BLUEPRINT :
การเลือกใช้เครื่องมือการเงินแต่ละช่วงอายุ

เพื่อตัวอย่าง ประกอบการเลือกใช้เครื่องมือการเงินแต่ละช่วงอายุ เมื่อเข้าใจในเครื่องมือการเงินลดหย่อนภาษีเป็นอย่างดี

เครื่องมือการเงินที่เลือกใช้ตอนอายุ 0 - 10 ปี [พ่อแม่ดูแล]

กรมธรรม์ที่ 1 : ประกันมรดก + ประกันโรคร้ายแรงเบี้ยคงที่ + ประกันสุขภาพเด็ก + ประกันค่ารักษาอุบัติเหตุ + ประกันชั่วเวลาผู้ชำระเบี้ยหรือคุ้มครองผู้ชำระเบี้ยจนลูกอายุ 20 ปี

พอร์ตลงทุนที่ 1 :  กองทุนรวมหรือประกันออมทรัพย์วางแผนทุนการศึกษา ประถม มัธยม มหาวิทยาลัย

ชีวิต/มรดก

โรคร้ายแรง

ค่ารักษา

ชีวิตผู้ชำระเบี้ย

Salepage life insure 20

เครื่องมือการเงินที่แนะนำ

ประกันชีวิต 
สัญญาหลักกำหนดระยะเวลาของสัญญา

สามารถเลือกได้ 2 รูปแบบ ขึ้นอยู่กับกำลังทรัพย์ในการออม โดยช่วงอายุนี้จะเป็นช่วงอายุที่ออมสำหรับให้เป็นเงินส่งต่อให้คนข้างหลัง หรือ เงินกู้ยืมฉุกเฉินดอกเบี้ยต่ำ ด้วยเบี้ยที่ประหยัดที่สุด

  • ประกันมรดก
    • เน้นทุนชีวิตสูง คุ้มครองตลอดชีวิตลูก และออมเพื่อลูกสามารถกู้ยืมกรมธรรม์ตนเองในยามฉุกเฉินหลังเรียนจบได้
    • ตัวอย่าง : BLA Prestige Life 99/5 ทุน 5 ล้านบาท 
      • เบี้ยชาย อายุ 0-5 ปี : 1.13 - 1.35 แสนบาทต่อปี 5 ปี รวม 5.65 - 6.75 แสนบาท ( 1 ใน 10 ของทุนชีวิต)
      • เบี้ยหญิง อายุ 0-5 ปี : 0.92 - 1.13 แสนบาทต่อปี 5 ปี รวม 4.6 -  5.65 แสนบาท ( 1 ใน 10 ของทุนชีวิต)
  • ประกันชีวิตตลอดชีพปกติ
    • ยังไม่เน้นทุนชีวิตสูง จะใช้เพียงเป็นสัญญาหลักให้กับสัญญาเพิ่มเติมแนบเท่านั้น
    • ตัวอย่าง : BLA ตลอดชีพสุดคุ้ม ทุน 1 แสนบาท (แนะนำทุนชีวิต 2-3 แสนบาท)
      • เบี้ยชาย อายุ 0-5 ปี : 1,284 - 1,361 บาทต่อปี 20 ปี รวม 25,680 - 27,220 บาท ( 2 ใน 10 ของทุนชีวิต)
      • เบี้ยหญิง อายุ 0-5 ปี : 1,153 - 1,187 บาทต่อปี 20 ปี รวม 23,060 - 23,740 บาท ( 2 ใน 10 ของทุนชีวิต)

ประกันโรคร้ายแรง
สัญญาเพิ่มเติมแนบกับสัญญาหลัก

  • แบบเบี้ยคงที่ มีมูลค่าสะสมในกรมธรรม์
    • เน้นทุนโรคร้ายแรง คุ้มครองตลอดชีวิตลูก และออมเพื่อลูกสามารถกู้ยืมกรมธรรม์ตนเองในยามฉุกเฉินหลังเรียนจบได้ โดยเป็นช่วงเวลาที่จะได้ประกันโรคร้ายเบี้ยคงที่ที่ประหยัดเบี้ยมากที่สุดได้
    • ทั้งยังสามารถใช้เสริมประกันสุขภาพเด็กที่ไม่ใช่แบบเหมาจ่ายได้ โดยเฉพาะในส่วนของโรคมะเร็ง
    • ตัวอย่าง : BLA Happy CI 99/20 ทุน 5 ล้านบาท 
      • เบี้ยชาย อายุ 0-5 ปี : 56,800 - 62,350 บาทต่อปี 20 ปี รวม 1.14 - 1.25 ล้านบาท ( 1 ใน 5 ของทุนโรคร้าย)
      • เบี้ยหญิง อายุ 0-5 ปี : 66,350 - 72,400 บาทต่อปี 20 ปี รวม 1.33 -  1.45 ล้านบาท ( 1 ใน 5 ของทุนโรคร้าย)

ประกันสุขภาพเด็ก + เงินสำรองฉุกเฉิน
สัญญาเพิ่มเติมแนบกับสัญญาหลัก

หากงบประกันสุขภาพเด็กไม่เกิน 50,000 บ. และค่าห้องอยู่ที่ 4,000 ในปัจจุบันจะได้ประกันสุขภาพแบบมีวงเงินแยกตามหมวดคุ้มครอง และเป็นแบบมีรับผิดส่วนแรก รวมถึงอาจต้องเตรียมใจในการจ่ายส่วนต่างบางอย่างรวมด้วย ทั้งหมดนี้จึงทำให้การทำประกันสุขภาพเด็กจำเป็นต้องมีเงินเก็บสำรองฉุกเฉินร่วมด้วยเสมอ

  • แบบแยกวงเงินค่ารักษาตามหมวด เบี้ยเพิ่มตามอายุ และมีรับผิดส่วนแรก
    • เน้นบรรเทาค่ารักษากรณีต้องแอดมิต
    • ควรเตรียมเงินสำรองฉุกเฉินไว้อย่างน้อย 200,000 บ. กรณีต้องสำรองจ่ายเพราะมีการสืบประวัติ
    • เพื่อลดโอกาสการถูกสืบประวัติควรส่งประวัติการรักษาทั้งหมดของลูก บันทึกสุขภาพแม่และเด็ก (กรณีลูกอายุ 0-2 ปี) ไปตั้งแต่ตอนยื่นขอทำประกัน
    • ตัวอย่าง : BLA Value Health Kid แผน 4,000 รับผิด 5,000  
      • เบี้ยชาย อายุ 0-5 ปี : 45,648 บาทต่อปี 228,240 322,300
      • เบี้ยหญิง อายุ 0-5 ปี : 45,648 บาทต่อปี

ประกันค่ารักษาอุบัติเหตุ OPD
สัญญาเพิ่มเติมแนบกับสัญญาหลัก

ประกันสุขภาพเด็กมักมีข้อจำกัดในส่วนวงเงินการรักษาแบบ OPD ผู้ป่วยนอก และการ Follow up ติดตามอาการแบบ OPD จึงทำให้การเพิ่มความคุ้มครองค่ารักษาอุบัติเหตุ OPD เพิ่มเติม จะสามารถช่วยเสริมประกันสุขภาพเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • แบบวงเงินค่ารักษา 100,000 บ. ต่ออุบัติเหตุ ติดตามอาการ 1 ปี หรือจนกว่าวงเงินจะหมด 
    • ตัวอย่าง : BLA อบ.3  
      • เบี้ยชาย อายุ 0-5 ปี : 2,683 บาทต่อปี 
      • เบี้ยหญิง อายุ 0-5 ปี : 2,683 บาทต่อปี

ประกันชั่วเวลาผู้ชำระเบี้ย
สัญญาเพิ่มเติมแนบกับสัญญาหลัก

จะเห็นได้ว่าทุกประกันมีหน้าที่สำคัญสำหรับการดูแลคุ้มครองลูกน้อยไปตลอดกว่า 10 ปีขึ้นไป ดังนั้นหากโชคร้ายผู้ปกครองต้องจากไปก่อน การที่ลูกยังคงความคุ้มครองส่วนนี้ไว้ได้จึงเป็นเรื่องสำคัญ

การทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองเบี้ยประกันทั้งหมดของลูกจึงสำคัญ ซึ่งสามารถทำได้ทั้งในรูปแบบสัญญาเพิ่มเติม และทำประกันชีวิตของ ผู้ปกครองผู้ชำระเบี้ยหรือผู้หารายได้หลัก แยกออกมาเป็นอีก 1 กรมธรรม์ 

  • เน้นคุ้มครองเบี้ยประกันทั้งหมดของลูก 18 ปี หรือจนลูกอายุ 21 ปี หากผู้ปกครองจากไป 
    • สัญญาคุ้มครองการชำระเบี้ยผู้ปกครอง (คช.) (BLA Prestige Life ไม่สามารถทำได้)  
      • เบี้ยผู้ปกครองชาย อายุ 30 ปี : ประมาณ 6,000 บาทต่อปี จนลูกอายุครบ 21 ปี (เบี้ย คช. เปลี่ยนแปลงตามเบี้ยรวมปีต่ออายุ โดยหากเบี้ยรวมลดลง เบี้ย คช. จะลดลงตาม)
      • เบี้ยผู้ปกครองหญิง อายุ 30 ปี : ประมาณ 2,000 บาทต่อปี จนลูกอายุครบ 21 ปี
    • สัญญาเพิ่มเติมเฉพาะกาล (กรณี BLA Prestige Life ผู้ปกครองสามารถทำประกันชีวิตชั่วเวลาแยกในกรมธรรม์ที่ตนมี เช่น  ทำประกันชีวิตคุ้มครองชั่วเวลา 18 ปี ที่ทุนชีวิตประมาณ 2.5 ล้านบาท ซึ่งเป็นเบี้ยรวมทั้งหมดประกันที่แนะนำหากเลือก Prestige Life) 
      • เบี้ยผู้ปกครองชาย อายุ 30 ปี : ประมาณ 10,000 บาทต่อปี คุ้มครอง 18 ปี (เบี้ยจะสูงกว่า คช. เนื่องด้วยค่าเบี้ยทุนชีวิต 5 ล้านบาทของ Prestige Life ทั้งนี้เมื่อเวลาผ่านไปแล้วจำนวนเบี้ยที่คุ้มครองลดลง จะสามารถปรับลดทุนชีวิตเพื่อประหยัดเบี้ยลงได้)
      • เบี้ยผู้ปกครองหญิง อายุ 30 ปี : ประมาณ 6,000 บาทต่อปี คุ้มครอง 18 ปี

พอร์ตลงทุนที่ 1 
ทุนการศึกษา

  • ในพอร์ตนี้จะสามารถประกอบด้วยทั้งกองทุนรวม และ ประกันออมทรัพย์ (ประกันสะสมทรัพย์)
  • โดยทั้ง 2 แบบจะมีความคล้ายคลึงกันตรงที่ตรงทราบเวลาชัดเจนที่จะใช้ทุนการศึกษานี้ เพื่อเลือกความเสี่ยงของกองทุนรวม หรือ เลือกประกันออมทรัพย์ ที่เหมาะสมกับระยะเวลาที่ต้องใช้เงินได้
  • ทั้งนี้ความแตกต่างระหว่างกองทุนรวมกับประกันออมทรัพย์อยู่ตรงที่วิธีการจัดการ
    • โดยประกันออมทรัพย์จะบังคับการออมให้เป็นรายจ่ายที่คงที่ชัดเจน และสัญญาชัดเจนว่าจะให้เงินเท่าใดเป็นสัญญา
    • ในขณะที่กองทุนรวมจะไม่ได้บังคับ แต่อาจใช้กลไก DCA ช่วยได้ รวมถึงจำเป็นต้องเลือกกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงลดลงโดยเฉพาะเมื่อใกล้เวลาที่จะต้องใช้เงินอีก 3-5 ปี เพื่อป้องกันโอกาสขาดทุนแต่จำเป็นต้องขายออกมาจ่ายเป็นค่าเทอมแล้ว
    • ดังนั้น ประกันออมทรัพย์ จะจัดการได้ง่ายกว่า กองทุนรวม แต่กองทุนรวมก็จะมีอิสระและมีโอกาสได้ผลตอบแทนที่มากกว่า ประกันออมทรัพย์ ได้ การเลือกจึงขึ้นอยู่กับความถนัดและเวลาที่มีผู้ใช้เครื่องมือการเงิน 

สรุปเครื่องมือการเงิน

คำถามสำคัญ 5 release your risk

กรมธรรม์ที่ 1 :
ตั้งต้นเตรียมพร้อมให้ลูก

BLA Prestige Life 99/5  ทุน 5+ ล้าน หรือ
BLA ตลอดชีพสุดคุ้ม 99/20 ทุน 1-5 แสน

+ BLA Happy CI ทุน 1,000,000 - 5,000,000

+ BLA Value Health Kid แผน 4,000 รับผิด 5,000

+ ค่ารักษาอุบัติเหตุ OPD ทุน 100,000

+ เฉพาะกาลผู้ปกครอง 18 ปี ทุนครอบคลุมเบี้ยทั้งหมด หรือ คุ้มครองชำระเบี้ยผู้ปกครองถึงบุตรอายุ 21 ปี

พอร์ตลงทุนที่ 1 :
ทุนการศึกษา

ใช้ในอีก 4-5 ปี : BCAP-GW25 / ประกันออมทรัพย์

ใช้ในอีก 9-12 ปี : BCAP-GW75  / ประกันออมทรัพย์

ใช้ในอีก 15-18 ปี : BCAP-GW90  / ประกันออมทรัพย์

สรุป : ช่วงอายุนี้ เป็นช่วงอายุที่การเลือกใช้เครื่องมือการเงินอย่าง ประกันชีวิต ประกันโรคร้ายเบี้ยคงที่ จะได้เปรียบมากที่สุด และจะเป็นการบังคับออมให้ลูกร่วมกับผลประโยชน์ความคุ้มครองที่ได้ค่อนข้างสูงมาก เพียงแต่อาจต้องคำนึงถึงเบี้ยความคุ้มครองด้านสุขภาพ เบี้ยประกันชั่วเวลาคุ้มครองการชำระเบี้ย ทุนการศึกษา ให้เรียบร้อย ก่อนตัดสินใจว่าควรจะเลือกประกันชีวิตรูปแบบใด หรือสามารถเลือกประกันโรคร้ายที่ทุนสูงสุดที่ 5 ล้านบาท ได้หรือไม่ 

หมายเหตุ : แต่ละบริษัทประกันจะมีประกันสุขภาพเด็กที่แตกต่างกันไป ดังนั้นอาจทำการแยกออกมาเป็น 2 กรมธรรม์ได้ โดยกรมธรรม์หนึ่งเป็นเน้นประกันสุขภาพเด็กที่ชื่นชอบ และอีกกรมธรรม์หนึ่งเน้นประกันชีวิตกับประกันโรคร้ายแรงเบี้ยคงที่ที่ชื่นชอบ โดยไม่จำเป็นต้องทำรวมกันอยู่ในกรมธรรม์เดียวของบริษัทเดียวได้

เครื่องมือการเงินที่เลือกใช้ตอนอายุ 11-22 ปี 
[พ่อแม่ดูแล]

กรมธรรม์ที่ 2 : ประกันชีวิตตลอดชีพ + ประกันสุขภาพเหมาจ่าย + ประกันค่ารักษาอุบัติเหตุ + ประกันชั่วเวลาผู้ชำระเบี้ยหรือคุ้มครองผู้ชำระเบี้ยจนลูกอายุ 20 ปี

กรมธรรม์ที่ 1 : ประกันมรดก✅ + ประกันโรคร้ายแรงเบี้ยคงที่ + ประกันสุขภาพเด็ก + ประกันค่ารักษาอุบัติเหตุ + ประกันชั่วเวลาผู้ชำระเบี้ยหรือคุ้มครองผู้ชำระเบี้ยจนลูกอายุ 20 ปี

พอร์ตลงทุนที่ 1 :  กองทุนรวมวางแผนทุนการศึกษา

ชีวิต/มรดก

โรคร้ายแรง

ค่ารักษา

ชีวิตผู้ชำระเบี้ย


Salepage life insure 22

เครื่องมือการเงินที่แนะนำ

จะคล้ายกับกรมธรรม์ที่ 1 เพียงแต่จะยกเลิกประกันสุขภาพเด็ก และทำการเพิ่มประกันสุขภาพเหมาจ่ายความคุ้มครองสูงเข้ามาในกรมธรรม์ที่ 2 แทนรวมถึงอาจเพิ่มความคุ้มครองโรคร้ายแรงเพิ่มขึ้นด้วยประกันโรคร้ายเบี้ยเพิ่มตามอายุได้

ทั้งนี้หากยังไม่เคยมีกรมธรรม์ที่ 1 มาก่อน จะสามารถพิจารณาเริ่มทำตามแบบกรมธรรม์ที่ 1 ในส่วนของประกันชีวิตและประกันโรคร้ายแรงให้มารวมอยู่ในกรมธรรม์แรกที่เริ่มทำตอนอายุช่วงนี้ได้ 

ประกันชีวิต 
สัญญาหลักกำหนดระยะเวลาของสัญญา

หากยังไม่ได้ทำประกันมรดกตั้งแต่อายุ 0-10 จะทำให้ในช่วงอายุนี้ จะเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่จะสามารถทำประกันมรดกได้ด้วยเบี้ยที่ยังเพิ่มสูงไม่มากนัก หรือยังคงสามารถใช้ประกันชีวิตตลอดชีพได้ ทั้งนี้สามารถพิจารณาตามกำลังการออมต่อไป

ประกันโรคร้ายแรง
สัญญาเพิ่มเติมแนบกับสัญญาหลัก

หากยังไม่มี ประกันโรคร้ายแรงเบี้ยคงที่ ช่วงอายุ 11-22 นี้จะสามารถทำได้ด้วยเบี้ยที่ยังไม่สูงมาก แต่หากมีประกันโรคร้ายแรงเบี้ยคงที่แล้วโดยที่ทุนโรคร้ายแรงยังไม่เกิน 5 ล้านบาท จะสามารถทำทุนโรคร้ายแรงที่สูงมากขึ้นอีกได้

ประกันสุขภาพเหมาจ่าย + เงินสำรองฉุกเฉิน
สัญญาเพิ่มเติมแนบกับสัญญาหลัก

เมื่ออายุ 11 ปีขึ้นไป จะเป็นอายุที่สามารถทำประกันสุขภาพเหมาจ่ายที่ให้ความคุ้มครองสูงมากได้แล้ว จึงเป็นอายุที่ควรเริ่มทำประกันสุขภาพเหมาจ่ายนี้โดยเร็วก่อนที่จะมีประวัติการรักษาใด ๆ เพิ่มขึ้นมา

ทั้งนี้ด้วยความเสี่ยงด้านสุขภาพที่ยังไม่สูงมาก การเลือกแบบประกันสุขภาพเหมาจ่ายที่มีรับผิดส่วนแรกพร้อมเตรียมเงินสำรองฉุกเฉินไว้เอง จะสามารถช่วยลดเบี้ยประกันได้ในระดับหนึ่ง แต่ควรเป็นแบบประกันที่สามารถเอารับผิดส่วนแรกออกภายหลังได้เมื่ออายุมากขึ้นและเสี่ยงมากขึ้น โดยไม่ต้องมีการพิจารณาใหม่และนับระยะรอคอยใหม่ใด ๆ

ประกันค่ารักษาอุบัติเหตุ OPD
สัญญาเพิ่มเติมแนบกับสัญญาหลัก

ค่ารักษาอุบัตเหตุแบบ OPD ยังคงมีความจำเป็น โดยสามารถเก็บสัญญานี้ไว้ในกรมธรรมืที่ 1 เหมือนเดิมได้ หรือจะยกเลิกของกรมธรรม์ที่ 1 และย้ายมาทำในกรมธรรม์ที่ 2 ก็ได้เช่นกัน เพื่อทำให้กรมธรรม์ที่ 2 จะเน้นเรื่องค่ารักษาเป็นหลัก

ประกันชั่วเวลาผู้ชำระเบี้ย
สัญญาเพิ่มเติมแนบกับสัญญาหลัก

ในกรมธรรม์ที่ 2 ที่ทำเพิ่มขึ้นมา (หรือ กรมธรรม์แรกหากเพิ่งเริ่มทำประกันตอนอายุช่วงนี้) โดยเฉพาะทำตอนอายุไม่เกิน 15 ปี จะควรต้องทำสัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองชำระเบี้ยผู้ปกครอง เพื่อป้องกันความเสี่ยงหากผู้ปกครองที่เป็นผู้ชำระเบี้ยโชคร้ายจากไปก่อน แต่กรมธรรม์ของลูกก็ยังสามารถทำงานต่อไปได้จนลูกอายุ 20 ปี 

พอร์ตลงทุนที่ 1 
ทุนการศึกษา

ส่วนนี้จะเป็นการออมต่อเนื่องกับ การนำออกมาใช้ตามกำหนดเวลาที่วางแผนไว้

สรุปเครื่องมือการเงิน

ครอบครัววางแผนการเงินและภาษี 1 release your risk

กรมธรรม์ที่ 1+2 :
ค่ารักษาเป็นหลัก

BLA Prestige Life 99/5  ทุน 5+ ล้าน หรือ
BLA ตลอดชีพสุดคุ้ม 99/20 ทุน 1-5 แสน

+ BLA Prestige Health Unlock 30 ล้าน รับผิด 5 หมื่น

+ BLA Happy CI 1-5 ล้าน

+ ค่ารักษาอุบัติเหตุ OPD ทุน 100,000 (หากยังไม่มี)

+ คุ้มครองชำระเบี้ยผู้ปกครองถึงบุตรอายุ 20 ปี

พอร์ตลงทุนที่ 1 :
ทุนการศึกษาต่อเนื่อง

ใช้ในอีก 4-5 ปี : BCAP-GW25 / ประกันออมทรัพย์

ใช้ในอีก 9-12 ปี : BCAP-GW75  / ประกันออมทรัพย์

ใช้ในอีก 15-18 ปี : BCAP-GW90  / ประกันออมทรัพย์

สรุป : เป็นอีกช่วงอายุสำคัญที่พ่อกับแม่จะสามารถทำสวัสดิการที่ดีที่สุดให้กับลูกได้ ไม่ว่าจะเป็นประกันสุขภาพเหมาจ่ายคุ้มครองสูง หรือ ประกันโรคร้ายเบี้ยคงที่ที่เบี้ยประหยัดอย่างมาก หรือ ประกันชีวิตมรดกที่เบี้ยประหยัดมากได้

หมายเหตุ : ประกันสุขภาพเหมาจ่ายคุ้มครองสูงจะสามารถรับทำประกันและคุ้มครองได้แบบ 100% นั้น ก็ต่อเมื่อไม่มีโรคที่ยังรักษาไม่หายขาดก่อนทำประกันเท่านั้น ซึ่งช่วงอายุ 11-22 ปีนี้ เป็นช่วงอายุ Golden Time ที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมาก่อนน้อยที่สุด  

เครื่องมือการเงินที่เลือกใช้ตอนอายุ 23-35 ปี 
[ลูกดูแลต่อ]

กรมธรรม์ที่ 3 : ประกันชีวิต Unit-Linked ทุนชีวิตสูงถึงอายุ 60 ปี + ประกันทุพลภาพสิ้นเชิงถาวร + ประกันชดเชยรายได้ + ประกันโรคร้ายเบี้ยเพิ่มตามอายุไม่คงที่

กรมธรรม์ที่ 2 : ประกันชีวิตตลอดชีพ✅ + ประกันสุขภาพเหมาจ่าย + ประกันค่ารักษาอุบัติเหตุ

กรมธรรม์ที่ 1 : ประกันมรดก✅ + ประกันโรคร้ายแรงเบี้ยคงที่✅ + ประกันชั่วเวลาพ่อหรือแม่ 20 ปี

พอร์ตลงทุนที่ 1 :  กองทุนรวมวางแผนทุนการศึกษา

พอร์ตลงทุนที่ 2 :  กองทุนรวมวางแผนเบี้ยประกันสุขภาพและทุพพลภาพถาวร

ชีวิต/มรดก

โรคร้ายแรง

ค่ารักษา

ชีวิตผู้ชำระเบี้ย

ชดเชยรายได้

ทุพพลภาพถาวร

ลดหย่อนภาษีด้วยประกันชีวิต release your risk

เครื่องมือการเงินที่แนะนำ

กรมธรรม์ที่ 3 จะเน้นการคุ้มครองชีวิตทุนสูงจนถึงอายุ 60 ปีเป็นหลัก ร่วมกับประกันทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร และประกันชดเชายรายได้จากการนอน รพ. เนื่องจากเป็นช่วงอายุที่มีรายได้สูง ซึ่งมักจะตามมาด้วยความรับผิดชอบมากมาย และมักมากกว่าทุนชีวิตที่เคยทำไว้ใน กรมธรรม์ที่ 1+2

ทั้งนี้หากยังไม่เคยมีกรมธรรม์ที่ 1+2 มาก่อน จะสามารถพิจารณาเริ่มทำตามแบบกรมธรรม์ที่ 1+2 ในส่วนของประกันชีวิต ประกันโรคร้ายแรง และ ประกันสุขภาพเหมาจ่ายให้มารวมอยู่ในกรมธรรม์ที่ 1+2 ที่เริ่มทำตอนอายุช่วงนี้ได้ 

ประกันชีวิตชั่วเวลา 
สัญญาหลักกำหนดระยะเวลาของสัญญา

เป็นช่วงอายุที่มีทั้งรายได้สูง และภาระค่าใช้จ่ายมากมาย ค่าเล่าเรียนลูก รวมถึงหนี้ต่าง ๆ ที่เริ่มมีหรือมีสูงขึ้น จึงเป็นหน้าที่สำคัญที่อย่างน้อยจะต้องแบ่งรายได้บางส่วน เพื่อเน้นทำประกันชีวิตชั่วเวลาแบบเบี้ยน้อยทุนสูง (ซึ่งอาจไม่เหลือมูลค่าในกรมธรรม์ใด ๆ เมื่อครบสัญญาหรือหากยกเลิกไปก่อน) 

เพื่อนำมาปกป้องคนข้างหลังจากหนี้เหล่านี้ รวมถึงได้มีก้อนใหญ่มาทดแทนรายได้ที่จะขาดหายไปอย่าง 3-5 ปี เพื่อให้คนข้างหลังได้มีโอกาสปรับตัวกลับมาเลี้ยงดูตนเองได้  และอาจมีทุนให้สูงเพียงพอในการครอบคลุมค่าเล่าเรียนของลูกด้วย

ปัญหา คือ ไม่แน่ใจว่าความคุ้มครองนี้จะควรมีระยะเวลาเท่าใดดี จึงทำให้การเลือกประกันชีวิตควบการลงทุน BLA Premier Link ให้ทำหน้าที่เป็นประกันชีวิตชั่วเวลาที่สามารถเลือกระยะเวลาเองได้ หรือ สามารถคุ้มครองทุนสูงจนถึงอายุ 60 ปีได้ด้วยพอร์ตการลงทุนความเสี่ยงต่ำ จะเป็นเครื่องมือการเงินที่น่าสนใจที่สุด

ประกันทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร (+อบ.1-2)
สัญญาเพิ่มเติมแนบกับสัญญาหลัก

สัญญาเพิ่มเติมประกันทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร หรือ BLA ทุพพลภาพโพรเท็ค จะคุ้มครองจ่ายเป็นเงินก้อนชดเชยหากไม่สามารถปฏิบัติกิจวัตรประจำวันที่สำคัญตั้งแต่ 2 อย่างขึ้นไปได้เป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งปี

หรือหากพิการสูญเสียอวัยวะ หรือ อวัยวะไม่สามารถกลับมาใช้งานได้อีก ตั้งแต่ 2 อวัยวะขึ้นไป อันได้แก่ ตา 2 ข้าง มือ 2 ข้าง และ เท้า 2 ข้าง 

โดยสัญญาจะคุ้มครองไปถึงสาเหตุที่มาจากโรคเรื้อรังต่าง ๆ ที่เป็นภายหลังทำประกันร่วมด้วย แต่ไม่รวมถึงการทำร้ายตนเอง การนำเข้าสารพิษเข้าร่างกาย การเกิดขึ้นภายใต้ฤทธิ์สุรา หรือ กำลังก่ออาชญกรรม เป็นต้น

อย่างไรก็ตามหากต้องการลดความคุ้มครองลงเหลือเพียงสาเหตุให้ทุพพลภาพจากอุบัติเหตุ จะสามารถสัญญาเพิ่มเติมความคุ้มครอง อบ.1 และ อบ.2 ได้ โดย อบ.2 จะขยายความคุ้มครองการจ่ายชดเชยในกรณีของทุพพลภาพชั่วคราวด้วย เช่น ขาหัก หรือ เกิดบาดแผลที่ต้องใช้เวลารักษาฟื้นตัว เป็นต้น

ทั้งนี้สัญญาเพิ่มเติมทั้ง 3 นี้ จะสามารถทำได้ไม่เกิน 10 เท่าของทุนชีวิต และจะคุ้มครองถึงเพียงอายุ 65 ปี หรือถึงอายุ 75 ปีเท่านั้น จึงเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะทำแนบกับสัญญาหลัก BLA Premier Link ที่เน้นทุนชีวิตสูงจนถึงอายุ 60 ปี 

ประกันชดเชยรายได้
สัญญาเพิ่มเติมแนบกับสัญญาหลัก

เป็นสัญญาเพิ่มเติมที่สำคัญโดยเฉพาะกับอาชีพที่รายได้เกิดจากการทำงานในแต่ละวัน โดยหากหยุดจะไม่มีรายได้ ซึ่ง สัญญาชดเชยรายได้นี้ จะได้เป็นต่อวัน โดยหากเริ่มทำตั้งแต่วันละ 3,000 บ. ขึ้นไป จะต้องมีการแสดงหลักฐานทางการเงินว่ามีรายได้สูงวันละ 3,000 บ. ขึ้นไปจริง ๆ

ทั้งนี้ประกันชดเชยรายได้ มักจะมีด้วยกัน 2 แบบ คือ แบบที่หนึ่งเน้นชดเชยเพราะแอดมิตจริง ๆ อย่างเดียว โดยคุ้มครองต่อเนื่องที่ 365 วัน กับแบบที่สองที่มีเงินชดเชยพิเศษเพิ่มให้ด้วย หากเป็นการผ่าตัดใหญ่ตามที่ระบุ หรือ เป็นการรักษาโรคร้ายแรง หรือ เข้า ICU รวมถึงจะสามารถคุ้มครองต่อเนื่องได้ถึง 1250 วัน

โดยแบบที่สองจะมีเบี้ยที่สูงกว่าแบบที่หนึ่งพอสมควร 

ประกันโรคร้ายแรง
สัญญาเพิ่มเติมแนบกับสัญญาหลัก

หากยังไม่มี ประกันโรคร้ายแรงเบี้ยคงที่ จะควรทำเพิ่มไว้ในกรมธรรม์ที่ 1+2 ตามกำลังการออม แต่หากมีประกันโรคร้ายแรงเบี้ยคงที่แล้ว และต้องการทุนโรคร้ายแรงที่สูงมากขึ้นอีกแบบชั่วระยะเวลาก่อนเกษียณ การพิจารณาทำประกันโรคร้ายแบบเบี้ยเพิ่มตามอายุไม่คงที่ไว้ในกรมธรรม์ที่ 3 จะค่อนข้างน่าสนใจ ด้วยเบี้ยที่ค่อนข้างน้อยมากต่อทุนโรคร้ายแรงที่ได้

และเนื่องจากเป็นวัยที่หากเป็นโรคร้ายแรงแล้ว จะทำให้ขาดรายได้ไปในทันที จึงควรทำทุนสูงเพิ่มขึ้นอีก หากเห็นว่าทุนโรคร้ายแรงที่มีอยู่ยังไม่สามารถชดเชยรายได้ในช่วงการรักษาอย่างน้อย 3-5 ปีได้ 

ประกันสุขภาพเหมาจ่าย + เงินสำรองฉุกเฉิน
สัญญาเพิ่มเติมแนบกับสัญญาหลัก

หากยังไม่เคยมีกรมธรรม์มาก่อน จะควรต้องทำประกันสุขภาพเหมาจ่ายไว้ในกรมธรรม์ที่ 1+2 อย่างขาดไม่ได้ เพราะค่ารักษาใน รพ.เอกชน นั้นสูงมากจริง ๆ โดยเฉพาะกับค่ารักษาโรคร้ายแรงอย่างมะเร็ง

ประกันค่ารักษาอุบัติเหตุ OPD
สัญญาเพิ่มเติมแนบกับสัญญาหลัก

หากยังไม่เคยมีกรมธรรม์มาก่อน จะควรต้องทำประกันค่ารักษาอุบัติเหตุ OPD ไว้ในกรมธรรม์ที่ 1+2 อย่างขาดไม่ได้ เพราะเป็นเบี้ย OPD ที่น้อยที่สุด แต่ให้ความคุ้มครองสูงอย่างมาก และสามารถอุดช่องโหว่ของประกันสุขภาพเหมาจ่ายที่มักให้การ Follow up OPD มาเพียง 15-30 วันเท่านั้น ในขณะที่สัญญาเพิ่มเติมนี้สามารถ Follow up ได้ 1 ปี หรือ จนกว่าวงเงินจะหมด

พอร์ตลงทุนที่ 2 
เบี้ยประกันสุขภาพตอนเกษียณ

พอร์ตนี้มักจะใช้เป็นกองทุนรวมลดหย่อนภาษีเป็นหลัก โดยจะใช้วิธีการจัดพอร์ตแบบ Time-Segmentation ที่ทำการแบ่งเวลาเกษียณที่จะใช้จ่ายเบี้ยออกเป็น 3 ช่วงเวลา ช่วงเวลาละประมาณ 15 ปี 

ซึ่งแต่ละช่วงเวลาจะมีกองทุนรวมแบบที่ปรับความเสี่ยงให้เหมาะสมกับเวลาที่จะใช้ คือ ต้องรีบใช้ก่อนหรือกำลังใช้อยู่ต้องเป็นความเสี่ยงต่ำ หากยังไม่รีบใช้หรืออีกนานมากกว่าจะใช้จะสามารถเน้นไปที่กองทุนรวมความเสี่ยงสูงได้

เช่น กองทุนที่ปรับลดความเสี่ยงลงอัตโนมัติ Global Asset Allocation Target Date อย่าง BCAP-2050RMF จะถูกใช้ในเวลาเกษียณช่วงแรกสุด และ เวลาเกษียณช่วงที่สองจะใช้กองทุนรวม Global Asset Allocation ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น BCAP-GW90SSF และ เวลาเกษียณช่วงสุดท้ายที่นานที่สุด จะสามารถเน้นกองทุนรวมเจาะจงอุตสาหกรรม หรือ Thematic ที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดได้อย่าง B-INNOTECHRMF

โดยการคำนวณการลงทุนสามารถเลือกได้ว่าจะวางแผนลงทุนกี่ปี เช่น 5 - 10 ปีเป็นต้น ซึ่งในระหว่างการลงทุนนี้หากมีบางปีไม่ได้ลงทุนตามแผน ก็จะจำเป็นต้องมีการคำนวณหาเงินลงทุนที่ต้องลงทุนเพิ่มใหม่ด้วย หรือ บางปีมีการลงทุนที่มากกว่าแผน ก็จำเป็นต้องคำนวณใหม่เช่นกัน

รวมถึงการคำนวณติดตามแผนในแต่ละปี ว่าผลการลงทุนจริงมีความแตกต่างจากแผนอย่างไรบ้าง และจำเป็นต้องมีการปรับแผนลงทุนใหม่หรือไม่

สรุปเครื่องมือการเงิน

เรื่องเงินห้ามไว้ใจแต่.ต้องเข้าใจ release your risk

กรมธรรม์ที่ 3 :
ชดเชยรายได้ก่อนเกษียณ

BLA Premier Link  ทุน 5+ ล้าน

+ BLA ทุพพลภาพโปรเท็ค ทุน 3+ ล้าน / อบ.1-2

+ BLA ชดเชยรายได้ วันละ 1,000+ บ.

+ BLA Super Care ทุน 1-3 ล้าน เจอจ่ายทีละกลุ่มโรค

กรมธรรม์ที่ 1+2 :
ค่ารักษาเป็นหลัก

BLA Prestige Life 99/5  ทุน 5+ ล้าน หรือ
BLA ตลอดชีพสุดคุ้ม 99/20 ทุน 1-5 แสน

+ BLA Prestige Health Unlock 30 ล้าน รับผิด 5 หมื่น

+ BLA Happy CI ทุน 1-3 ล้าน 

+ ค่ารักษาอุบัติเหตุ OPD ทุน 100,000 (หากยังไม่มี)

พอร์ตลงทุนที่ 2 : 
แผนเบี้ยสุขภาพ

ใช้จ่ายเบี้ยตอนเกษียณช่วงแรก : BCAP-2050RMF

ใช้จ่ายเบี้ยตอนเกษียณช่วงสอง : BCAP-GW90SSF

ใช้จ่ายเบี้ยตอนเกษียณช่วงสาม : B-INNOTECHRMF

สรุป : นอกจากจะเป็นช่วงอายุที่ควรเริ่มทำประกันชีวิตชั่วเวลามากที่สุดดแล้ว อายุช่วงนี้ยังเป็นโค้งสุดท้ายสำหรับผู้ที่ยังไม่มีประกันสุขภาพเหมาจ่ายคุ้มครองสูง ที่จำเป็นต้องรีบทำให้เร็วที่สุดแล้ว ก่อนจะเริ่มมีรอยโรคบางอย่างถูกบันทึกไว้ในประวัติการรักษา และหรือ ผลตรวจสุขภาพ ซึ่งจะส่งผลต่อการพิจารณารับทำประกันสุขภาพ และสามารถถูกยกเว้นความคุ้มครองในโรคที่เป็นมาก่อนได้ หรือหากเลวร้ายจะไม่สามารถรับทำประกันสุขภาพได้

หมายเหตุ : หากพ่อกับแม่ได้ทำกรมธรรม์ 1+2 ไว้ให้แล้ว ช่วงอายุนี้จะเป็นช่วงอายุที่เริ่มสานต่อจากพ่อแม่ เพื่อดูแลค่าเบี้ยประกันเอง รวมถึงการวางแผนในการจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพในตอนเกษียณ

เครื่องมือการเงินที่เลือกใช้ตอนอายุ 35-50 ปี 
[ลูกดูแลและลูกดูแลหลาน]

กรมธรรม์ที่ 5 : ประกันลูก + ประกันชีวิตชั่วระยะเวลา 10-20 ปี (Option)

กรมธรรม์ที่ 4 : ประกันบำนาญ (เพิ่มได้จนกว่าจะครบตามเป้าหมาย)

กรมธรรม์ที่ 3 : ประกันชีวิต Unit-Linked ทุนชีวิตสูงถึงอายุ 60 ปี + ประกันทุพลภาพสิ้นเชิงถาวร + ประกันชดเชยรายได้ + ประกันโรคร้ายเบี้ยเพิ่มตามอายุไม่คงที่

กรมธรรม์ที่ 2 : ประกันชีวิตตลอดชีพ✅ + ประกันสุขภาพเหมาจ่าย + ประกันค่ารักษาอุบัติเหตุ 

กรมธรรม์ที่ 1 : ประกันชีวิตมรดก✅ + ประกันโรคร้ายแรงเบี้ยคงที่✅

พอร์ตลงทุนที่ 2 :  กองทุนรวมวางแผนเบี้ยประกันสุขภาพและทุพพลภาพถาวร ✅

พอร์ตลงทุนที่ 3 :  กองทุนรวมวางแผนเกษียณ

พอร์ตลงทุนที่ 4 :  กองทุนรวมวางแผนทุนการศึกษาหลาน

ชีวิต/มรดก

โรคร้ายแรง

ค่ารักษา

ชีวิตผู้ชำระเบี้ย

ชดเชยรายได้

ทุพพลภาพถาวร

บำนาญ

BLA Pestige Life Release your risk 2

เครื่องมือการเงินที่แนะนำ

กรมธรรม์ที่ 4 จะเกิดขึ้นในช่วงอายุที่เริ่มมีความมั่นคงในหน้าที่การงาน และเริ่มเห็นความสำคัญของการวางแผนเกษียณ  โดยประกันบำนาญเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการวางแผนเกษียณ เพราะสามารถสร้างรายได้ประจำให้ตลอดอายุเกษียณได้แบบ Passive จริง ๆ ซึ่งต้องทำประกันบำนาญเท่าใดและแบบใด จะจำเป็นต้องใช้โปรแกรมคำนวณวางแผนเกษียณเข้าช่วย

อย่างไรก็ตามหากยังไม่เคยมีกรมธรรม์ที่ 1+2 และ 3 มาก่อนจะจำเป็นต้องรีบพิจารณาทำประกันสุขภาพและประกันชีวิตชั่วเวลาให้เร็วที่สุด ก่อนที่ประวัติการรักษาและผลตรวจสุขภาพที่สะสมมา จะส่งผลให้ไม่สามารถทำประกันทั้งสองแบบได้อีกแล้ว ซึ่งจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในการวางแผนเกษียณทันทีเพราะจะต้องออมเงินจำนวนมากเพื่อรับความเสี่ยงไว้เองทั้งหมด

นอกจากนี้หากมีลูก จะส่งผลให้จำเป็นต้องมีกรมธรรม์ที่ 5 หรือประกันของลูกเพิ่มขึ้นด้วย (แบบเดียวกับกรมธรรม์ที่ 1) จึงจำเป็นต้องวางแผนค่าใช้จ่ายให้ดี ๆ เพราะจะมีทั้งเบี้ยประกันลูก ตนเอง และแผนเกษียนในอนาคตร่วมด้วย

ประกันบำนาญ 
สัญญาหลักกำหนดระยะเวลาของสัญญา

การเลือกใช้เครื่องมือนี้โดยจะเผื่อด้วย 2 วัตถุประสงค์ คือ ช่วยจ่ายเบี้บประกันสุขภาพ และ ช่วยจ่ายบำนาญส่วน NEEDs ซึ่งจำเป็นต้องมีการคำนวณให้ชัดเจนก่อนว่าจำเป็นต้องได้บำนาญเท่าใดใน 2 วัตถุประสงค์นี้

จากนั้นจึงเริ่มมาคัดเลือกประกันบำนาญที่จะทำให้ได้บำนาญตามที่ต้องการโดยใช้เบี้ยที่ประหยัดที่สุด ทั้งนี้จะสามารถแบ่งประกันบำนาญที่จะใช้ออกเป็น 2 แบบด้วยกัน คือ แบบจ่ายเบี้ยสั้น และ แบบจ่ายเบี้ยยาวจนถึงอายุเกษียณ

ซึ่งมักจะใช้การจ่ายเบี้ยยาวสำหรับให้ได้บำนาญที่จำเป็นต้องได้ขั้นต่ำจริง ๆ (NEEDs of NEEDs) โดยต้องสอดคล้องกับรายได้ประจำกับกำลังการออมที่มั่นใจว่าจะสามารถออมด้วยเงินเท่านี้ต่อเนื่องได้ทุกปี (รวมถึงหากต้องการนำมาลดหย่อนภาษีร่วมด้วย)

ในส่วนการจ่ายเบี้ยสั้นจะเหมาะการเปลี่ยนรายได้ที่ไม่ประจำ หรือ มากเป็นบางช่วงของชีวิต ให้กลายมาเป็นเงินบำนาญสะสมไว้เรื่อย ๆ จนกระทั่งครบตามเป้าหมายในที่สุด

สิ่งที่ต้องระวัง คือ แบบประกันบำนาญที่ให้ผลตอบแทนสูงจะสามารถปิดแบบหรือหยุดการรับสมัครลงได้ โดยเฉพาะหากดอกเบี้ยนโยบายเป็นขาลง ซึ่งการจ่ายเบี้ยยาวจะได้เปรียบเทียบกว่าจ่ายเบี้ยสั้น ตรงที่เป็นสัญญาระยะยาวไว้เรียบร้อย ในขณะที่แบบเบี้ยสั้นจะต้องลุ้นกันว่าปีหน้าจะยังมีแบบประกันนี้อยู่หรือไม่

พอร์ตลงทุนที่ 2 
เบี้ยประกันสุขภาพตอนเกษียณ

ส่วนนี้จะเป็นการออมต่อเนื่องจากที่วางแผนไว้ก่อนหน้า

พอร์ตลงทุนที่ 3 
บำนาญส่วน WANTs ตอนเกษียณ

การลงทุนส่วนนี้จะใช้วิธีการลงทุนแบบ Time Segmentation ที่แบ่งช่วงเวลาเกษียณออกเป็น 3 ช่วง เช่นเดียวกับ พอร์ตลงทุนที่ 2 เพียงแต่ว่าจะไม่ได้นำไปใช้เพื่อจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพ 

โดยจะนำไปใช้เป็นบำนาญส่วน WANTs เพิ่มความสะดวกสบายให้กับบำนาญส่วน NEEDs ที่ได้จากประกันบำนาญ รวมถึงเพื่อชดเชยค่าเงินที่เฟ้อเพิ่มขึ้นตามเวลาได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องคำนวณอย่างละเอียดอีกครั้งว่าจะต้องลงทุนเพิ่มจาก พอร์ตลงทุนที่ 2 เท่าไร ทั้งนี้หากพอร์ตลงทุนที่ 2 ได้ลงทุนเสร็จสิ้นตามระยะเวลาที่วางแผนไว้เรียบร้อย ก็จะทำให้พอร์ตลงทุนที่ 3 นี้สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีต่อเนื่องได้เต็มที่

แต่ก็มีโอกาสที่การลงทุนจะเกินสิทธิลดหย่อนได้ ซึ่งส่วนที่เกินสิทธิลดหย่อนภาษีโดยเฉพาะที่จะนำไปใช้ตอนเกษียณช่วงที่ 2 และ 3 จะสามารถเน้นไปที่กองทุนรวมแบบไม่ลดหย่อนภาษีได้

ดังนั้นหากต้องการไม่ให้เกินสิทธิลดหย่อนภาษีไปมากนัก รวมถึงยังต้องการได้ค่าธรรมเนียมการจัดการที่ถูกแบบกองทุนลดหย่อนภาษีอยู่ อาจไม่ควรลงทุนทั้งพอร์ตที่ 2 และ 3 พร้อมกัน โดยลงทุนในพอร์ตที่ 2 ให้เสร็จตามแผนก่อน แล้วจึงค่อยเริ่มแผนพอร์ตที่ 3 ต่อไป 

พอร์ตลงทุนที่ 4 
ทุนการศึกษาลูก

ส่วนนี้จะเป็นลักษณะเดียวกับ พอร์ตลงทุนที่ 1

สรุปเครื่องมือการเงิน

ผู้ช่วยประสานงาน 2 release your risk

กรมธรรม์ที่ 5 :
ประกันตั้งต้นของลูก

เป็นลักษณะเดียวกับ กรมธรรม์ที่ 1

กรมธรรม์ที่ 4 :
บำนาญส่วน NEEDs

ประกันบำนาญดั้งเดิมแบบจ่ายเบี้ยยาวถึงเกษียณ

ประกันบำนาญดั้งเดิมแบบจ่ายเบี้ยสั้น

กรมธรรม์ที่ 3 :
ชดเชยรายได้ก่อนเกษียณ

BLA Premier Link  ทุน 5+ ล้าน

+ BLA ทุพพลภาพโปรเท็ค ทุน 3+ ล้าน / อบ.1-2

+ BLA ชดเชยรายได้ วันละ 1,000+ บ.

+ BLA Super Care ทุน 1-3 ล้าน เจอจ่ายทีละกลุ่มโรค

กรมธรรม์ที่ 1+2 :
ค่ารักษาเป็นหลัก

BLA Prestige Life 99/5  ทุน 5+ ล้าน หรือ
BLA ตลอดชีพสุดคุ้ม 99/20 ทุน 1-5 แสน

+ BLA Prestige Health Unlock 30 ล้าน รับผิด 5 หมื่น

+ BLA Happy CI ทุน 1-3 ล้าน 

+ ค่ารักษาอุบัติเหตุ OPD ทุน 100,000 (หากยังไม่มี)

พอร์ตลงทุนที่ 4 : 
ทุนการศึกษาลูก

เป็นลักษณะเดียวกับ พอร์ตลงทุนที่ 1

พอร์ตลงทุนที่ 3 : 
แผนบำนาญส่วน WANTs

ใช้จ่ายเบี้ยตอนเกษียณช่วงแรก : BCAP-2050RMF

ใช้จ่ายเบี้ยตอนเกษียณช่วงสอง : BCAP-GW90SSF

ใช้จ่ายเบี้ยตอนเกษียณช่วงสาม : B-INNOTECHRMF

พอร์ตลงทุนที่ 2 : 
แผนเบี้ยสุขภาพ

ใช้จ่ายเบี้ยตอนเกษียณช่วงแรก : BCAP-2050RMF

ใช้จ่ายเบี้ยตอนเกษียณช่วงสอง : BCAP-GW90SSF

ใช้จ่ายเบี้ยตอนเกษียณช่วงสาม : B-INNOTECHRMF

สรุป : ช่วงอายุนี้จะเป็นช่วงที่ Recheck อีกครั้งว่า มีกรมธรรม์ที่ครอบคลุมหรือยัง โดยเฉพาะกรมธรรม์ค่ารักษา และกรมธรรม์ค่าชดเชยทั้งจากโรคร้ายและการจากไป เพียงแต่ว่าหากเพิ่งเริ่มทำที่อายุช่วงนี้ ส่วนใหญ่แล้วมักมีประวัติการรักษามาเรียบร้อย และหากโชคร้ายเป็นเกี่ยวกับเบาหวาน ความดัน ค่าตับสูง ภูมิแพ้ หรือ แม้แต่โรคออฟฟิศซินโดรมขึ้นมา โอกาสที่จะไม่สามารถทำประกันได้จะสูงมาก หรือ หากทำได้ก็มีโอกาสโดนยกเว้นความคุ้มครองบางโรค บางอวัยวะ หรือแม้แต่ถูกเพิ่มเบี้ยรับความเสี่ยงขึ้นอีกได้ ดังนั้นหากยังไม่มีต้องรีบตัดสินใจให้เร็วที่สุด หรือ อย่างน้อยให้เร็วกว่าการป่วยเรื้อรัง 120 วันขึ้นไป (ปัญหา คือ หลายโรคกว่าจะแสดงอาการ มักเป็นตอนเรื้อรังและเข้ารับการรักษาตลอดชีวิตไปแล้ว)

หมายเหตุ : เมื่อเคลียร์เรื่องกรมธรรม์ได้ จึงจะสามารถเริ่มคำนวณวางแผนพอร์ตที่ 2 และ 3 ได้อย่างเต็มที่ เพราะอย่างน้อยรู้แล้วว่า ค่าใช้จ่ายด้านการรักษาจะพอคาดการณ์ได้จากเบี้ยประกันสุขภาพ หรือ ถ้าหากทำประกันสุขภาพไม่ได้จะได้เริ่มวางแผนพอร์ตที่ 3 อย่างเต็มที่ เพราะต้องเพื่อค่ารักษาตนเองไว้ด้วยนั่นเอง

เครื่องมือการเงินที่เลือกใช้ตอนอายุ 51-60 ปี 
[ลูกดูแลและลูกดูแลหลาน]

กรมธรรม์ที่ 6 : ประกันมรดก

กรมธรรม์ที่ 5 : ประกันลูก✅ + ประกันชีวิตชั่วระยะเวลา 20 ปี (Option)

กรมธรรม์ที่ 4 : ประกันบำนาญ (เพิ่มได้จนกว่าจะครบตามเป้าหมาย)

กรมธรรม์ที่ 3 : ประกันชีวิต Unit-Linked ทุนชีวิตสูงถึงอายุ 60 ปี + ประกันทุพลภาพสิ้นเชิงถาวร + ประกันชดเชยรายได้ + ประกันโรคร้ายเบี้ยเพิ่มตามอายุไม่คงที่

กรมธรรม์ที่ 2 : ประกันชีวิตตลอดชีพ✅ + ประกันสุขภาพเหมาจ่าย + ประกันค่ารักษาอุบัติเหตุ

กรมธรรม์ที่ 1 : ประกันชีวิตมรดก✅ + ประกันโรคร้ายแรงเบี้ยคงที่✅

พอร์ตลงทุนที่ 2 :  กองทุนรวมวางแผนเบี้ยประกันสุขภาพและทุพพลภาพถาวร✅

พอร์ตลงทุนที่ 3 :  กองทุนรวมวางแผนเกษียณ

พอร์ตลงทุนที่ 4 :  กองทุนรวมวางแผนทุนการศึกษาหลาน

ชีวิต/มรดก

โรคร้ายแรง

ค่ารักษา

ชีวิตผู้ชำระเบี้ย

ชดเชยรายได้

ทุพพลภาพถาวร

บำนาญ

BLA Whole Life 2099 03 1

เครื่องมือการเงินที่แนะนำ

ช่วงอายุนี้คาดหวังว่าจะมีกรมธรรม์ที่จำเป็นครบหมดเรียบร้อยแล้ว หรือ ทราบแล้วว่าสามารถทำประกันสุขภาพได้หรือไม่ โดยมักจะเหลือเพียงการติดตามและปรับพอร์ตการลงทุนที่ 2 และ 3 เพื่อให้เป็นไปตามแผนมากที่สุด กับ การพิจารณาเรื่องมรดก

ประกันมรดก 
สัญญาหลักกำหนดระยะเวลาของสัญญา

โดยหากยังไม่มีประกันมรดก หรือ ประกันมรดกที่มีนั้นน้อยเกินกว่าความต้องการ ช่วงอายุนี้จะเป็นช่วงอายุท้ายสุดที่เมื่อทำประกันมรดกแล้วจะจ่ายเบี้ยรวมทั้งสัญญาน้อยกว่าทุนประกันมรดกที่จะได้ เช่น 

  • หากมีเงิน 50 ล้านบาท
  • ทำประกันมรดก BLA Prestige Life 99/5 ทุน 40 ล้านบาท แบบการันตี เพื่อแบ่งให้ลูกเท่ากัน 2 คน
  • เบี้ยประกัน BLA Prestige Life 99/5 รวมทั้งสัญญาจะอยู่ที่ 19,356,000 บ. หรือประมาณ 20 ล้านบาท
  • ทำให้ยังเหลือเงินไว้ใช้ยามเกษียณอีกถึง 30,644,000 หรือ 30 ล้านบาท
  • แต่ถ้าหากไม่มีประกันมรดก จะทำให้ต้องกันเงินไว้ถึง 40 ล้านบาท และไม่การันตีว่าจะสามารถกันเงินไว้ได้สำเร็จหรือไม่

ดังนั้นประกันมรดกจึงมีความสำคัญมาก แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าคือสุขภาพที่ยังต้องแข็งแรง ไม่ควรเป็นโรคความดัน หรือเบาหวาน โดยหากทุนมรดกสูง และหรือ อายุเกิน 55 ปีขึ้นไป โอกาสจะถูกขอให้ตรวจสุขภาพอย่างละเอียดจะสูงมาก และต้องลุ้นนักพอสมควรว่าจะสามารถทำประกันมรดกได้หรือไม่

เสมือน 20 ล้านบาทที่ประหยัดได้จากประกันมรดก ก็คือ มูลค่าของสุขภาพที่แข็งแรงนั่นเอง

ประกันบำนาญ 
สัญญาหลักกำหนดระยะเวลาของสัญญา

ยังสามารถทำประกันบำนาญเพิ่มได้อีก หากยังเห็นว่ายังไม่ได้บำนาญตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

พอร์ตลงทุนที่ 2 
เบี้ยประกันสุขภาพตอนเกษียณ

ในอายุช่วงนี้จะเหลือเพียงการติดตามพอร์ตการลงทุนว่าเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ จะต้องลงทุนเพิ่มอีกหรือไม่ หรือถ้ายังไม่มีประกันสุขภาพ และยังสมารถทำได้ก็จะเป็นการคำนวณว่าควรต้องลงทุนเท่าใดเพื่อไว้จ่ายเบี้ยประกันสุขภาพ ร่วมกับประกันบำนาญ

พอร์ตลงทุนที่ 3 
บำนาญส่วน WANTs ตอนเกษียณ

ในอายุช่วงนี้ยังเน้นทั้งติดตามและลงทุนต่อเนื่องเพื่อให้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

พอร์ตลงทุนที่ 4 
ทุนการศึกษาลูก

ส่วนนี้จะเป็นลักษณะเดียวกับ พอร์ตลงทุนที่ 1

สรุปเครื่องมือการเงิน

ผู้ช่วยประสานงาน release your risk

กรมธรรม์ที่ 6 :
มรดก

BLA Prestige Life 99/ 5,10,15  ทุน 5+ ล้าน

กรมธรรม์ที่ 5 :
ประกันตั้งต้นของลูก

เป็นลักษณะเดียวกับ กรมธรรม์ที่ 1

กรมธรรม์ที่ 4 :
บำนาญส่วน NEEDs

ประกันบำนาญดั้งเดิมแบบจ่ายเบี้ยยาวถึงเกษียณ

ประกันบำนาญดั้งเดิมแบบจ่ายเบี้ยสั้น

กรมธรรม์ที่ 3 :
ชดเชยรายได้ก่อนเกษียณ

BLA Premier Link  ทุน 5+ ล้าน

+ BLA ทุพพลภาพโปรเท็ค ทุน 3+ ล้าน / อบ.1-2

+ BLA ชดเชยรายได้ วันละ 1,000+ บ.

+ BLA Super Care ทุน 1-3 ล้าน เจอจ่ายทีละกลุ่มโรค

กรมธรรม์ที่ 1+2 :
ค่ารักษาเป็นหลัก

BLA Prestige Life 99/5  ทุน 5+ ล้าน หรือ
BLA ตลอดชีพสุดคุ้ม 99/20 ทุน 1-5 แสน

+ BLA Prestige Health Unlock 30 ล้าน รับผิด 5 หมื่น

+ BLA Happy CI ทุน 1-3 ล้าน 

+ ค่ารักษาอุบัติเหตุ OPD ทุน 100,000 (หากยังไม่มี)

พอร์ตลงทุนที่ 4 : 
ทุนการศึกษาลูก

เป็นลักษณะเดียวกับ พอร์ตลงทุนที่ 1

พอร์ตลงทุนที่ 3 : 
แผนบำนาญส่วน WANTs

ใช้จ่ายเบี้ยตอนเกษียณช่วงแรก : BCAP-2050RMF

ใช้จ่ายเบี้ยตอนเกษียณช่วงสอง : BCAP-GW90SSF

ใช้จ่ายเบี้ยตอนเกษียณช่วงสาม : B-INNOTECHRMF

พอร์ตลงทุนที่ 2 : 
แผนเบี้ยสุขภาพ

ใช้จ่ายเบี้ยตอนเกษียณช่วงแรก : BCAP-2050RMF

ใช้จ่ายเบี้ยตอนเกษียณช่วงสอง : BCAP-GW90SSF

ใช้จ่ายเบี้ยตอนเกษียณช่วงสาม : B-INNOTECHRMF

สรุป : เป็นช่วงอายุที่หากเพิ่งเริ่มทำกรมธรรม์ที่จำเป็นจะเห็นว่า เบี้ยนั้นสูง แต่นั่นเป็นราคาของอนาคตที่นำมารวมด้วย โดยหากยังสามารถทำประกันต่าง ๆ ได้ และมีกำลังพอ ควรรีบทำเพราะเป็นเครื่องมือที่จะช่วยประหยัดได้ในระยะยาวจริง ๆ เพราะค่าใช้จ่ายช่วงเกษียณยังสามารถตามมาได้อีกมาก และเป็นจำนวนเงินที่คาดการณ์ได้ยาก หากไม่มีเครื่องมือการเงินเหล่านี้ช่วย

หมายเหตุ : หากมีกรมธรรม์ที่จำเป็นครบหมดเรียบร้อย การติดตามการลงทุน และลงทุนต่อเนื่องทั้งในกองทุนรวมและประกันบำนาญ จะเริ่มทำให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นว่าชีวิตตอนเกษียณเป็นเช่นไร และเริ่มย้อนกลับมาขอบคุณตนเองในอดีตมากยิ่งขึ้น ที่ได้วางแผนและลงมือทำ

เครื่องมือการเงินที่เลือกใช้ตอนอายุ 61+ ปี 
[ลูกดูแลตนเอง หลานดูแลต่อ]

กรมธรรม์ที่ 6 : ประกันมรดก✅

กรมธรรม์ที่ 5 : ประกันลูก

กรมธรรม์ที่ 4 : ประกันบำนาญ (เพิ่มได้จนกว่าจะครบตามเป้าหมาย) ✅

กรมธรรม์ที่ 3 : ประกันชีวิต Unit-Linked ทุนชีวิตสูงถึงอายุ 60 ปี ✅ + ประกันทุพลภาพสิ้นเชิงถาวร + ประกันชดเชยรายได้ + ประกันโรคร้ายเบี้ยเพิ่มตามอายุไม่คงที่

กรมธรรม์ที่ 2 : ประกันชีวิตตลอดชีพ✅ + ประกันสุขภาพเหมาจ่าย + ประกันค่ารักษาอุบัติเหตุ

กรมธรรม์ที่ 1 : ประกันชีวิตมรดก✅ + ประกันโรคร้ายแรงเบี้ยคงที่✅

พอร์ตลงทุนที่ 2 :  กองทุนรวมวางแผนเบี้ยประกันสุขภาพและทุพพบภาพถาวร✅

พอร์ตลงทุนที่ 3 :  กองทุนรวมวางแผนเกษียณ✅

ชีวิต/มรดก

โรคร้ายแรง

ค่ารักษา

ชีวิตผู้ชำระเบี้ย

ชดเชยรายได้

ทุพพลภาพถาวร

บำนาญ

BLA Whole Life 2099 02

เครื่องมือการเงินที่แนะนำ

เป็นช่วงอายุที่จะรู้ตัวแล้วว่า จะมีความสุขกับการเกษียณได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งหากเตรียมตัวมาครบถ้วน ทั้งกรมธรรม์ และพอร์ตการลงทุนที่เตรียมมา จะเริ่มทำงานแทนตนเองอย่างเห็นได้ชัด ทำให้มีเวลามากขึ้นในการทำในสิ่งที่ตนชอบได้อย่างสบายใจไร้กังวล

ประกันมรดก 
สัญญาหลักกำหนดระยะเวลาของสัญญา

ส่วนนี้จะเหลือเพียงชำระเบี้ยให้ครบ หากเลือกระยะเวลาชำระเบี้ยเช่น 10 - 15 ปี แต่จะการันตีมรดกให้ลูกได้แน่นอน รวมถึงยังสามารถเปลี่ยนแปลงผู้รับผลประโยชน์จากทุนประกันมรดกนี้ได้อยู่

ประกันชีวิตชั่วเวลา 
สัญญาหลักกำหนดระยะเวลาของสัญญา

ในกรมธรรม์ที่ 3 นี้ จะสามารถเลือกที่จะยกเลิกทั้งกรมธรรม์ หรือ สามารถเลือกยกเลิกเฉพาะสัญญาเพิ่มเติมตามที่ต้องการได้ 

โดยหากยังเก็บกรมธรรม์ที่ 3 ไว้อยู่ จะจำเป็นต้องทำเรื่องเปลี่ยนจำนวนเบี้ยที่ชำระเป็นแบบต่ำสุด และเปลี่ยนทุนชีวิตเป็นแบบต่ำสุด ซึ่งจะเหลือทุนชีวิตที่ 60,000 บ. เท่านั้น ทำให้ค่าประกันภัยส่วนประกันชีวิตลดลงอย่างมาก และกรมธรรม์ที่ 3 จะสามารถอยู่ต่อได้อีกนานหลายปี

ทั้งนี้การเก็บกรมธรรม์ที่ 3 ไว้ นอกจากจะมีประโยชน์หากต้องการเก็บสัญญาเพิ่มเติมบางตัวไว้แล้ว ยังมีประโยชน์ในการย้ายเงินลงทุนจากกองทุนรวมที่จะใช้ช่วงแรกของอายุเกษียณมาอยู่ใน กองทุนรวมของกรมธรรม์ที่ 3 ที่เป็นความเสี่ยงต่ำได้

ด้วยเพราะกรมธรรม์ที่ 3 เป็นประกันควบการลงทุน ที่เมื่อจะหยุดชำระเบี้ยแล้ว จะสามารถสั่งให้ทยอยขายกองทุนในกรมธรรม์ออกมาเป็นบำนาญที่เท่ากันทุกเดือนได้โดยอัตโนมัติ

ทำให้หากวางแผนมาอย่างดีพอ บำนาญที่ได้จากการขายกองทุนทุกเดือน เมื่อรวมกับบำนาญจากประกันบำนาญ จะสามารถนำมากินใช้จ่ายได้อย่างเพียงพอ รวมถึงสามารถนำมาหักบัญชีธนาคารจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพอัตโนมัติได้ด้วย

พอร์ตลงทุนที่ 2 
เบี้ยประกันสุขภาพตอนเกษียณ

พอร์ตลงทุนที่ 2 ส่วนที่ต้องใช้จ่ายเบี้ยสุขภาพของอายุเกษียณช่วงแรก จะย้ายไปอยู่ในกรมธรรม์ที่ 3 เพื่อสามารถตั้งค่าให้กรมธรรม์ที่ 3 ขายกองทุนออกมาใส่บัญชีธนาคารอัตโนมัติ ซึ่งเป็นบัญชีธนาคารที่จะถูกหักบัญชีจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพเมื่อครบรอบ

โดยกองทุนที่จะใช้ในตอนอายุเกษียณช่วงที่ 2 และช่วงที่ 3 จะมีการสับเปลี่ยนมาเป็นกองทุน Global Asset Allocation ที่มีความเสี่ยงลดลงตามลำดับ และตามแผนที่วางไว้

ทั้งนี้จะมีการแจ้งเตือนจากระบบเมื่อมูลค่าเงินในกรมธรรม์ที่ 3 ใกล้หมด ซึ่งจะทำให้รู้ว่าถึงเวลาต้องย้ายเงินจากกองทุนรวมเบี้ยอายุเกษียณช่วงที่ 2 มาใส่ไว้ในกรมธรรม์ที่ 3 และทำการปรับลดความเสี่ยงของกองทุนรวมอายุเกษียณช่วงที่ 3 ลงได้ต่อไป

พอร์ตลงทุนที่ 3 
บำนาญส่วน WANTs ตอนเกษียณ

การทำงานและการจัดการจะคล้ายกับพอร์ตลงทุนที่ 2 เพียงแต่จะให้พอร์ตลงทุนที่ 3 ขายกองทุนออกมาเพื่อเป็นบำนาญส่วน WANTs ในทุกเดือน โดยเงินขายกองทุนจะเข้าบัญชีเดียวกับเงินที่ได้รับจากประกันบำนาญ 

แต่เนื่องจากประกันบำนาญจะรับเงินเป็นแบบรายปี ทำให้เพื่อป้องกันการนำเงินจากประกันบำนาญไปใช้จ่ายหมดในทีเดียว บัญชีที่ได้รับเงินทั้งจากกองทุนและประกันบำนาญจะไม่สามารถใช้จ่ายใด ๆ ได้ 

แต่จะทำการโอนเงินอัตโนมัติที่ตั้งค่าไว้ทุกเดือนตามเงินบำนาญที่วางแผนไว้ไปยังบัญชีสำหรับใช้จ่ายโดยเฉพาะ หรือเสมือนเป็นการเลียนแบบรับเงินเดือนนั่นเอง

สรุปเครื่องมือการเงิน

มีเงินใช้ตอนเกษียณ release your risk

กรมธรรม์ที่ 6 :
มรดก

BLA Prestige Life 99/ 5 ,10,15  ทุน 5+ ล้าน

กรมธรรม์ที่ 4 :
บำนาญส่วน NEEDs

ประกันบำนาญดั้งเดิมแบบจ่ายเบี้ยยาวถึงเกษียณ

ประกันบำนาญดั้งเดิมแบบจ่ายเบี้ยสั้น

กรมธรรม์ที่ 3 :
บำนาญอัตโนมัติ

BLA Premier Link  ทุน 60000 บ.

กรมธรรม์ที่ 1+2 :
ค่ารักษาเป็นหลัก

BLA Prestige Life 99/5  ทุน 5+ ล้าน หรือ
BLA ตลอดชีพสุดคุ้ม 99/20 ทุน 1-5 แสน

+ BLA Prestige Health Unlock 30 ล้าน รับผิด 5 หมื่น

+ BLA Happy CI ทุน 1-3 ล้าน 

พอร์ตลงทุนที่ 3 : 
แผนบำนาญส่วน WANTs

ใช้จ่ายเบี้ยตอนเกษียณช่วงสอง : BCAP-GW75

ใช้จ่ายเบี้ยตอนเกษียณช่วงสาม : BCAP-GW90

พอร์ตลงทุนที่ 2 : 
แผนเบี้ยสุขภาพ

ใช้จ่ายเบี้ยตอนเกษียณช่วงสอง : BCAP-GW75

ใช้จ่ายเบี้ยตอนเกษียณช่วงสาม : BCAP-GW90

สรุป :  ช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงเวลาที่หมดห่วงหลายอย่าง ๆ ด้วยเครื่องมือการเงินที่พร้อมทำงานอัตโนมัติประสานกัน ทำให้เสมือนเป็นการได้รับเงินเดือนปลอดภาษีในทุกเดือน และยังสามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลจาก รพ.เอกชน ได้อย่างหมดห่วง

หมายเหตุ : อาจมีค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือจากความคุ้มครองของประกันสุขภาพ และเงินเดือนหรือบำนาญที่ได้อาจไม่เพียงพอ ในกรณีนี้หากพอร์ตการลงทุนที่ 2 มีการวางแผนเงินสำรองฉุกเฉินค่ารักษาไว้ด้วยก็จะแก้ปัญหานี้ได้ แต่หากไม่ได้วางแผนไว้ก็จะยังสามารถกู้กรมธรรม์ประกันชีวิตหรือประกันมรดกออกมาจ่ายก่อนได้ จากนั้นเมื่อได้รับเงินบำนาญจึงทยอยจ่ายคืนกรมธรรม์ที่กู้ออกมาได้ ด้วยดอกเบี้ยที่ต่ำมาก

เมื่อเห็นภาพรวมจาก Blueprint ในอุดมคติเรียบร้อย สิ่งสำคัญต่อมาคือ การลงรายละเอียดในแต่ละเครื่องมือการเงินดังต่อไปนี้

พิจารณารายละเอียดเจาะลึก

การวางแผนเก็บเงินและเกษียณอย่างจริงจัง เริ่มขึ้น เมื่อเข้าใจ..

วิธีใช้ธรรมชาติของเครื่องมือการเงินที่จำเป็นให้เกิดประโยชน์สูงสุด

"ตน (ในปัจจุบัน) จักเป็นที่พึ่งของตน (ในอนาคต)"

เกี่ยวกับผู้เขียน

  • Ruchira Taboonruang

    จากประสบการณ์ที่ผ่านมาในชีวิตการทำงานทั้งหมดของแอนนี่ในสายงาน CRM ได้พบว่า ความไม่รู้ เป็นศัตรูที่แพงอย่างมากในโลกของการเงิน ซึ่งในหลายครั้งกว่าจะรู้และเข้าใจก็อาจจะสายไปแล้ว และนี้คือสาเหตุใหญ่ที่ทางเรา จะแก้ไขปัญหานี้ให้ได้ โดยให้ความรู้ทางการเงินที่ดีและเหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา รวมถึงการป้องกันไม่ให้ถูกเอาเปรียบจากความไม่รู้นี้ ผ่านเว็บไซต์ Release your Risk ที่ต้องการให้ทุกคนได้ปล่อยความเสี่ยงที่ตนเองถือไว้อยู่ ผ่านเครื่องมือทางการเงินด้วยความเข้าใจ และมีประสิทธิภาพสูงสุดค่ะ

>
Scroll to Top

เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งาน ซึ่งสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ตกลงทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึก