เปรียบเทียบประกันชีวิตชั่วระยะเวลา Term Insurance ของ BLA
ให้ได้ ทุนชีวิตต่อเบี้ยสูงที่สุดในตลาด สำหรับพร้อมออกไปทำงานได้อย่างเต็มที่ ลดความกังวลใจต่อคนข้างหลังหากเกิดเหตุร้ายขึ้น
* ประกันชีวิตชั่วเวลา หรือ Term คือ แบบประกันชีวิตที่จ่ายเบี้ยทุกปี เพื่อให้ได้ทุนชีวิตที่สูงที่สุดในทุกปี โดยอายุสัญญาจะขึ้นอยู่กับแบบประกันที่เลือกว่าต้องการความคุ้มครองนานกี่ปี เช่น 10 ปี 15 ปี 18 ปี 20 ปี หรือ จนถึงอายุ 60 ปี
แบบประกันชีวิตชั่วระยะเวลา BLA
เป็นแบบประกันที่ใช้ เบี้ยน้อยแบบคงที่ เพื่อแลกทุนชีวิตสูงคงที่ในทุกปีจนครบอายุสัญญา ทำให้การพิจารณารับทำประกันจึงค่อนข้างเข้มงวดอย่างมาก เรื่องของ พรบ.ป้องการฟอกเงิน การฉ้อฉลประกันภัย และมีเงื่อนไขการตรวจสุขภาพก่อนการรับประกัน (โดยเฉพาะหากทุนชีวิตสูงกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป)
โดยประกันชั่วระยะเวลา BLA จะแบ่งออกเป็น 3 แบบประกันด้วยกัน ดังต่อไปนี้
1. แบบสัญญาหลัก "คุ้มครอง 2 พลัส"
เป็นแบบประกันชีวิตชั่วระยะเวลาที่อยู่ในรูปแบบสัญญาหลัก
โดยจะเพิ่มความคุ้มครองทุพพลภาพถาวร (สัญญาเพิ่มเติม) จำนวน 3 เท่าของทุนชีวิตร่วมด้วย เพื่อให้สามารถคุ้มครองได้ทั้ง กรณีเสียชีวิตและกรณีทุพพลภาพถาวร

BLA คุ้มครอง 2 พลัส+
ทุนประกันเริ่มต้น 1,000,000 บาท
คุ้มครองและชำระเบี้ยคงที่ 10 ปี, 15 ปี หรือ 20 ปี
อายุรับทำ 20 - 65 ปี
บังคับแนบความคุ้มครองทุพพลภาพถาวร 300% ของทุน หรือขั้นต่ำ 3,000,000 บาท (สูงสุดไม่เกิน 30,000,000 บาท)
*รับทำเฉพาะอาชีพความเสี่ยงขั้นที่ 1 , 2 เน้นทำงานในออฟฟิศเป็นหลัก
*ต้องแสดงเอกสารที่มาของรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน STATEMENT เป็นต้น
*เสียชีวิตรับทุนประกัน **ทุพพลภาพถาวรรับ 3 เท่าของทุนประกัน
ส่วนลดอัตราเบี้ย ต่อจำนวนเงินทุนประกันชีวิต 1,000 บาท
2. แบบสัญญาเพิ่มเติม "เฉพาะกาล"
เป็นสัญญาเพิ่มเติมที่ต้องแนบกับสัญญาหลักประกันชีวิตอื่น ๆ
สัญญาเพิ่มเติมเฉพาะกาลนี้จะสามารถเลือกทุนชีวิตได้สูงสุดที่ 10 เท่า ของทุนประกันชีวิต (สัญญาหลัก) เช่น หากทำทุนชีวิตสัญญาหลักที่ 100,000 บ. จะสามารถทำทุนชีวิตเฉพาะกาลได้สูงสุดที่ 1,000,000 บ. เป็นต้น
จุดเด่นที่สำคัญของ "แบบเฉพาะกาล" คือ เบี้ยชีวิตมีอัตราถูกกว่าแบบ คุ้มครอง 2 พลัส รวมถึงหากทำทุนชีวิตสูง จะได้รับส่วนลดเบี้ยเพิ่มมากกว่าส่วนลดของคุ้มครอง 2 พลัส แต่ข้อจำกัด คือระยะเวลาคุ้มครองสูงสุดเพียง 18 ปีเท่านั้น
โดย "สัญญาหลักประกันชีวิต" ที่มีอัตราเบี้ยน้อยที่สุด เพื่อให้สัญญาเพิ่มเติม "เฉพาะกาล" แนบจะมี 2 แบบ ดังต่อไปนี้
2.1
สัญญาหลักประกันชีวิตตลอดชีพ (เช่น ตลอดชีพสุดคุ้ม 20/99)
หากต้องการให้กรมธรรม์มีความคุ้มครองตลอดชีพร่วมด้วย ภายหลังจากที่สัญญาเฉพาะกาลได้สิ้นสุดผลบังคับลงเรียบร้อย
2.2
สัญญาหลักประกันชีวิตชั่วระยะเวลา (เช่น คุ้มครอง2พลัส+ ระยะเวลาตามปีคุ้มครองของแบบเฉพาะกาล)
หากต้องการเบี้ยที่ประหยัดที่สุดที่ทุนประกันชีวิต 2,000,000 บาทเป็นต้นไป และยังได้รับความคุ้มครองทุพพลภาพถาวรร่วมด้วย โดยที่ต้องการเพียงให้กรมธรรม์มีความคุ้มครองระยะสั้นไม่เกินสัญญาหลัก คุ้มครอง2พลัส

สัญญาเพิ่มเติม "เฉพาะกาล"
ทุนประกันเริ่มต้น 100,000 บาท (ทุนสูงสุดไม่เกิน 10 เท่าของทุนประกันชีวิตสัญญาหลัก)
คุ้มครองและชำระเบี้ยคงที่ 10 ปี, 15 ปี หรือ 18 ปี
อายุรับทำ 15 - 60 ปี
บังคับพ่วงกับสัญญาหลักประกันชีวิต
*รับทำเฉพาะอาชีพความเสี่ยงขั้นที่ 1 , 2 เน้นทำงานในออฟฟิศเป็นหลัก
* เสียชีวิตรับทุนประกันสัญญาเพิ่มเติม พร้อมกับ ทุนสัญญาหลัก
ส่วนลดอัตราเบี้ย ต่อจำนวนเงินทุนประกันชีวิต 1,000 บาท
3. แบบสัญญาหลัก "พรีเมียร์ ลิงก์" (เน้นทุนชีวิตสูง)
ประกันชีวิตควบการลงทุนที่ให้เพดานทุนชีวิตต่อเบี้ยที่สูงสุดในตลาดและคุ้มครองได้ถึงอายุ 60 ปี โดยเฉพาะหากเริ่มทำประกันตอนอายุ 20 - 45 ปี (สามารถเลือกเพดานทุนชีวิตสูงสุดคงที่ได้ตลอดไปตามอายุที่เริ่มทำประกัน ด้วยเบี้ยคงที่เท่าเดิม จนกว่ามูลค่ากรมธรรม์จะหมด)
เช่น ชายอายุ 30 ปี จ่ายเบี้ย 12,000 บ./ปี ทุกปี จะได้ทุนชีวิตสูงสุดที่ 200 เท่าของเบี้ย (หรือเบี้ยจำนวน 12,000 x 200 = ทุนชีวิต 2,400,000 บาท) ไปทุกปี จนกระทั่งอายุ 60 ปี (ด้วยผลตอบแทนการลงทุนคาดการณ์ที่ 2% ต่อปี พอร์ตความเสี่ยงต่ำที่มีความแม่นยำในการคาดการณ์สูงสุด)
ประกันแบบนี้จะไม่ได้กำหนดระยะความคุ้มครองที่ชัดเจนว่าได้กี่ปี ขอเพียงในกรมธรรม์ยังมีมูลค่าเหลืออยู่ ก็จะยังคงให้ความคุ้มครองต่อไปเรื่อย ๆ ได้ มักจะเน้นคุ้มครองถึงอายุ 60 ปี โดยไม่ต้องเติมเงินพิเศษเพิ่มเข้าไปในกรมธรรม์

BLA Premier Link (แบบชั่วระยะเวลา)
ลงทุนในพอร์ตความเสี่ยงต่ำผลตอบแทนคาดการณ์ 1-3% ต่อปี
เน้นทุนชีวิตสูงคงที่ด้วบเบี้ยที่น้อยคงที่ คุ้มครองจนถึงถึงอายุ 60 ปี
เบี้ยประกันขั้นต่ำ 12,000 บาทต่อปี
คุ้มครองและชำระเบี้ยคงที่ทุกปีจนถึงอายุ 60 ปี
อายุรับทำ : แรกเกิด - 70 ปี
เลือกทุนประกันสูงสุด 200-250 เท่าของเบี้ย (ตามเพศและอายุที่เริ่มทำ)
*รับทำอาชีพความเสี่ยงขั้นที่ 1 , 2 เน้นทำงานในออฟฟิศเป็นหลัก และ ความเสี่ยงขั้นที่ 3 เน้นทำงานออกภาคสนามเป็นหลัก
* เสียชีวิตรับทุนประกัน
เปรียบเทียบเบี้ยประกันชีวิตชั่วระยะเวลา BLA
การเลือกแบบประกันชีวิตชั่วระยะเวลานั้นยังมีทั้ง ปัจจัยทางด้านอายุ เพศ อาชีพ และสุขภาพ ที่ต้องพิจารณาประกอบ เพราะแม้จะจ่ายเบี้ยเท่ากันแต่ทุนชีวิตที่ได้จะได้แตกต่างกันไป ตามปัจจัยข้างต้น อีกทั้งแบบประกันชีวิตชั่วระยะเวลาแต่ละแบบจะมีความเหมาะสมเฉพาะในบางช่วงอายุเท่านั้น
ทาง Release your Risk จึงได้ทำการเปรียบเทียบทั้งในส่วนหลักเกณฑ์การตรวจสุขภาพ และเปรียบเทียบเบี้ยที่ทุนความคุ้มครองชีวิตเท่ากันที่ 5,000,000 บาท (แต่หากต้องการทุนชีวิตมากขึ้น เช่น 10,000,000 บาท จะสามารถนำเบี้ยในตารางมาคูณ 2 เพื่อคำนวณหาเบี้ยสำหรับทุน 10 ล้านบาทได้ทันที)
1. ตารางเบี้ยประกันชีวิตชั่วระยะเวลา BLA เพศชาย


จากตารางจะเห็นได้ว่า หากต้องการทุนประกันชีวิตที่ 5,000,000 บาท
คุ้มครอง2พลัส ทุน 5,000,000 บ.
จะถูกบังคับให้ทำสัญญาเพิ่มเติมทุพพลภาพถาวร 3 เท่าของทุนหรือ 15,000,000 บาท (สูงสุดไม่เกิน 30 ล้านบาท)
พรีเมียร์ลิงก์ (ยูนิตลิงก์) ทุน 5,000,000 บ.
จะสามารถทำทุน 5,000,000 บ. ได้โดยไม่ถูกบังคับทำสัญญาเพิ่มเติมใด ๆ
เฉพาะกาล (สัญญาเพิ่มเติม) รวมกับสัญญาหลักได้ทุน 5,000,000 บ.
จะต้องเลือกทุนให้สอดคล้องกับสัญญาหลักที่เลือก
- ถ้าเป็น ตลอดชีพสุดคุ้ม ทุนชีวิตอยู่ที่ 454,546 บ. + เฉพาะกาล 4,545,454 บ. (ไม่เกิน 10 เท่าของทุนสัญญาหลัก) = 5,000,000 บ.
- ถ้าเป็น คุ้มครอง2พลัส ทุนเริ่มต้น 1,000,000 บ. (บังคับทุนทุพพลถาวรภาพ 3 เท่าหรือ 3,000,000) + เฉพาะกาล 4,000,000 บ. (ไม่เกิน 10 เท่าของทุนสัญญาหลัก) = 5,000,000 บ.

จากตารางหาก ชาย อายุ 45 ปี ต้องการความคุ้มครองนาน 15 ปี เบี้ยน้อยที่สุดคงที่ ที่ทุนชีวิต 5 ล้านคงที่
- หากเลือก คุ้มครอง2พลัส15ปี จะจ่ายเบี้ยปีละ 65,640 บ. คงที่ 15 ปี
- หากเลือก ตลอดชีพสุดคุ้ม+เฉพาะกาล18ปี จะจ่ายเบี้ยปีละ 47,655 บ. คงที่ 15 ปี
- หากเลือก คุ้มครอง2พลัส20ปี+เฉพาะกาล18ปี จะจ่ายเบี้ยปีละ 45,510 บ. คงที่ 15 ปี
- หากเลือก พรีเมียร์ลิงก์ คาดการณ์คุ้มครองถึงอายุ 60 ปี (หรือ 16 ปี) จะจ่ายเบี้ยปีละ 50,000 บ. คงที่ 16 ปี และตอนอายุ 60 ปี หากยกเลิกกรมธรรม์จะได้เงินคืน 231,853 บ. (คาดการณ์ผลตอบแทน 2% ต่อปี) หรือ หากนำเงินที่ได้คืนมารวมกับเบี้ยที่จ่ายไป จะเฉลี่ยเหลือเบี้ยจริงแบบคาดการณ์ปีละ 35,509 บ.
*หรือ หากต้องการทุนชีวิต 10 ล้านบาท จะสามารถนำเบี้ยด้านบน x2 ได้ เช่น พรีเมียร์ลิงก์ 10 ล้าบบาท เบี้ยปีละ 50,000 x 2 = 100,000 บาท เป็นต้น
ข้อสังเกตุ :
ด้วยจะถึงอายุที่เกษียณ (อายุ 60 ปี) อีกไม่นาน และเบี้ยที่น้อยกว่าอย่างชัดเจนตั้งแต่แรก จึงทำให้ช่วงอายุ 41-50 ปี แบบ คุ้มครอง2พลัส+เฉพาะกาล จะตอบโจทย์ได้ดีที่สุด เว้นแต่หากมีการนำเงินที่ได้เมื่อยกเลิกกรมธรรม์ตอนอายุ 60 ปีมาร่วมด้วย พรีเมียร์ลิงก์จะน่าสนใจที่สุด
เนื่องด้วยเป็นช่วงอายุที่มีรายได้สูง ที่มักตามมาด้วยรายจ่ายและภาระที่สูงมากตามไปด้วยเช่นกัน ทำให้การได้ความคุ้มครองชีวิตที่สูงจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อเป็นแผนสำรองให้กับครอบครัวกรณี Worst-Case
โดยการทำแบบ คุ้มครอง2พลัส + เฉพาะกาล ยังทำให้ได้ความคุ้มครองทุพพลภาพถาวรมาด้วยส่วนหนึ่ง และเบี้ยตอนแรกยังประหยัดกว่าการซื้อแบบพรีเมียร์ลิงก์ + ทุพพลภาพถาวร

จากตารางหาก ชาย อายุ 51 ปี ต้องการความคุ้มครองนาน 10 ปี เบี้ยน้อยที่สุดคงที่ ที่ทุนชีวิต 5 ล้านคงที่
- หากเลือก คุ้มครอง2พลัส10ปี จะจ่ายเบี้ยปีละ 83,520 บ. คงที่ 10 ปี
- หากเลือก ตลอดชีพสุดคุ้ม+เฉพาะกาล18ปี จะจ่ายเบี้ยปีละ 59,045 บ. คงที่ 10 ปี
- หากเลือก คุ้มครอง2พลัส20ปี+เฉพาะกาล18ปี จะจ่ายเบี้ยปีละ 57,045 บ. คงที่ 10 ปี
- หากเลือก พรีเมียร์ลิงก์ คาดการณ์คุ้มครองถึงอายุ 60 ปี (หรือ 10 ปี) จะจ่ายเบี้ยปีละ 100,000 บ. คงที่ 10 ปี และตอนอายุ 60 ปี หากยกเลิกกรมธรรม์จะได้เงินคืน 492,884 บ. (คาดการณ์ผลตอบแทน 2% ต่อปี) หรือ หากนำเงินที่ได้คืนมารวมกับเบี้ยที่จ่ายไป จะเฉลี่ยเหลือเบี้ยจริงแบบคาดการณ์ปีละ 50,712 บ.
*หรือ หากต้องการทุนชีวิต 10 ล้านบาท จะสามารถนำเบี้ยด้านบน x2 ได้ เช่น พรีเมียร์ลิงก์ 10 ล้าบบาท เบี้ยปีละ 100,000 x 2 = 200,000 บาท เป็นต้น
ข้อสังเกตุ :
เช่นเดียวกับช่วงอายุ 41-50 ปี ที่ ช่วงอายุ 51-60 ปี จะเหมาะกับแบบ ตลอดชีพสุดคุ้ม+เฉพาะกาล/คุ้มครอง2พลัส+เฉพาะกาล เช่นกัน ด้วยเบี้ยเริ่มต้นที่น้อยกว่า พรีเมียร์ลิงก์
แต่จะเห็นได้ว่าเบี้ยประกันปรับตัวขึ้นสูงมากตามอายุที่เริ่มทำประกัน และเบี้ยเริ่มมีความใกล้เคียงกับแบบประกันชีวิตตลอดชีพ จึงทำให้การได้ทั้งออมเงินเผื่อสภาวะฉุกเฉินและได้ความคุ้มครองชีวิตควบคู่ไปด้วยนั้นแม้เบี้ยจะแพงกว่าแต่ก็น่าสนใจกว่าจ่ายเบี้ยที่ไม่มีการออมเลยแบบประกันชีวิตชั่วระยะเวลา
ดังนั้นในช่วงอายุ 51-60 ปี ที่เบี้ยแบบชั่วระยะเวลาเริ่มแตกต่างกับเบี้ยประกันชีวิตแบบตลอดชีพไม่มากนัก การเริ่มหันมาพิจารณาประกันชีวิตตลอดชีพอย่าง BLA Prestige Life 99/5 จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจอย่างมากเมื่อมีอายุ 51 ขึ้นไป หรือ หากมองว่าเบี้ยยังสูงเกินไป การพิจารณา พรีเมียร์ลิงก์ ที่ยังได้เงินคืนตอนอายุ 60 ปีบ้าง พร้อมความคุ้มครอง จะยังสามารถเป็นอีกหนึ่งทางเลือกได้
โดยสรุปแบบประกันชีวิตชั่วระยะเวลา BLA ชาย
พรีเมียร์ลิงก์
จะมีการลงทุนความเสี่ยงต่ำที่ผลตอบแทนคาดการณ์ 2% ต่อปี กับเป็นการลงทุนระยะยาวจึงลดความผันผวนได้อย่างมาก ซึ่งทำให้การคาดการณ์มีความแม่นยำพอสมควร จึงเหมาะอย่างยิ่งกับอายุ 20-45 ปี รวมถึงมีความยืดหยุ่นด้านระยะเวลาในการคุ้มครองที่จะสามารถเกษียนก่อนอายุ 60 ปีได้อีกด้วย
ตลอดชีพสุดคุ้ม + เฉพาะกาล หรือ คุ้มครอง2พลัส + เฉพาะกาล
เหมาะกับอายุ 45-50 ปี (หากจะเกษียณอายุ 60 ปี) จะได้เบี้ยที่ประหยัด และ แบบตลอดชีพสุดคุ้มจะมีมูลค่าสะสมอยู่ในกรมธรรม์ร่วมด้วย (จะไม่ได้จ่ายเปล่าทั้งหมด) หรือหากพอมีกำลังการพิจารณา พรีเมียร์ลิงก์ ที่เมื่อนำเงินในกรมธรรม์ตอนอายุ 60 ปี มาร่วมด้วย ก็จะได้เบี้ยต่อปีที่เฉลี่ยนน้อยที่สุดได้ แม้จะเป็นแบบคาดการณ์ที่เน้นให้มีความแม่นยำก็ตาม
พิจารณา ประกันชีวิตตลอดชีพ แทน
เหมาะกับอายุ 51-60 ปี เนื่องจากเบี้ยแบบชั่วระยะเวลาเริ่มแตกต่างกับเบี้ยตลอดชีพไม่มาก (เช่น แบบ Prestige Life) และแบบตลอดชีพเองก็สามารถตัดสินใจหยุดจ่ายเบี้ยในปีที่ต้องการ แล้วเปลี่ยนเป็นมูลค่าสำเร็จ ได้ (คือ ทุนชีวิตลดลงแต่ได้ความคุ้มครองยาวถึงอายุ 99 ปี) หรือหยุดจ่ายเบี้ยแล้วเลือก ขยายระยะเวลา (คือ ได้ทุนชีวิตเท่าเดิมแต่ความคุ้มครองจะสั้นลงไม่ถึงอายุ 99 ปี) หรือ แม้แต่การเวนคืนกรมธรรม์ ( คือ ยกเลิกสัญญา แล้วคืนมูลค่าที่มีในกรมธรรม์กลับมา )
*บางแบบประกันชีวิตในลิงก์อาจปิดรับสมัครใหม่เรียบร้อยแล้ว
2. ตารางเบี้ยประกันชีวิตชั่วระยะเวลา BLA เพศหญิง


จากตารางจะเห็นได้ว่า หากต้องการทุนประกันชีวิตที่ 5,000,000 บาท
คุ้มครอง2พลัส ทุน 5,000,000 บ.
จะถูกบังคับให้ทำสัญญาเพิ่มเติมทุพพลภาพถาวร 3 เท่าของทุนหรือ 15,000,000 บาท (สูงสุดไม่เกิน 30 ล้านบาท)
พรีเมียร์ลิงก์ (ยูนิตลิงก์)
จะสามารถทำทุน 5,000,000 บ. ได้โดยไม่ถูกบังคับทำสัญญาเพิ่มเติมใด ๆ
เฉพาะกาล (สัญญาเพิ่มเติม)
จะต้องเลือกทุนให้สอดคล้องกับสัญญาหลักที่เลือก
- ถ้าเป็น ตลอดชีพสุดคุ้ม ทุนชีวิตอยู่ที่ 454,546 บ. + เฉพาะกาล 4,545,454 บ. (ไม่เกิน 10 เท่าของทุนสัญญาหลัก) = 5,000,000 บ.
- ถ้าเป็น คุ้มครอง2พลัส ทุนเริ่มต้น 1,000,000 บ. (บังคับทุนทุพพลถาวรภาพ 3 เท่าหรือ 3,000,000) + เฉพาะกาล 4,000,000 บ. (ไม่เกิน 10 เท่าของทุนสัญญาหลัก) = 5,000,000 บ.

จากตารางหาก หญิง อายุ 45 ปี ต้องการความคุ้มครองนาน 15 ปี เบี้ยน้อยที่สุดคงที่ ที่ทุนชีวิต 5 ล้านคงที่
- หากเลือก คุ้มครอง2พลัส10ปี จะจ่ายเบี้ยปีละ 34,280 บ. คงที่ 15 ปี
- หากเลือก ตลอดชีพสุดคุ้ม+เฉพาะกาล18ปี จะจ่ายเบี้ยปีละ 29,650 บ. คงที่ 15 ปี
- หากเลือก คุ้มครอง2พลัส20ปี+เฉพาะกาล18ปี จะจ่ายเบี้ยปีละ 24,190 บ. คงที่ 15 ปี
- หากเลือก พรีเมียร์ลิงก์ คาดการณ์คุ้มครองถึงอายุ 60 ปี (หรือ 10 ปี) จะจ่ายเบี้ยปีละ 33,333 บ. คงที่ 16 ปี และตอนอายุ 60 ปี หากยกเลิกกรมธรรม์จะได้เงินคืน 281,241 บ. (คาดการณ์ผลตอบแทน 2% ต่อปี) หรือ หากนำเงินที่ได้คืนมารวมกับเบี้ยที่จ่ายไป จะเฉลี่ยเหลือเบี้ยจริงแบบคาดการณ์ปีละ 15,756 บ.
*หรือ หากต้องการทุนชีวิต 10 ล้านบาท จะสามารถนำเบี้ยด้านบน x2 ได้ เช่น พรีเมียร์ลิงก์ 10 ล้าบบาท เบี้ยปีละ 33,333 x 2 = 66,666 บาท เป็นต้น
ข้อสังเกตุ :
ด้วยเพราะค่าการประกันภัยของทั้งชีวิตและทุพพลภาพถาวรในผู้หญิงนั้นจะถูกกว่าผู้ชายค่อนข้างมาก จึงทำให้ คุ้มครอง2พลัส+เฉพาะกาล มีเบี้ยที่น่าสนใจมากในช่วงอายุ 41 - 50 ปี ด้วยเบี้ยที่ประหยัดกว่าแบบพรีเมียร์ลิงก์ (ไม่นับรวมมุมมองว่า พรีเมียร์ลิงก์อาจมีโอกาสได้เงินสะสมในกรมธรรม์เหลือมากกว่า แบบคุ้มครอง 2 พลัสมาก)

จากตารางหาก หญิง อายุ 51 ปี ต้องการความคุ้มครองนาน 10 ปี เบี้ยน้อยที่สุดคงที่ ที่ทุนชีวิต 5 ล้านคงที่
- หากเลือก คุ้มครอง2พลัส10ปี จะจ่ายเบี้ยปีละ 44,960 บ. คงที่ 10 ปี
- หากเลือก ตลอดชีพสุดคุ้ม+เฉพาะกาล18ปี จะจ่ายเบี้ยปีละ 36,495 บ. คงที่ 10 ปี
- หากเลือก คุ้มครอง2พลัส20ปี+เฉพาะกาล18ปี จะจ่ายเบี้ยปีละ 30,843 บ. คงที่ 10 ปี
- หากเลือก พรีเมียร์ลิงก์ คาดการณ์คุ้มครองถึงอายุ 60 ปี (หรือ 10 ปี) จะจ่ายเบี้ยปีละ 55,556 บ. คงที่ 10 ปี และตอนอายุ 60 ปี หากยกเลิกกรมธรรม์จะได้เงินคืน 306,174 บ. (คาดการณ์ผลตอบแทน 2% ต่อปี) หรือ หากนำเงินที่ได้คืนมารวมกับเบี้ยที่จ่ายไป จะเฉลี่ยเหลือเบี้ยจริงแบบคาดการณ์ปีละ 24,939 บ.
*หรือ หากต้องการทุนชีวิต 10 ล้านบาท จะสามารถนำเบี้ยด้านบน x2 ได้ เช่น พรีเมียร์ลิงก์ 10 ล้าบบาท เบี้ยปีละ 55,556 x 2 = 111,112 บาท เป็นต้น
ข้อสังเกตุ :
ช่วงอายุ 51-60 ปี จะเหมาะกับแบบ ตลอดชีพสุดคุ้ม+เฉพาะกาล / คุ้มครอง2พลัส+เฉพาะกาล ที่ให้เบี้ยและระยะเวลาคุ้มครองที่เหมาะสมที่สุด แต่ก็แลกมากับการที่จะไม่มีมูลค่าเงินสะสมในกรมธรรม์ตอนอายุ 60 ปี เลยแบบ พรีเมียร์ลิงก์ รวมถึงเป็นช่วงอายุที่มีโอกาสถูกขอตรวจสุขภาพก่อนทำประกันได้
จึงทำให้อายุในช่วงนี้หากได้ทั้งออมและได้ความคุ้มครองชีวิตร่วมด้วย แม้จ่ายเบี้ยสูงกว่าแต่หากไม่เป็นอะไรก็ยังมีเงินเหลือบางส่วนไม่ได้จ่ายเปล่าทั้งหมด ดังนั้นการพิจารณาประกันชีวิตตลอดชีพอย่าง BLA Prestige Life 99/5 (ที่จ่ายเบี้ยสั้นและน้อยที่สุดในตลาดสำหรับทุนชีวิต 5 ล้านบาทขึ้นไป และมูลค่าเวนคืนเกินเบี้ยที่จ่ายไปใช้เวลาเพียง 11 ปี) จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจเมื่อมีอายุ 51-60 ปี หรืออายุหลังจากนี้
รวมไปถึง แบบ Prestige Life ยังใช้เกณฑ์เฉพาะการแถลงสุขภาพถึงอายุ 55 ปี ที่ทุนไม่เกิน 20 ล้านบาท จึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เว้นแต่หากเบี้ย Prestige Life สูงเกินไป การพิจารณา พรีเมียร์ลิงก์ จะเป็นอีกหนึ่งแบบที่น่าสนใจ แม้จะมีเบี้ยจ่ายเปล่าไปบางส่วนก็ตาม แต่ก็ยังมีเงินเหลือตอนอายุ 60 ปีพอสมควร
โดยสรุปแบบประกันชีวิตชั่วระยะเวลา BLA หญิง
เบี้ยถูกกว่าเพศชาย
ด้วยค่าการประกันภัยในส่วนชีวิตและทุพพลภาพถาวรของเพศหญิงนั้นจะน้อยกว่าเพศชายพอสมควร จึงทำให้เบี้ยมักจะถูกกว่า
พรีเมียร์ลิงก์
เป็นอีกหนึ่งแบบประกันชีวิตที่เหมาะสมอย่างมากในเพศหญิง อายุ 20-55 ปี
คุ้มครอง 2 พลัส + เฉพาะกาล
จะเหมาะกับเพศหญิง อายุ 41-55 ปี ด้วยเบี้ยที่ประหยัดที่สุด แต่ก็ต้องระวังเรื่องเกณฑ์การตรวจสุขภาพ และต้องมีการแสดงที่มาของรายได้อย่างชัดเจน
Prestige Life
หากเน้นเป็นประกันมรดก แบบเพรสทีจ ไลฟ์ อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่าของเพศหญิง ช่วงอายุ 51-60 ปี
*บางแบบประกันชีวิตในลิงก์อาจปิดรับสมัครใหม่เรียบร้อยแล้ว
เปรียบเทียบเกณฑ์การตรวจสุขภาพ
เกณฑ์การตรวจสุขภาพตามทุนชีวิตที่เลือกจะมีเกณฑ์แตกต่างกันไปตามช่วงอายุที่เริ่มทำประกัน และขึ้นอยู่กับในช่วงเวลานั้นจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูงด้านชีวิตหรือไม่
1. เกณฑ์การตรวจสุขภาพ 'พื้นที่เสี่ยงปกติ'

จากตารางจะเห็นได้ว่าในกรณีที่ทำทุนประกันชีวิตที่ 5 ล้านบาท จะสามารถแถลงเพียงสุขภาพได้ถึงอายุ 55 ปี ในขณะที่ถ้าทำทุนประกันชีวิต 10 ล้านบาทนั้น จะแถลงสุขภาพได้เพียงถึงอายุ 16-45 ปี เท่านั้น และ ทำทุนประกันชีวิตเกิน 10 ล้านบาทขึ้นไปจะต้องตรวจสุขภาพ
2. เกณฑ์การตรวจสุขภาพ 'พื้นที่เสี่ยงสูง'


จากตารางจะสามารถแถลงสุขภาพได้เพียงทุนประกันชีวิตสูงสุดที่ 8 ล้านบาท โดยที่อายุต้องไม่เกิน 45 ปีเท่านั้น
ด้วยเกณฑ์การตรวจสุขภาพนี้ จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการทำประกันชีวิตทุนสูงมากกว่า 8-10 ล้านบาท ที่จำเป็นต้องระวังเรื่องการตรวจสุขภาพให้ดี
โดยเฉพาะการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ความดัน) การตรวจเลือด (เบาหวาน ไต ตับ) หากพบว่าค่าใดมีความผิดปกติ (ไม่อยู่ในเกณฑ์) จะส่งผลต่อการรับทำประกันอย่างมาก ซึ่งมีทั้งการปฏิเสธการรับประกัน การเลื่อนการรับประกัน และ การเพิ่มเบี้ยรับความเสี่ยง
แน่นอนว่าหากยังไม่ได้ทำประกันสุขภาพให้เรียบร้อยก่อน แล้วจะทำภายหลังก็จะได้รับผลกระทบจากผลตรวจสุขภาพนี้ตามไปด้วย นี่จึงเป็นที่มาว่า ทำไมจึงไม่ควรมีประวัติตรวจสุขภาพก่อนทำประกัน (โดยเฉพาะการตรวจที่มีความละเอียด)
เพราะบางอย่าง ไม่รู้ ไม่เจอ ย่อมไม่ผิด แต่ถ้าไปตรวจแล้วพบอะไรบางอย่าง ย่อมจะกลายเป็นหลักฐานทางตัวอักษรที่ฝ่ายพิจารณายากจะหลีกเลี่ยงได้ เว้นแต่ได้ทำประกันสุขภาพเรียบร้อยก่อนไปตรวจ เพราะต่อให้ตรวจเจออะไรบางอย่างภายหลัง ก็ยังสบายใจได้ว่ามีประกันสุขภาพคอยดูแลเรื่องค่ารักษาอยู่
บทสรุป วิธีการเลือกแบบประกันชั่วระยะเวลา BLA
หากอายุไม่เกิน 45 ปี BLA Premier Link จะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดในเรื่องเบี้ยและทุนที่ได้ รวมถึงระยะเวลาความคุ้มครอง
แต่ถ้าหากอายุมากกว่า 45 ปีขึ้นไป สัญญาเพิ่มเติมเฉพาะกาล จะเป็นคำตอบที่น่าสนใจมากขึ้น
ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญที่ทำให้แต่ละแบบประกันชีวิตชั่วระยะเวลาของ BLA แตกต่างกันนั้น จะอยู่ที่ความคุ้มครองในส่วน ทุพพลภาพถาวร เนื่องจาก 'คุ้มครอง2พลัส' จะบังคับให้มีความคุ้มครองนี้สูงถึง 3 เท่าของทุนชีวิต
ในขณะที่แบบชั่วระยะเวลาอื่น ๆ จะไม่ได้บังคับ และเลือกทุนทุพพลภาพที่ต้องการเองได้ (แต่เบี้ยทุพพลภาพถาวรแบบเลือกเองจะเพิ่มตามอายุ ไม่ได้คงที่เหมือน 'คุ้มครอง2พลัส')
ดังนั้นการเลือกว่าจะทำประกันแบบใดดี จึงอาจต้องพิจารณาความสำคัญของ ความคุ้มครองทุพพลภาพถาวร ร่วมด้วยดังนี้
ทุพพลภาพจำเป็นหรือไม่
ทุพพลภาพถาวร เป็นอีกหนึ่งความคุ้มครองที่มักพิจารณาร่วมกันกับประกันชีวิต จนบางบริษัทประกันอาจมีการบังคับให้ทำทุพพลภาพถาวรด้วยจำนวนทุนเท่ากับทุนชีวิตไปพร้อม ๆ กัน
ซึ่งมักพบเจอได้ในแบบประกันควบการลงทุน ที่เบี้ยเหมือนจะคงที่ แต่ไส้ในกรมธรรม์พบว่ามีทั้งค่าการประกันภัยของทั้งทุพพลภาพถาวรและของประกันชีวิตที่ไม่ได้คงที่ตามเบี้ย แต่ทยอยปรับเพิ่มขึ้นตามอายุ
ทำให้ทุพพลภาพถาวรจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ประกันควบการลงทุนลักษณะนี้ กับประกันแบบคุ้มครอง 2 พลัส มีค่าการประกันภัยที่ค่อนข้างสูงในตอนที่อายุมาก เนื่องจากถูกบังคับให้ทำทุพพลภาพถาวรด้วยนี้เอง
อย่างไรก็ตาม โอกาสการเคลมทุพพลภาพถาวรนั้นจะค่อนข้างน้อย (เว้นเสียแต่เกิดเหตุพิการแขน ขา และ/หรือตา รวมกัน 2 ข้างขึ้นไป) โดยจะต้องเป็นผู้ที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้นานกว่า 6 เดือนขึ้นไป พร้อมมีการรับรองโดยแพทย์ จึงจะสามารถเคลมประกันส่วนทุพพลภาพถาวรนี้ได้
หลายคนจึงเลือกที่จะโอนความเสี่ยงทุพพลภาพถาวรแบบที่ระบุสาเหตุว่ามาจากอุบัติเหตุผ่าน ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) มากกว่า เพราะเบี้ยจะประหยัดกว่าในตอนสูงอายุ
รายละเอียดเพิ่มเติม
ในส่วนของการเลือกแบบประกันของ BLA การพิจารณาตารางเบี้ย อายุ เพศ และเกณฑ์ตรวจสุขภาพ จะช่วยทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า ทุพพลภาพถาวรนั้นควรเลือกให้อยู่ในแบบประกันแบบใดดี รวมถึงการให้ความสำคัญของระยะเวลาการคุ้มครองชีวิต
อย่างไรก็ตาม บทความนี้เป็นการเปรียบเทียบในปัจจัยส่วนที่พบเห็นได้ง่ายของแบบประกันชั่วระยะเวลาทั้ง 3 แบบของ BLA เท่านั้น
โดยหากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมของแต่ละแบบประกันชีวิตชั่วระยะเวลาของ BLA เพื่อประกอบการตัดสินใจในการใช้เงินคืนภาษีที่ได้ มาแลกความคุ้มครองชีวิตที่สูง จะสามารถดูรายเพิ่มเติมได้ที่ปุ่มด้านล่างนี้
การวางแผนเก็บเงินและเกษียณอย่างจริงจัง เริ่มขึ้น เมื่อเข้าใจ..
วิธีใช้ธรรมชาติของเครื่องมือการเงินที่จำเป็นให้เกิดประโยชน์สูงสุด
"ตน (ในปัจจุบัน) จักเป็นที่พึ่งของตน (ในอนาคต)"