STEP 2 : คำนวณเงินก้อนที่ต้องมี ณ วันเกษียณ

STEP 2 คำนวณหาเงินก้อนวันที่เกษียณจากค่าใช้จ่ายตอนเกษียณทั้งหมด

ใน STEP 2 นี้จะถูกแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนย่อยด้วยกันดังต่อไปนี้


2.1 เลือกรูปแบบการคาดการณ์ของผลตอบแทนการลงทุนตอนเกษียณ

ขั้นตอนนี้จะเป็นการนำค่าใช้จ่ายทั้งหมดตอนเกษียณมาคำนวณย้อนกลับหาเงินที่ต้องมีในวันที่เกษียณ ผ่านผลตอบแทนการลงทุนจากการคาดการณ์แบบต่าง ๆ

โดยจากในรูปหากเลือกแบบที่ 1 จะทำให้เงินก้อนที่มาจากคำนวณผลตอบแทนและความผันผวนคาดการณ์ดังนี้

  • กองที่ 1 ใช้ 15 ปีช่วงที่1 : ผลตอบแทนคาดการณ์ 4% ต่อปี และความผันผวนคาดการณ์ 6% ต่อปี
  • กองที่ 2 ใช้ 15 ปีช่วงที่2 : ผลตอบแทนคาดการณ์ 7% ต่อปี และความผันผวนคาดการณ์ 15% ต่อปี
  • กองที่ 3 ใช้ 15 ปีช่วงที่3 : ผลตอบแทนคาดการณ์ 9% ต่อปี และความผันผวนคาดการณ์ 20% ต่อปี
STEP2 1 เงินก้อน1

นอกจากแบบที่ 1 แล้ว ยังมีแบบอื่นให้เลือกอีก ดังรูปด้านล่าง โดย แบบที่ 4 จะเป็นแบบที่สามารถกำหนดผลตอบแทนต่อปีและความผันผวนต่อปีแบบคาดการณ์ขึ้นได้เอง

STEP2 1 เงินก้อน2

ซึ่งการคาดการณ์แบบต่าง ๆ นี้ จะส่งผลต่อการคำนวณเงินก้อนที่ต้องมีในวันที่เกษียณโดยตรง รวมการอัตราการอยู่รอดของเงินก้อนนี้ 

2.2 เลือก อายุเกษียณ เงินสมทบ และ buffer ที่ต้องการ

ขั้นตอนนี้จะสามารถกำหนด

  • อายุเกษียณ : กำหนดได้ตั้งแต่อายุ 55 ปีเป็นต้นไป โดยเมื่ออายุเกษียณเปลี่ยนระบบจะคำนวณบำนาญและบำเหน็จให้สอดคล้องกับอายุที่เกษียณโดยอัตโนมัติ
  • เงินสมทบช่วยกองทุนเกษียณ : สำหรับในกรณีที่ในวันที่เกษียณจะมีเงินมาช่วยสมทบกองทุนเกษียณร่วมด้วย เช่น เงินจาก PVD หรือ กบข.
  • Buffer : ค่าใช้จ่ายเผื่อเพิ่มพิเศษจากค่าใช้จ่ายปกติ (ห้ามใช้ สำหรับเป็นกันชนความผันผวนของตลาดเท่านั้น)

โดยเมื่อกำหนดค่าทั้ง 3 ค่านี้เรียบร้อย ระบบจะทำการคำนวณหาเงินก้อนที่ต้องมีในทันที เช่นดังรูปด้านล่าง ที่ในวันที่เกษียณจะต้องมีเงินก้อนกองทุนเกษียณทั้งหมด 42,763,269 บ. โดยแบ่งเป็นกองที่ 1 ที่จะถูกใช้ก่อน 31.8 ล้าน กองที่ 2 ที่จะต้องถูกใช้ต่อมา 8.3 ล้าน และกองที่ 3 ที่จะถูกใช้ท้ายสุด 2.5 ล้าน

STEP2 2 เงินก้อน1

ในส่วนการกำหนด Buffer จะสามารถกำหนดได้ทั้งหมด 4 Level ด้วย โดยยิ่ง Level สูง จะยิ่งมีการเผื่อเงินพิเศษที่ห้ามใช้สูงมากขึ้นในแต่ละอายุ

STEP2 2 เงินก้อน2

เช่น ดังรูปด้านล่างเลือก Buffer Level 3 จะมีการเผื่อเงินพิเศษที่ห้ามใช้ในแต่ละปี (แต่นำมาคำนวณหาเงินก้อนในวันที่เกษียณ) ปีละ 911,149 บ. ซึ่งจะทำให้เงินก้อนในวันที่เกษียณจากปกติไม่มี Buffer อยู่ที่ 42,763,269 บ. จะสูงขึ้นเป็น 58,237,554 บ. 

แล้วด้วยเงินก้อนที่เพิ่มมากขึ้นถึงกว่า 16 ล้านบาท แต่ยังคงใช้จ่ายเท่าเดิม จึงทำให้โอกาสความอยู่รอดของเงินก้อน 58 ล้านนี้ มีสูงกว่าเงินก้อน 42 ล้าน อย่างแน่นอนโดยเฉพาะในตอนสูงอายุ ซึ่งจะมีการคำนวณอัตราความอยู่รอดของเงินก้อนนี้ในขั้นตอนต่อไป

STEP2 2 เงินก้อน3

**หมายเหตุ :

  • Buffer นั้นจะมีมุมกลับอีกอย่าง โดยเฉพาะหากไม่ต้องการเพิ่มเงินในวันที่เกษียณ แต่ยังคงได้อัตราความอยู่รอดเท่ากับ Buffer Level สูง ๆ นั้นก็คือ การออมเงินที่ต้องใช้ในแต่ละปีให้ได้เท่ากับ Buffer ที่เลือก
  • เช่น หากเลือก Buffer Level 3 ในมุมกลับจะหมายความว่า จากรูปด้านบนหากสามารถออมเงินปีละ 911,149 บ. จากที่ต้องใช้ต่อปีปีละ 2,122,308 บ. ได้ ก็จะช่วยให้อัตราความอยู่รอดของเงินก้อนสูงแบบเดียวกับ Buffer Level 3 โดยไม่ต้องการมีการลงทุนเพิ่มใด ๆ
  • และเมื่อไรที่เงินหมดก่อนอายุที่กำหนดเพราะตลาดขาลง ก็สามารถนำเงิน Buffer ที่ออมนี้ ออกมาใช้ได้เพื่อให้ถึงตามอายุที่กำหนดไว้ได้นั่นเอง

2.3 ทดสอบโอกาสความอยู่รอดของเงินก้อนที่ได้

ในขั้นตอนนี้ จะเป็นการทดสอบจำลองผลตอบแทนการลงทุนต่อปีต่าง ๆ ตามผลตอบแทนและความผันผวนคาดการณ์ที่เลือกในขั้นตอนที่ 2.1

ซึ่งจะจำลองผลตอบแทนแต่ละปีประมาณ 1,000 รูปแบบ เพื่อทดสอบดูว่าอายุเกษียณต่าง ๆ นั้น เงินก้อนที่ได้จากผลการลงทุนทั้ง 1,000 รูปแบบนี้ มีอายุใดบ้างที่ทั้ง 1,000 รูปแบบรอดทั้งหมด และเริ่มที่อายุเท่าใดเป็นต้นไปที่เริ่มมีไม่ครบ 1,000 รูปแบบที่เงินก้อนนี้จะสามารถอยู่รอดไม่หมดไปเสียก่อน

ทั้งนี้ผลการจำลองจะมีทั้งหมด 5 กราฟ โดยเป็นการเปรียบเทียบอัตราการอยู่รอดของกองทุนเกษียณทั้งแบบไม่มี Buffer และแบบมี Buffer Level ต่าง ๆ เพื่อทำให้เห็นว่ายิ่งมีเงินก้อนเผื่อเกินพิเศษมากเท่าใด อัตราความอยู่รอดก็จะมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

เช่น จากกราฟรูปด้านล่าง เงินที่ต้องใช้ตลอดการเกษียณอยู่ที่ 109,530,912 บ. การเลือก Buffer Level 4 ที่ต้องมีเงินก้อนที่ 63 ล้านบาท จะมีการอัตราอยู่รอดได้ 100% (รอดทั้ง 1,000 รูปแบบการจำลอง) นานที่สุดถึงอายุ 87 ปี ในขณะที่หาก No Buffer เงินก้อนที่ต้องมีคือ 42 ล้าน อัตราอยู่รอดไม่ถึง 100% แต่ตั้งอายุ 77 ปีเท่านั้น

โดยการทดสอบสามารถทำได้โดย คลิกที่ปุ่ม "คลิก..ทดสอบอัตราการอยู่รอด" เพื่ออนุญาตให้โปรแกรมสามารถเริ่มคำนวณได้ ซึ่งในการคำนวณยังสามารถกำหนดได้อีก 2 ค่า

  • จำนวนปีที่ตลาดเป็นขาลงพอดีในวันที่เกษียณ (เลือกได้ตั้งแต่ 0-3 ปี) 
  • จำนวนเงินรายได้แบบการันตี ที่จะเข้ามาช่วยกองทุนเกษียณ (เช่น รายได้ผ่านประกันบำนาญ เป็นต้น)
STEP2 3 เงินก้อน1

ตัวอย่าง ตลาดเป็นขาลง 3 ปีติดต่อกันตั้งแต่วันที่เกษียณ

  • จะเห็นได้ว่าอัตราความอยู่รอดของแบบ No Buffer นั้นลดลงเร็วอย่างมากเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น
BufferWay3yrsAnnuity

ตัวอย่าง ตลาดเป็นขาลง 3 ปีติดต่อกันตั้งแต่วันที่เกษียณ แบบมีรายได้การันตีจากประกันบำนาญเข้าช่วย

  • จะเห็นได้ว่าการมีรายได้จากประกันบำนาญเข้าช่วย จะช่วยยกระดับกราฟอัตราความอยู่ได้อย่างชัดเจน รวมถึงอัตราความอยู่รอดจะค่อย ๆ ลดลงน้อยกว่า (ชันน้อยกว่า) แบบที่ไม่มีประกันบำนาญ
BufferWay3yrs

เมื่อตัดสินใจเลือก Buffer ที่ต้องการได้เรียบร้อย (สามารถกลับไปตั้งค่าได้ที่ขั้นตอน 2.2) จากนั้นในขั้นตอนถัดไปจึงจะเป็นการเริ่มต้นการวางแผนการลงทุนเพื่อให้ได้เงินก้อนที่ต้องการในวันที่เกษียณนี้

เริ่มวางรากฐานให้กับ "แผนเกษียณ" อย่างจริงจัง

ด้วย Framework การใช้เครื่องมือการเงินลดหย่อนภาษี ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

"ตน (ในปัจจุบัน) จะเป็นที่พึ่งของตน (ในอนาคต)"

เกี่ยวกับผู้เขียน

  • แอนนี่ค่ะ2

    จากประสบการณ์ที่ผ่านมาในชีวิตการทำงานทั้งหมดของแอนนี่ในสายงาน CRM ได้พบว่า ความไม่รู้ เป็นศัตรูที่แพงอย่างมากในโลกของการเงิน ซึ่งในหลายครั้งกว่าจะรู้และเข้าใจก็อาจจะสายไปแล้ว และนี้คือสาเหตุใหญ่ที่ทางเรา จะแก้ไขปัญหานี้ให้ได้ โดยให้ความรู้ทางการเงินที่ดีและเหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา รวมถึงการป้องกันไม่ให้ถูกเอาเปรียบจากความไม่รู้นี้ ผ่านเว็บไซต์ Release your Risk ที่ต้องการให้ทุกคนได้ปล่อยความเสี่ยงที่ตนเองถือไว้อยู่ ผ่านเครื่องมือทางการเงินด้วยความเข้าใจ และมีประสิทธิภาพสูงสุดค่ะ

>
Scroll to Top

เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งาน ซึ่งสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ตกลงทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึก