แบบประกันมะเร็งมีทั้ง แบบเบี้ยคงที่กับเบี้ยไม่คงที่ แบบที่เน้นเฉพาะมะเร็งกับมะเร็งพ่วงโรคร้ายแรง และ แบบที่เจอจ่ายจบกับเจอจ่ายไม่จบ แล้วแบบนี้ควรจะเลือกอย่างไร


เลือกหัวข้อที่สนใจ


ด้วยสถิติการเป็นโรคมะเร็งที่สูงดังที่กล่าวในบทความทำไมต้องรีบทำประกันมะเร็งนั้น จึงทำให้ประกันมะเร็งเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน

และส่งผลให้ประกันมะเร็งเป็นหนึ่งในแบบประกันที่มีหลากหลายรูปแบบ หลากหลายวิธีการโฆษณา และหลากหลายวิธีการขาย มากที่สุดแบบหนึ่งในตลาด

ทำให้การเลือกแบบประกันมะเร็งจึงจำเป็นต้องเข้าใจ กลไกการทำงานของแบบประกันมะเร็งยอดนิยมแต่ละแบบให้เรียบร้อยก่อนทำประกัน

เพื่อที่จะสามารถสามารถเลือกแบบประกันได้ตรงกับความต้องการ และสามารถให้แต่ละแบบประกันทำงานสอดคล้องกันได้โดยไม่ทำงานซ้ำซ้อนกันดังต่อไปนี้

ประกันมะเร็งโดยตรง

1. ประกันมะเร็ง เจอจ่ายจบ

  • เป็นแบบประกันมะเร็งยอดฮิต ที่หากตรวจเจอว่าเป็นมะเร็งจะจ่ายเงินก้อนตามทุนประกันที่ทำไว้ แล้วปิดกรมธรรม์ทันที
  • ส่วนใหญ่จะเป็นแบบประกันของฝั่งบริษัทประกันภัย โดยจะมีทั้งแบบที่จ่ายไม่ว่าจะเจอมะเร็งใดระยะใดก็ตาม หรือ อาจจ่ายเพียง 20% ของทุนประกันหากเป็นมะเร็งผิวหนังที่ไม่ใช่ชนิดร้ายแรง
  • ในขณะที่ฝั่งบริษัทประกันชีวิต มักมีข้อกำหนดเพิ่มเติมในเรื่องระยะมะเร็งและชนิดมะเร็งที่จะจ่าย
  • ประกันมะเร็งแบบนี้ จะสามารถหาแบบที่เป็นเบี้ยประกันคงที่ไม่เพิ่มตามอายุได้ง่าย และ เบี้ยไม่สูงมากนัก
  • ทุนประกันที่ทำได้มักไม่สูงมากส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 1 ล้านบาทเท่านั้น

2. ประกันมะเร็ง จ่ายชดชายรายวัน เฉพาะเคมีบำบัด ฉายแสง หรือ เป็นผู้ป่วยในเพราะมะเร็ง

  • มักพบในฝั่งประกันชีวิตในรูปแบบของอนุสัญญา ที่สามารถแนบเพิ่มกับสัญญาหลักประกันชีวิตในการเพิ่มความคุ้มครองว่าต้องการค่าชดเชยกี่บาทต่อวัน จากการรักษามะเร็ง
  • ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าแบบที่เลือก คุ้มครองค่าชดเชยเฉพาะเป็นผู้ป่วยใน หรือ ผู้ป่วยนอกได้ด้วย เพราะการทำเคมีบำบัด ฉายแสง ส่วนใหญ่มักเป็นในรูปแบบผู้ป่วยนอกไม่ต้องนอน รพ. จึงทำให้จะไม่สามารถเคลมค่าชดเชยรายวันได้ ถ้ามีการระบุเงื่อนไขว่าได้เฉพาะผู้ป่วยในเท่านั้น
  • สามารถทำทุนประกันได้สูง โดยรวมเงินชดเชยรายวันทั้งหมดจะสูงได้เกิน 1 ล้านบาทขึ้นไป ด้วยเบี้ยที่น้อยกว่า แบบเจอจ่ายจบ มาก 
  • โอกาสการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์น้อยกว่า แบบเจอจ่ายจบ

3. ประกันมะเร็ง จ่ายมรดกเฉพาะเสียชีวิตจากมะเร็ง

  • มักพบเฉพาะในฝั่งประกันชีวิตในรูปแบบของอนุสัญญา ที่สามารถแนบกับสัญญาหลักประกันชีวิตในการเพิ่มความคุ้มครองว่าต้องการทุนประกันมรกดเท่าใด หากโชคร้ายจากไปเพราะมะเร็ง
  • แบบนี้เบี้ยประกันจะน้อยกว่า แบบประกันมะเร็งเจอจ่ายเงินก้อน หรือ แบบประกันชีวิตทั่วไป พอสมควร เนื่องจากมีความเสี่ยงน้อยกว่า
  • จะตอบโจทย์สำหรับผู้ป่วยมะเร็งที่โชคร้ายตรวจเจอมะเร็งในระยะประคับประคอง หรือ กลับมาเป็นซ้ำอย่างมาก ด้วยเพราะระหว่างการรักษาอาจมีภาระหนี้สิ้นเกิดขึ้นที่สามารถส่งต่อให้คนข้างหลังได้สูง

4. ประกันมะเร็ง จ่ายเฉพาะค่ารักษามะเร็ง / ประกันสุขภาพเหมาจ่ายที่ครอบคลุมมะเร็ง

  • มักพบได้ทั้งใน ประกันชีวิต และ ประกันภัย โดยจะเน้นจ่ายเฉพาะที่เคลมค่ารักษาตามจริงกับทาง รพ. ตามหมวดความคุ้มครองที่มีเท่านั้น
  • จะมีทั้งแบบวงเงินรายปีที่จำกัดยอดรวมทั้งหมด เช่น วงเงิน 5 ล้านบาทต่อปี รวมทุกปี ต้องไม่เกิน 15 ล้านบาท
  • และแบบวงเงินรายปีไม่จำกัดยอดรวมทั้งหมด อย่าง วงเงิน 5 ล้านบาทต่อปีเสมอ ไม่จำกัดยอดวงเงินรวมทั้งหมด   
  • ซึ่งแบบไม่จำกัดยอดวงเงินรวมจะมีเบี้ยประกันที่สูงกว่า และ เบี้ยเริ่มที่จะใกล้เคียงกับประกันสุขภาพเหมาจ่ายมากขึ้น
  • ดังนั้นในส่วนค่ารักษามะเร็งนี้ หากมีประกันสุขภาพที่สามารถครอบคลุมได้อยู่แล้ว ประกันมะเร็งแบบค่ารักษา จะไม่มีความจำเป็นนัก
  • ที่สำคัญหากเป็นประกันสุขภาพจะมีโอกาสเคลมผ่านทาง รพ. ได้เลย โดยที่ไม่ต้องสำรองจ่ายแบบประกันค่ารักษามะเร็ง รวมถึงให้ความคุ้มครองไปถึงเนื้องอกต่าง ๆ ที่ยังไม่ใช่มะเร็งร่วมด้วย

5. ประกันมะเร็ง ที่เลือกผสมความคุ้มครองแต่ละอย่างข้างต้น

  • มักพบได้ในฝั่งประกันภัย โดยจะเป็นแพ็คเกจที่มีความคุ้มครองข้อ 1-4 ข้างต้นมาแบบกระจายความคุ้มครอง ข้อดีคือ มีความคุ้มครองเกือบครบ ข้อจำกัด คือ บางความคุ้มครองอาจให้มาไม่ตรงความต้องการ เลือกเปลี่ยนแปลงไม่ได้ และมักคุ้มครองถึงอาย 65 ปี
  • ในขณะที่ฝั่งประกันชีวิต จะสามารถนำข้อ 1-4 ในรูปแบบของอนุสัญญามาแนบกับประกันชีวิต ได้เอง เพื่อให้ตรงกับความต้องการมากที่สุด และสามารถคุ้มครองได้นานกว่าอายุ 65 ปี อย่างไรก็ตามบางบริษัทจะมีอนุสัญญาไม่ครบตามข้อ 1-4 นี้
  • ในขณะที่บางบริษัทประกันชีวิต จะมีการจัดเป็นแพ็คเกจมาให้เรียบร้อยเหมือนกัน โดยเน้นไปที่การจ่ายค่าชดเชยเป็นหลัก ด้วยเบี้ยที่ประหยัดกว่าการประกอบร่างสัญญาโดยเลือกแนบอนุสัญญาเอง

ประกันมะเร็งที่อยู่ภายในประกันโรคร้ายแรง

6. ประกันโรคร้ายแรง เจอจ่ายจบ แบบเบี้ยไม่คงที่

  • มักพบในฝั่งประกันชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีอนุสัญญาที่คุ้มครองเจอจ่ายจบเฉพาะกับโรคมะเร็งอย่างเดียว จะมีแต่แบบพ่วงโรคร้ายแรงอื่น ๆ เข้ามาเพิ่มร่วมด้วยซึ่งทำให้ขายประกันได้ง่ายมากกว่า เพราะเห็นมีจำนวนโรคร้ายหลายโรค
  • แต่เบี้ยจะก็สูงขึ้นตามปัจจัย เช่น จำนวนโรคที่ให้ความคุ้มครอง ระยะของโรคร้ายที่คุ้มครอง เจอจ่ายจบทั้งสัญญา หรือ เจอจ่ายจบทีละกลุ่มโรค มีระยะรอคอยระหว่างกลุ่มโรคหรือไม่ เป็นแล้วหยุดจ่ายเบี้ยได้เลยหรือไม่
  • ดังนั้นยิ่งเลือกความคุ้มครองมากขึ้นเท่าใดเบี้ยก็สูงมากขึ้น โดยที่ทุนประกันได้เท่าเดิม ที่สำคัญเบี้ยประกันหลังอายุ 60 ปี จะสูงขึ้นมาก จนเบี้ยสะสมรวมทั้งหมดเกินทุนประกันที่ได้ในอีกไม่กี่ปี
  • แบบนี้จึงเน้นคุ้มครองเฉพาะวัยทำงานเป็นหลัก และเผื่อโรคร้ายแรงอื่น ๆ ที่เสี่ยงสูงรวมกับมะเร็งไปด้วย 

7. ประกันโรคร้ายแรง เจอจ่ายจบ แบบเบี้ยคงที่

  • มักพบในฝั่งประกันชีวิต ที่ให้ความคุ้มครองทั้งมะเร็งและโรคร้ายแรงความเสี่ยงเป็นสูงจำนวนโรคไม่เยอะ
  • เบี้ยประกันเริ่มต้นตอนวัยทำงานจะสูงกว่าแบบข้อที่ 6 และไม่ได้จ่ายทุกปี แต่จะจ่ายเบี้ยเพียง 20 ปีเท่านั้น แต่ได้ความคุ้มครองถึงอายุ 99 ปี
  • เบี้ยที่จ่ายไม่ได้จ่ายค่าประกันภัยอย่างเดียว แต่เบี้ยส่วนหนึ่งเสมือนเป็นการเก็บเงินไว้ในสัญญาที่เงินส่วนนี้จะทยอยเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และ สามารถไปจ่ายค่าประกันภัยจนถึงอายุ 99 ปีได้ โดยไม่ต้องจ่ายเบี้ยเพิ่มอีก
  • จึงทำประกันแบบนี้จะมีมูลค่าในสัญญา ซึ่งหากไม่ได้เป็นโรคร้ายแรง ก็สามารถยกเลิกสัญญาและได้รับเงินเวนคืนที่สะสมในสัญญาออกมาได้ โดยหากเริ่มทำช่วงอายุไม่เกิน 33-35 ปี เงินเวนคืนที่ได้มักจะเกินเบี้ยที่จ่ายไปได้
  • ทำให้แบบประกันนี้เสมือนเป็นการบังคับเก็บเงินระยะยาวแลกความคุ้มครอง

8. ประกันชีวิตควบโรคร้ายแรง แบบเบี้ยคงที่

  • มักพบในฝั่งประกันชีวิตเท่านั้น เนื่องจากจะมีการนำมูลค่าเงินที่สะสมอยู่ในสัญญาประกันชีวิตมาช่วยจ่ายค่าประกันภัยของโรคร้ายแรงที่คุ้มครองตามไปด้วย
  • เบี้ยรวมทั้งสัญญาจะค่อนข้างสูง เฉลี่ยประมาณ 70% ของทุนประกัน ขึ้นอยู่กับอายุที่เริ่มทำประกัน (ในขณะที่ข้อ 7 จะเฉลี่ยประมาณ 30% ของทุนประกัน)
  • สามารถเลือกจ่ายเบี้ยได้ตั้งแต่ 5 10 15 20 ปี โดยคุ้มครองถึงอายุ 85-99 ปี
  • ให้ความคุ้มครองโรคร้ายแรงหลายโรค หลายระยะโรค รวมถึงชีวิต
  • หากเริ่มทำประกันอายุไม่มาก มูลค่าเงินเวนคืนของประกันชีวิตที่สะสมไว้จะเกินเบี้ยที่จ่ายไปได้ทั้งหมดแน่นอน

