4 สาเหตุทำให้ออมยังไงไม่มีทางรวย
1. ขาดการวางแผนการใช้จ่าย
อุปสรรค์ที่ทำให้การออมเงินไม่ได้ผล คือ มีความไม่แน่นอนในระบบการใช้จ่าย ด้วยเพราะมองภาพรวมไม่ครบ มองเพียงระยะสั้นเดือนต่อเดือน ไม่ได้ทำงบจำลองรายได้และการใช้จ่ายให้ครบอย่างน้อย 1 ปี จนเกิดความประมาท
และต้องตกใจทุกครั้งที่อยู่ ๆ มีค่าใช้จ่ายราย 1-3 ปี หรือ ราย 3 ปี หรือ ค่าใช้จ่ายจากเหตุร้าย หรือ จากภาษี ที่ลืมนึกไปโผล่ออกมาเอาเงินออมไปทั้งหมด
ที่สำคัญการออมมักขาดเป้าหมายว่าออมไปเพื่ออะไร ขาดการแบ่งประเภทเป้าหมายว่า ออมส่วนนี้เพื่อรองรับค่าอะไร ออมส่วนนี้เพื่อความต้องการอะไร
เงินออมจึงมักหายไปโดยไม่รู้ตัวด้วยกับความประมาท ซ้ำร้ายยังอาจก่อหนี้ก้อนใหญ่ตามมาด้วย
2. เริ่มออมเงินช้าเกินไป
การผัดวันประกันพรุ่ง (procrastination) คือ ความประมาทที่ผิดพลาดอย่างมาก โดยหลายคนมักมีข้ออ้างในการทำให้ออมเงินช้ามากมาย เช่น รายได้น้อยไม่พอที่จะออม หรือ ใกล้เกษียณค่อยเริ่มออม เป็นต้น
และความประมาทนี้เอง จึงทำให้ลืมไปว่าร่างกายไม่สามารถหาเงินที่ต้องใช้แรงกายแรงใจที่มากเหมือนเดิมได้ตลอดไป จึงขาดการวางแผนหาทางออกที่จะทำให้เงินออมที่น้อย มีระยะเวลาได้เติบโตเป็นเงินออมก่อนใหญ่ที่เพียงพอ
โดยกว่าจะเริ่มออมเงินก็มักจะอายุมากไปแล้ว เงินที่ออมจึงไม่มีเวลาได้เติบโตที่มากพอ และไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในอนาคตโดยเฉพาะตอนเกษียณ ส่งผลเสียให้ยังต้องทำงานหนักต่อไปไม่สามารถหยุดพักได้ แม้จะอายุมากแล้วก็ตาม
3. เลือกใช้เครื่องมือการเงินผิดลำดับ
เริ่มออมเงินใช้ยามเกษียณเร็ว แต่มีความระมัดระวังสูง ไม่ได้ศึกษาเครื่องมือการเงินต่าง ๆ ไม่ได้ใช้ Leverage ของเครื่องมือการเงินใด ๆ ที่ทำให้เงินน้อยกลายเป็นเงินก้อนใหญ่ที่เหมาะสมได้
สุดท้ายเงินออมทั้งหมด มักถูกฝากที่ธนาคาร หรือ อยู่ในสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำ ที่ผลตอบแทนน้อย และโดนภาษี กับ เงินเฟ้อ กัดกินไปเรื่อย ๆ ทำให้เงินไม่เติบโตและเหลือใช้ได้เพียงพอตอนเกษียณ (หรือหากโชคร้ายอาจถูกมิจฉาชีพดูดเงินจากบัญชีไปทั้งหมดได้)
ดังนั้นการศึกษาลำดับการเลือกใช้เครื่องมือการเงินจึงสำคัญมาก เพราะจากที่ต้องจัดเตรียมเงิน 10 ล้าน เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายบางอย่าง แต่หากเลือกเครื่องมือการเงินได้ถูก จะช่วยให้เตรียมเงินเหลือเพียง 3-4 ล้านบาทเท่านั้น รวมถึงยังได้เงินคืนภาษีอีกด้วย
4. ติดกับดักธนาคารและการตลาด
หากรู้ตัวว่าใช้เงินเกินความพอดี ให้รู้ไว้ว่าชีวิตจะเริ่มแย่ เงินออมจะเริ่มทยอยหายไปจนหมด และสุดท้ายจะติดกับดักธนาคารและการตลาดที่ส่งเสริมความอยากได้จนต้องนำเงินในอนาคตมาใช้ก่อน
ซึ่งธนาคารได้วางกับดักเป็นขั้นเป็นตอนไว้เรียบร้อย เริ่มตั้งแต่ทำบัตรเครดิตง่าย ผ่อนดอกเบี้ย 0% โดยหากผ่อนไม่ไหว จะตามมาด้วยการจ่ายขั้นต่ำเอาดอกเบี้ยสูง จนกระทั่งจ่ายขั้นต่ำไม่ถึงชั่วโมงแล้วกดเงินสดออกมาใช้ได้ในทันที (จนเงินที่จ่ายไปไม่เข้าเงินต้นเลย มีแต่ดอกเบี้ยสูงทบมากขึ้นเรื่อย ๆ )
ดังนั้นในยุคที่ธุรกิจธนาคารขาดธรรมาภิบาลนี้ การไม่แยกความต้องการหรือค่าใช้จ่ายออกเป็น NEEDs (จำเป็นขาดไม่ได้ แต่มีขอบเขตชัดเจน) กับ WANTs (เพิ่มความสะดวก เพื่อบันเทิง แต่ไม่มีขอบเขตชัดเจนมีเท่าไรหมดเท่านั้น) จึงอันตรายอย่างมาก
ออมเพื่อ 'รวย' หรือ 'มั่งคั่ง'
เงินเก็บสักก้อนหนึ่งสามารถสร้างความสบายใจให้กับคุณได้อย่างมาก การออมเงินไม่ใช่เรื่องไกลตัว จึงไม่ควรประมาทและเริ่มแก้ไข 4 สาเหตุนี้อย่างจริงจังในทันทีดีกว่าปล่อยให้เวลาผ่านไปจนสายเกินกว่าจะแก้ได้
เพราะเพียงเริ่มและเขียนจำลองรายได้และค่าใช้จ่าย ราย 1-3 ปีออกมา รวมถึงรายจ่ายจากเหตุร้ายที่คาดไม่ถึงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้
คุณจะเริ่มเปลี่ยนจากคำว่า 'รวย' เป็นคำว่า 'มั่งคั่ง' ในทันที เพราะคำว่า 'รวย' คุณไม่รู้ว่าต้องมีเงินมากเท่าไร ไม่มีเป้าหมาย ไม่รู้ค่าใช้จ่าย เพียงแต่รู้สึกว่ามีเงินมากพอ ที่อยากจะซื้ออะไรก็ได้ในตอนนั้นเท่านั้น (แต่อนาคตจะเกิดอะไรขึ้นไม่สามารถทราบได้ และกับดักบัตรเครดิตเปิดรอรับไว้เสมอ)
ในขณะที่คำว่า 'มั่งคั่ง' เป็นสิ่งที่เรียบง่ายกว่ามาก เพราะเพียงขอให้รายได้มากกว่ารายจ่ายเท่านั้น นั้นหมายความขอเพียงคุณทราบถึงค่าใช้จ่ายที่จำเป็นจริง ๆ ที่ควรมี ที่ควรรองรับเหตุร้าย และคุณมีรายได้มากกว่าค่าใช้จ่ายเหล่านี้ได้ คุณก็ได้ชื่อว่ามีความมั่งคั่งแล้ว
แน่นอนว่าฟังดูเบื้องต้นแล้ว เหมือนจะเป็นเรื่องยาก แต่อย่างน้อย 'มั่งคั่ง' ช่วยกำหนดขอบเขตของเงินที่ต้องหา ในขณะที่ 'รวย' ไม่ได้กำหนดขอบเขตใด ๆ เลยและเป็นเรื่องยากกว่ามาก
ที่สำคัญแต่ละเป้าหมายหรือค่าใช้จ่ายที่เริ่มตั้งไว้ จะมีเครื่องมือการเงินที่ตรงกับเป้าหมายหรือค่าใช้จ่ายนั้นอยู่ และถ้าหากคุณเข้าใจ และเลือกใช้ได้ถูกต้องและเร็วพอ เครื่องมือการเงินเหล่านี้จะช่วยให้คุณออมเงินน้อยลงถึงกว่า 70%-80% หรือหลายล้านบาทเลยทีเดียว
ดังนั้นหากคุณสามารถเริ่มที่จะเคลียร์สาเหตุออมยังก็ไม่รวย ข้อ 1 กับ ข้อ 2 และ ป้องกันตัวเองจากข้อ 4 ได้แล้ว การเริ่มศึกษาเครื่องมือการเงิน เพื่อแก้ไขสาเหตุข้อ 3 จึงควรรีบทำโดยเร็วที่สุดเช่นกัน ซึ่งทางเราได้ทำสรุปเบื้องต้นไว้แล้วในบทความด้านล่างนี้