การขอประวัติการรักษา หรือ ประวัติสุขภาพกับทางโรงพยาบาล จะดำเนินเมื่อบริษัทฯ มีการขอเอกสารเพิ่มเติมด้านสุขภาพเพื่อประกอบการพิจารณาตามถ้อยคำแถลง หรือตามฐานข้อมูลที่บริษัทฯ มี โดยขั้นตอนในการขอประวัติการเจ็บป่วย/การรักษานั้นไม่ยุ่งยาก และสามารถทำได้ 2 วิธีคือ
- ดำเนินการขอประวัติด้วยตนเอง
- จะสามารถแจ้งขอให้ทาง รพ. ช่วยทำสำเนาประวัติที่ได้มาก่อนปิดผนึกซองได้ ( ห้ามเปิดผนึกซองประวัติเพื่อทำสำเนาเองเป็นอันขาดเพราะ ทางบริษัทจะถือว่าเป็นโมฆะจะต้องขอใหม่อีกครั้ง ) โดยประวัติชุดหนึ่งไว้ส่งบริษัท/ตัวแทน และตัวสำเนาไว้ส่งให้บริษัทประกันอื่นในการเปรียบเทียบข้อเสนอ หรือไว้อ่านข้อมูลเพื่อตรวจสอบว่าเป็นไปตามที่ฝ่ายพิจารณาแจ้งมาหรือไม่
- โดยจะเสียค่าธรรมเนียม 300 บ. ในการขอประวัติต่อชุด แต่สามารถส่งใบเสร็จตัวจริงให้กับตัวแทน เพื่อรับเงินคืนจากบริษัทได้ (กรณีที่บริษัทมีจดหมายร้องขอประวัติ) โดยจะทำการโอนคืนเมื่อครบกำหนดระยะเวลาพิจารณากรมธรรม์ 15 วัน (Free-look Period)
- บางโรงพยาบาลหากกลับมารับประวัติเอง และประวัติยังไม่ปิดผนึกซอง ก็จะยังสามารถขอทำสำเนาประวัติก่อนปิดผนึกได้เช่นกัน
- การมอบอำนาจให้ตัวแทน Release Your Risk เป็นผู้ดำเนินการขอประวัติ
- ไม่สามารถทำสำเนาได้และขอได้ชุดเดียว โดยต้องส่งตรงเข้าบริษัทอย่างเดียว ด้วยสาเหตุ พรบ.ปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
- ซึ่งทาง Release your Risk จะมีการขอมัดจำเงินค่าธรรมเนียม 300 บ.ต่อ รพ. นี้ไว้ และจะทำการโอนกลับคืนเมื่อมีการส่งข้อมูลเข้าบริษัทครบถ้วนตามที่บริษัทร้องขอ
- ทั้งนี้ที่ต้องมีการมัดจำเงินดังกล่าว เนื่องจากทางเราพบปัญหาในหลายเคสที่มอบอำนาจให้ดำเนินการ แต่ไม่มีการส่งข้อมูลอื่น ๆ นอกเหนือจากประวัติเข้ามายังบริษัทอย่างครบถ้วนและเงียบหายไป ทำให้ทางเราไม่สามารถเบิกค่าขอประวัติคืนจากบริษัทได้
ข้อแนะนำ ทำไมจึงควรขอประวัติการรักษาด้วยตนเอง
- หากท่านมีการตรวจสุขภาพเป็นประจำ ใช้บริการผู้ป่วยนอกบ่อยครั้ง หรือตรวจคัดกรองต่าง ๆ โอกาสได้รับข้อเสนอยกเว้นความคุ้มครอง หรือเพิ่มเบี้ยประกันในการรับทำประกันจะค่อนข้างสูงมาก การยื่นหลายบริษัทจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อไม่ให้ท่านเหมือนโดนมัดมือชกให้เลือกได้เพียงข้อเสนอจากบริษัทเดียว
- การขอประวัติไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาไม่เกิน 15 นาทีและให้จัดส่งมาที่บ้านได้ (บาง รพ. จัดส่งทางอีเมลได้) โดยเฉพาะหาก รพ. อยู่ใกล้ท่าน หรือ ท่านต้องเข้าหรือผ่าน รพ. เช่น มีการขอให้ตรวจสุขภาพร่วมด้วย
- ทำให้มีสำเนาประวัติเพื่อทำการตรวจสอบข้อมูลว่าเป็นตามจริงอย่างที่ฝ่ายพิจารณาแจ้งมาหรือไม่ เพราะหลายครั้งหลังได้รับข้อเสนอในการรับประกัน จะรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม และจะต้องการตรวจสอบประวัติการรักษาด้วยตนเองอีกครั้ง
- เมื่อได้รับข้อเสนอจะมีเวลา 15 วันในการตอบรับ หรือ ตอบปฏิเสธ ซึ่งเวลาเพียงพอที่จะลองยื่นประวัติที่มีไปยังบริษัทประกันอื่น ๆ เพื่อไว้เปรียบเทียบข้อเสนอได้ แต่ถ้าหากต้องเข้าขบวนการขอประวัติใหม่เพราะไม่ได้ขอเองไว้ อาจไม่ทันกำหนดการ โดยเฉพาะกับ รพ.รัฐ
การขอประวัติสุขภาพด้วยตนเอง หรือสามีภรรยาบุตรธิดาขอให้แทน
ท่านสามารถดำเนินการขอประวัติสุขภาพ/ประวัติการรักษาด้วยตนเองที่โรงพยาบาล โดยขั้นตอนการขอประวัตินั้นไม่ยุ่งยากและสะดวก สามารถดำเนินการได้ทันทีที่บริษัทฯ ขอค่ะ
ทั้งนี้การขอประวัติสุขภาพจากโรงพยาบาลด้วยตนเอง สามารถเลือกปฏิบัติได้ 3 วิธี คือ การไปติดต่อขอประวัติที่โรงพยาบาล การขอประวัติทางไปรษณีย์ (เฉพาะบาง รพ.) และ การขอประวัติทางอีเมล (เฉพาะบาง รพ.)
1. การติดต่อขอประวัติที่โรงพยาบาลด้วยตนเอง - ขอทำสำเนาก่อนปิดผนึกซองได้
- การขอประวัติโดย
- ขอด้วยตนเอง เตรียมบัตรประชาชนตัวจริง และสำเนาบัตรประชาชนพร้อมรับรองสำเนา
- สามี-ภรรยา-บุตรธิดา ขอให้กัน สำเนาบัตรประชาชนพร้อมรับรองสำเนาของผู้ขอและผู้ขอให้ และสำเนาทะเบียนบ้านยืนยันความสัมพันธ์ (หากอยู่คนละบ้าน อาจจำเป็นต้องใช้หนังสือมอบอำนาจแทน)
- เดินทางไปโรงพยาบาลที่มีประวัติ
- แจ้งเจ้าหน้าที่ว่า มาขอสำเนาประวัติการรักษา/การเจ็บป่วย ทั้งหมด เพื่อยื่นทำประกัน
- ชำระค่าขอประวัติ 300 บาท หรือตามที่โรงพยาบาลเรียกเก็บ จากนั้น ส่งใบเสร็จตัวจริงเบิกกับบริษัทฯ (เฉพาะกรณีที่บริษัทฯ มีจดหมายเรียกขอประวัติเท่านั้น)
- หากไม่ต้องการเข้ามารับประวัติด้วยตนเองอีก จะสามารถแจ้งทาง รพ. ให้จัดส่งให้ทางเราเพื่อดำเนินการต่อได้เลย (เฉพาะที่จะจัดส่งเข้าบริษัทโดยตรงเท่านั้น)
- หรือ สามารถมารับสำเนาประวัติตามที่ รพ.นัดหมาย ไว้ (รพ.เอกชน ประมาณ 3-7 วัน ส่วน รพ.รัฐ ประมาณ 15-30 วัน)
- หากมารับสำเนาเองสามารถแจ้งทาง รพ. ให้ทำสำเนาเผื่อก่อนทำการปิดผนึกซองเอกสารประวัติได้ (ต้องปิดผนึกซองเอกสารและประทับตรา รพ. ก่อนจัดส่งให้ทางตัวแทนดำเนินงานต่อหรือส่งให้ทางบริษัทโดยตรง)
ตัวอย่างใบคำร้องขอเอกสารประวัติการรักษา ( รพ.รัฐ )
หมายเหตุ : แบบฟอร์มการขอประวัติจะแตกต่างกันไปตามแต่ละโรงพยาบาล
2. การติดต่อขอประวัติทางไปรษณีย์ (เฉพาะบาง รพ.) - จะไม่สามารถเปิดผนึกซองได้ต้องส่งตรงเข้าบริษัทเท่านั้น
โทรติดต่อโรงพยาบาลที่มีประวัติก่อนว่า สามารถขอประวัติทางไปรษณีย์ได้หรือไม่? พร้อมกับสอบถามขั้นตอนดำเนินการอีกครั้ง ทั้งนี้ การขอประวัติทางไปรษณีย์ปกติ มีขั้นตอนดังต่อไปนี้
- สำเนาบัตรประชาชน 1 ฉบับ (พร้อมเซ็นกำกับ)
- จดหมายเรียนถึง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯ 1 ฉบับ (เขียนคำพูดได้เอง) พร้อมระบุ "ที่อยู่" ให้โรงพยาบาลส่งสำเนาประวัติถึงท่าน
- เงินสดจำนวน 300 บาทใส่ในซองเอกสาร หรือตามขั้นตอนชำระค่าธรรมเนียมที่ได้สอบถามทางโทรศัพท์ (ทาง รพ.จะแนบใบเสร็จตัวจริงมาในซองเอกสารพร้อมกับสำเนาประวัติ เพื่อนำไปเบิกกับบริษัทฯ)
เมื่อเตรียมเอกสารเรียบร้อย จ่าหน้าซองถึง ผู้อำนวยการโรงพยาบาล... (แผนกเวชระเบียน) พร้อมระบุที่อยู่ รพ. และนำไปจัดส่งไปรษณีย์ EMS หรือบริษัทขนส่งเอกชนที่สามารถติดตามเอกสารได้ และโทรติดตามเอกสารหลังวันที่ รพ. ได้รับประมาณ 1 วัน เนื่องจากเมื่อ รพ. ได้รับจดหมายแล้ว จำเป็นต้องใช้เวลาในการกระจายจดหมาย หรือ แต่ละฝ่ายเข้าไปรับจดหมายเอง
3. การติดต่อขอประวัติทาง E-mail (เฉพาะบาง รพ.) - มีสำเนาในรูปแบบไฟล์
โทรติดต่อโรงพยาบาลที่มีประวัติก่อนว่า สามารถขอประวัติทาง E-mail ได้หรือไม่? พร้อมกับสอบถาม E-mail address และ ขั้นตอนดำเนินการอีกครั้ง ทั้งนี้การขอประวัติทาง E-mail ปกติ มีขั้นตอนดังต่อไปนี้
- แจ้งความประสงค์เรื่องการขอประวัติทาง E-mail ตามที่เจ้าหน้าที่บอก โดยระบุ ชื่อ-นามสกุลของผู้ป่วย และ ประวัติส่วนที่ต้องการขอ เช่น ผลการรักษาเฉพาะส่วนที่ต้องการ ผลเอ็กเรย์ ผลแล็ป ชื่อแพทย์ที่ทำการรักษา หรือประวัติทั้งหมด เป็นต้น
- แนบไฟล์สำเนาบัตรประชาชนของผู้ป่วย พร้อมลายเซ็นรับรองเพื่อขอประวัติ
- รอทางโรงพยาบาลตรวจสอบความถูกต้องหลังจากได้รับ E-mail จากนั้นจึงจะส่งประวัติของผู้ป่วยตามที่ขอ ผ่านทาง E-Mail ที่แจ้งไว้ โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 7 วัน
หมายเหตุ : การขอประวัติผู้ป่วยใน กรณีผู้ป่วยไม่สามารถเข้ามาติดต่อด้วยตัวเองได้ จำเป็นต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องในเรื่องเอกสารเพื่อยืนยันตัวตนก่อน เพราะประวัติผู้ป่วยถือเป็นความลับ และต้องได้รับความยินยอมจากแพทย์ผู้รักษาก่อนส่งด้วยค่ะ
4. วิธีการจัดส่งประวัติการรักษาให้กับทาง BLA
1. แจ้งทาง รพ. ให้ส่งประวัติการรักษามาที่ทางเราโดยตรงได้
ในขั้นตอนการขอประวัติสามารถแจ้งทาง รพ. ให้จัดส่งไปรษณีย์มาที่ทางเราโดยตรงได้ เพื่อทางเราสามารถส่งตรงเข้าบริษัทและสามารถติดตามได้ง่ายว่าถึงหน่วยงานใดแล้ว โดยระบุที่อยู่ดังนี้ และสามารถขอ Tracking Number กับทาง รพ. เพื่อให้ทางตัวแทนประสานงานกับบริษัทเพื่อติดตามเอกสารได้
กรุณาส่ง...
รุจิรา ต๊ะบุญเรือง
ตัวแทนกรุงเทพประกันชีวิต
389/281 ซ.สวนพลู8 ถ.สาทร แขวงทุ่งมหาเมฆ
เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120
โทร 064-141-4226
2. มารับประวัติที่ รพ. เอง และจัดส่งมาให้ตัวแทนส่งเข้า BLA โดยตรง
วิธีนี้จะเหมาะกับหากต้องการให้ทาง รพ. ทำสำเนาประวัติให้อีก 1 ชุด ก่อนปิดผนึก (ควรแจ้งทาง รพ. ก่อน เพื่อป้องกันทาง รพ. ปิดผนึกและประทับตรา รพ.) ทั้งนี้จะห้ามรับมาเป็นเอกสารที่ยังไม่ได้ทำการปิดผนึกและประทับตรา รพ. เนื่องจาก พรบ.ข้อมูลส่วนบุคคล
ทำการนำใบเสร็จรับเงินค่าขอประวัติและซองเอกสารประวัติที่ปิดผนึก ใส่ในซองที่จะใช้ส่งพัสดุมาให้กับตัวแทน เพื่อนำส่งให้กับบริษัทโดยตรงต่อไป พร้อมแจ้งหมายเลข Tracking Number
วิธีนี้จะช่วยให้มั่นใจว่าเอกสารจะไม่ตกหล่น และส่งถึงบริษัทอย่างแน่นอน รวมถึงสามารถให้ รพ. ทำสำเนาประวัติเก็บไว้เองก่อนปิดผนึกได้
กรุณาส่ง...
รุจิรา ต๊ะบุญเรือง
ตัวแทนกรุงเทพประกันชีวิต
389/281 ซ.สวนพลู8 ถ.สาทร แขวงทุ่งมหาเมฆ
เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120
โทร 064-141-4226
3. หากประวัติอยู่ในรูปแบบของไฟล์ PDF สามารถส่งเข้าที่อีเมลของฝ่ายพิจารณาดังนี้
โดยอีเมลที่ใช้ส่งต้องเป็นอีเมลเดียวกับที่ระบุในใบคำขอ และหากส่งเรียบร้อยสามารถแจ้งทางตัวแทนให้ช่วยประสานงานได้อีกทางหนึ่ง แต่ห้าม CC หรือส่งอีเมลประวัติให้ตัวแทน เนื่องจาก พรบ.ข้อมูลส่วนบุคคล
อีเมล : [email protected]
หัวข้ออีเมล : ส่งประวัติการรักษาใบคำขอที่ SA...
เรียนฝ่ายพิจารณา
นำส่งประวัติการรักษาของใบคำขอเลขที่ SA...
ด้วยความเคารพ
ชื่อผู้ขอเอาประกัน...
การมอบอำนาจให้ Release Your Risk ดำเนินการขอประวัติ
ท่านสามารถมอบอำนาจให้ตัวแทน Release Your Risk เป็นผู้ดำเนินการแทนในการขอประวัติสุขภาพกับทางโรงพยาบาลได้ โดยมีเอกสารที่ต้องเตรียมดังต่อไปนี้
- หนังสือมอบอำนาจ (Download) 1 ฉบับต่อ 1 รพ. (เซ็นมอบอำนาจ)
- หนังสือยินยอมให้เปิดเผยประวัติการรักษา (Download) 1 ฉบับต่อ 1 รพ. (เซ็นเปิดเผย)
- สำเนาบัตรประชาชน 1 ฉบับ พร้อมเซ็นกำกับ 1 ฉบับต่อ 1 รพ. (สำหรับขอประวัติการรักษาเท่านั้น)
- หากเป็น รพ.รัฐ อาจต้องมีอากรแสตมป์จำนวน 10 บาทต่อ 1 รพ. แนบมา (ทางตัวแทนจะจัดหามาภายหลัง)
เมื่อท่านพิมพ์หนังสือมอบอำนาจ และ หนังสือยิมยอมให้เปิดเผยประวัติการรักษา พร้อมกรอกรายละเอียดเรียบร้อย แอนนี่รบกวนท่านส่งเอกสารทั้งหมดมาให้ตัวแทน Release Your Risk ตามที่อยู่ดังนี้
ส่งถึง
รุจิรา ต๊ะบุญเรือง
ตัวแทนกรุงเทพประกันชีวิต
389/281 ซ.สวนพลู8 ถ.สาทร แขวงทุ่งมหาเมฆ
เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120
โทร 064-141-4226
หลังจากที่ได้รับเอกสารแล้ว เราจะดำเนินการขอประวัติให้กับท่านในทันทีผ่านวิธีด้านบน โดยหากเป็น รพ. ภายนอก กรุงเทพ ทางเราจพยายามใช้ไปรษณีย์เป็นหลัก แต่หากเป็น รพ.รัฐ ที่ไม่ยอมจริง ๆ และ ผู้ขอเอาประกันอยู่ในจังหวัดเดียวกัน ทางเราอาจต้องรบกวนให้ผู้ขอเอาประกันดำเนินการในส่วนนี้ให้แทนค่ะ