9. ประกันชีวิตควบโรคร้ายแรง แบบเบี้ยไม่คงที่ ที่กลับมาเป็นซ้ำจะจ่ายเงินก้อนให้ซ้ำอีกครั้ง

  • มักพบในฝั่งประกันชีวิตเท่านั้น ด้วยเบี้ยประกันที่สูงกว่าข้อ 6 ถึง 2-3 เท่า จนเกิดคำถามขึ้นว่า หากทำประกันแบบข้อ 6 แยกบริษัทประกันเพิ่มแทนจะดีกว่าหรือไม่ เพราะไม่ต้องรอให้เป็นซ้ำก็ได้เงินที่สูงกว่า 2-3 เท่านี้เลย
  • เป็นแบบประกันที่เน้นการตลาดแบบเต็มตัว คุ้มครองหลายโรคร้าย หลายระยะ เจอจ่ายทีละกลุ่มโรค กลับมาเป็นโรคร้ายซ้ำจ่ายอีกครั้ง เป็นโรคร้ายแล้วหยุดชำระเบี้ยได้ ไม่เป็นโรคร้ายคุ้มครองชีวิตแทนได้
  • แบบประกันนี้จะเหมาะในสถานการณ์หากโชคร้ายเป็นโรคร้ายแรง 1 โรคในช่วงวัยทำงานที่เบี้ยยังไม่สูงมาก และคาดหวังว่าจะโชคร้ายเป็นโรคร้ายแรงอีกในวัยเกษียณ

10. ประกันชีวิตควบโรคร้ายแรง แบบเบี้ยคงที่ ที่กลับมาเป็นซ้ำจะจ่ายเงินก้อนให้ซ้ำอีกครั้ง

  • เหมือนกับข้อ 9 แต่เปลี่ยนเป็นจ่ายเบี้ยคงที่ ระยะเวลาแบบ 10 ปี หรือแบบ 20 ปี คุ้มครองถึงอายุ 99 ปี
  • ซึ่งเบี้ยรวมทั้งสัญญาจะเกินทุนประกันที่ได้เสมอ (แต่มูลค่าเวนคืนในสัญญาก็สูงมากเช่นกัน)
  • ทำให้แบบนี้จะคุ้มเมื่อเป็นโรคร้ายแรง 2 กลุ่มโรคขึ้นไป หรือ กลับมาเป็นมะเร็งซ้ำอีกครั้ง โดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องรีบเป็นในวัยทำงาน 1 โรคร้ายให้ได้เท่านั้น
  • แบบประกันนี้จึงเสมือนบังคับเก็บเงินเท่ากับความคุ้มครองที่จะได้ต่อ 1 โรค แต่หากโชคร้ายเป็นมากกว่า 1 โรค หรือกลับมาเป็นมะเร็งซ้ำ บริษัทประกันก็จะคุ้มครองส่วนนี้ให้

สรุปควรเลือกแบบใดดี

กรณี : ไม่ต้องการทำประกันใด ๆ เพิ่มความคุ้มครองในภายหลัง

  • แบบนี้เลือกข้อ 5 ที่มีการจัดแพ็คเกจไว้เรียบร้อยภายในสัญญาเดียว จะเป็นทางออกที่น่าสนใจที่สุด โดยไม่ต้องกังวลว่าความคุ้มครองจะซ้ำซ้อนกับสัญญาใดอีก

กรณี : ปัจจุบันยังมีงบไม่มาก ต้องการทุนประกันสูง

  • โดยปกติเบี้ยทั้งหมดของประกันที่เน้นเรื่องความคุ้มครอง ไม่ควรจะเกินเงินเดือน 2 เดือน (หากได้โบนัส 2 เดือน จะเสมือนใช้โบนัสจ่ายเบี้ยประกัน)
  • และหากปัจจุบันกำลังอยู่ในวัยสร้างตัว ต้องการที่จะเน้นความคุ้มครองสูงช่วงวัยทำงานนี้ก่อนเป็นสำคัญ
  • แบบประกันข้อ 1-3 เจอจ่าย จ่ายชดเชย จ่ายมรดก กับข้อ 6 ที่เป็นเจอจ่ายจบ แบบเบี้ยไม่คงที่จะน่าสนใจ ซึ่งสามารถจ่ายเบี้ยที่น้อย แต่ได้ทุนประกันที่สูงมากได้
  • ซึ่งถ้าหากยังมีงบเหลือ การพิจารณาทำประกันข้อ 2 ประกันค่ารักษามะเร็ง หรือ ประกันสุขภาพเหมาจ่าย จะเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำพร้อมกัน หรือ ทำต่อมาโดยเร็ว
  • จากนั้นเมื่อเจริญเติบโตในหน้าที่การงาน จึงควรพิจารณาประกันมะเร็งเจอจ่ายจบเบี้ยคงที่ หรือ ประกันโรคร้ายแรงแบบเบี้ยคงที่เพิ่ม เพื่อที่จะได้มีความคุ้มครองหลังอายุ 60 ปีไปแล้วได้

กรณี : ไม่มีปัญหาเรื่องงบประมาณ

  • กรณีนี้จะทำตรงกันข้ามกับแบบที่มีงบประมาณน้อย โดยจะเน้นที่ประกันแบบเบี้ยคงที่ก่อน เพื่อให้ได้ความคุ้มครองตลอดชีพในเบี้ยรวมที่ประหยัดที่สุดได้
  • จากนั้นจึงค่อยเสริมด้วยประกันสุขภาพเหมาจ่าย และ ประกันโรคร้ายแรงเจอจ่ายจบเบี้ยไม่คงที่เพื่อเพิ่มความคุ้มครองในวัยทำงาน
  • สุดท้ายจึงเน้นเพิ่มความคุ้มครองที่เจาะจงเฉพาะประกันมะเร็งโดยตรงทั้งข้อ 1-3  เพื่อเสริมความคุ้มครองในวัยทำงาน โดยเมื่อเลยวัยทำงานไปแล้วอาจปรับให้ส่วนนี้เหลือเฉพาะค่าชดเชยรายวันจากมะเร็ง และหรือ เสียชีวิตจากมะเร็ง ต่อไปได้

กรณี : เลือกประกันจาก BLA

  • BLA จะมีประกันมะเร็งแบบแพ็คเกจทั้งแบบเบี้ยไม่คงที่ และแบบเบี้ยคงที่
  • และ BLA จะมีทั้งประกันโรคร้ายแรงเจอจ่ายจบทีละกลุ่มโรคแบบเบี้ยไม่คงที่ และประกันโรคร้ายแรงที่เสี่ยงเป็นสูงแบบเบี้ยคงที่
  • แต่ BLA จะไม่มีแบบประกันชีวิตควบโรคร้ายแรงที่เบี้ยประกันอาจสูงเกินความคุ้มครองที่ได้ เมื่อเทียบกับการแยกประกันชีวิตออกมาจากประกันโรคร้ายแรง 
  • จึงทำให้สามารถใช้ประกันของ BLA ในการวางแผนความคุ้มครองได้ทั้งแบบกรณีที่มี งบจำกัด และงบไม่จำกัด ดังที่กล่าวมาได้
  • ซึ่งจะมีรายละเอียดแบบประกันคุ้มครองมะเร็งของ BLA ทั้งหมดดังบทความต่อไปนี้

เกี่ยวกับผู้เขียน

  • แอนนี่ค่ะ2

    จากประสบการณ์ที่ผ่านมาในชีวิตการทำงานทั้งหมดของแอนนี่ในสายงาน CRM ได้พบว่า ความไม่รู้ เป็นศัตรูที่แพงอย่างมากในโลกของการเงิน ซึ่งในหลายครั้งกว่าจะรู้และเข้าใจก็อาจจะสายไปแล้ว และนี้คือสาเหตุใหญ่ที่ทางเรา จะแก้ไขปัญหานี้ให้ได้ โดยให้ความรู้ทางการเงินที่ดีและเหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา รวมถึงการป้องกันไม่ให้ถูกเอาเปรียบจากความไม่รู้นี้ ผ่านเว็บไซต์ Release your Risk ที่ต้องการให้ทุกคนได้ปล่อยความเสี่ยงที่ตนเองถือไว้อยู่ ผ่านเครื่องมือทางการเงินด้วยความเข้าใจ และมีประสิทธิภาพสูงสุดค่ะ

>
Scroll to Top

เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งาน ซึ่งสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ตกลงทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึก