลือกได้ว่าจะรับเป็นไฟล์ หรือ เป็นเอกสาร โดยหากเป็นเอกสารจะสามารถระบุที่อยู่จัดส่งได้
  • แนบไฟล์สำเนาบัตรประชาชนของผู้ป่วย พร้อมลายเซ็นรับรองเพื่อขอประวัติ จากนั้นส่ง E-Mail เอกสารทั้งหมดให้ทาง รพ.
  • รอทางโรงพยาบาลตรวจสอบความถูกต้องหลังจากได้รับ E-mail (บาง รพ. จะตรวจอีเมลเฉพาะวันและเวลาทำการเท่านั้น)
  • จากนั้นทาง รพ. จะแจ้งวิธีการชำระค่าธรรมเนียมการขอประวัติ (บาง รพ. หากขอประวัติ จะไม่มีค่าธรรมการขอ)
  • เมื่อชำระค่าธรรมเนียมขอประวัติเรียบร้อย ทาง รพ. จะส่งประวัติตามช่องทางที่แจ้งไว้ โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 7 วันทำการ
  • หลังจากได้รับประวัติในรูปแบบไฟล์ pdf จะสามารถแจ้งทางเรา ถึงวิธีการส่งไฟล์ประวัติให้กับทางฝ่ายพิจารณาโดยตรงได้ 

สรุปวิธีการจัดส่งประวัติการรักษาให้กับทาง BLA

A. แจ้งทาง รพ. ให้ส่งประวัติการรักษามาที่ทางเราโดยตรงได้

ในขั้นตอนการขอประวัติสามารถแจ้งทาง รพ. ให้จัดส่งไปรษณีย์มาที่ทางเราโดยตรงได้ เพื่อทางเราสามารถส่งตรงเข้าบริษัทและสามารถติดตามได้ง่ายว่าถึงหน่วยงานใดแล้ว โดยระบุที่อยู่ดังนี้ และสามารถขอ Tracking Number กับทาง รพ. เพื่อให้ทางเราติดตามเอกสารได้ต่อไป

กรุณาส่ง...

รุจิรา ต๊ะบุญเรือง
ตัวแทนกรุงเทพประกันชีวิต
389/281 ซ.สวนพลู8 ถ.สาทร แขวงทุ่งมหาเมฆ
เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120


B. รับประวัติการรักษาเอง และจัดส่งให้ทางเราส่งเข้า BLA โดยตรง

ทำการนำใบเสร็จรับเงินค่าขอประวัติและซองเอกสารประวัติที่ปิดผนึก ใส่ในซองที่จะใช้ส่งพัสดุมาให้กับทางเรา เพื่อนำส่งให้กับบริษัทโดยตรงต่อไป พร้อมแจ้งหมายเลข Tracking Number

วิธีนี้จะช่วยให้มั่นใจว่าเอกสารจะไม่ตกหล่น และส่งถึงบริษัทอย่างแน่นอน รวมถึงสามารถให้ รพ. ทำสำเนาประวัติเก็บไว้เองก่อนปิดผนึกได้

กรุณาส่ง...

รุจิรา ต๊ะบุญเรือง
ตัวแทนกรุงเทพประกันชีวิต
389/281 ซ.สวนพลู8 ถ.สาทร แขวงทุ่งมหาเมฆ
เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120

C. รับประวัติในรูปแบบไฟล์ PDF สามารถส่งเข้าอีเมลของฝ่ายพิจารณาโดยตรงได้

ภายหลังการยืนยันใบคำขอทำประกัน จะสามารถแจ้งทางเรา เพื่อทางเราส่งร่างอีเมลสำหรับใช้ในการส่งประวัติการรักษาให้กับทางฝ่ายพิจารณาโดยตรงได้

โดยอีเมลที่ผู้ขอทำประกันใช้ จะต้องเป็นอีเมลเดียวกับที่ได้ระบุไว้ในใบคำขอทำประกัน และเมื่อส่งอีเมลเรียบร้อยจะสามารถแจ้งทางเราเพื่อประสานงานติดตามไฟล์ประวัติได้อีกทางหนึ่ง อย่างไรก็ตามจะห้ามส่งอีเมลประวัติให้กับทางเรา เนื่องด้วย พรบ.ข้อมูลส่วนบุคคล

การขอประวัติการรักษา

การขอประวัติการรักษาโดยมอบอำนาจให้ Release Your Risk ดำเนินการแทน

ท่านสามารถมอบอำนาจให้ทาง Release Your Risk เป็นผู้ดำเนินการแทนในการขอประวัติการรักษากับทางโรงพยาบาลได้ ภายหลังจากที่ยื่นขอทำประกัน และทางฝ่ายพิจารณามีจดหมายร้องขอประวัติการรักษาเพิ่มเติม โดยจะมีเอกสารที่ต้องใช้ในการมอบอำนาจดังต่อไปนี้

  • หนังสือมอบอำนาจ (Download) 1 ฉบับต่อ 1 รพ. (เซ็นมอบอำนาจ)
  • หนังสือยินยอมให้เปิดเผยประวัติการรักษา (Download) 1 ฉบับต่อ 1 รพ. (เซ็นเปิดเผย)
  • สำเนาบัตรประชาชน 1 ฉบับ พร้อมเซ็นกำกับ 1 ฉบับต่อ 1 รพ. (สำหรับขอประวัติการรักษาเท่านั้น)
  • หากเป็น รพ.รัฐ  อาจต้องมีอากรแสตมป์จำนวน 10 บาทต่อ 1 รพ. แนบมา (ทางตัวแทนจะจัดหามาภายหลัง)

เมื่อท่านพิมพ์หนังสือมอบอำนาจ และ หนังสือยิมยอมให้เปิดเผยประวัติการรักษา พร้อมกรอกรายละเอียดเรียบร้อย รบกวนท่านส่งเอกสารทั้งหมดมาให้ทางเราตามที่อยู่ดังต่อไปนี้

ส่งถึง

รุจิรา ต๊ะบุญเรือง
ตัวแทนกรุงเทพประกันชีวิต
389/281 ซ.สวนพลู8 ถ.สาทร แขวงทุ่งมหาเมฆ
เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120

หลังจากที่ได้รับเอกสารเรียบร้อย ทางเราจะดำเนินการขอประวัติให้กับท่านในทันที โดยหากเป็น รพ. ภายนอก กรุงเทพ ทางเราจะพยายามใช้ไปรษณีย์เป็นหลัก แต่หากเป็น รพ.รัฐ ที่บังคับให้ต้องเดินทางไปขอที่ รพ. และ ผู้ขอทำประกันอยู่ในจังหวัดเดียวกัน ทางเราอาจต้องรบกวนให้ผู้ขอทำประกันช่วยดำเนินการขอประวัติแทนต่อไป

การวางแผนเกษียณอย่างจริงจัง

เริ่มขึ้น..เมื่อ

เข้าใจธรรมชาติของเครื่องมือทางการเงิน

เกี่ยวกับผู้เขียน

  • Ruchira Taboonruang

    จากประสบการณ์ที่ผ่านมาในชีวิตการทำงานทั้งหมดของแอนนี่ในสายงาน CRM ได้พบว่า ความไม่รู้ เป็นศัตรูที่แพงอย่างมากในโลกของการเงิน ซึ่งในหลายครั้งกว่าจะรู้และเข้าใจก็อาจจะสายไปแล้ว และนี้คือสาเหตุใหญ่ที่ทางเรา จะแก้ไขปัญหานี้ให้ได้ โดยให้ความรู้ทางการเงินที่ดีและเหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา รวมถึงการป้องกันไม่ให้ถูกเอาเปรียบจากความไม่รู้นี้ ผ่านเว็บไซต์ Release your Risk ที่ต้องการให้ทุกคนได้ปล่อยความเสี่ยงที่ตนเองถือไว้อยู่ ผ่านเครื่องมือทางการเงินด้วยความเข้าใจ และมีประสิทธิภาพสูงสุดค่ะ

>
Scroll to Top

เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งาน ซึ่งสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ตกลงทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึก