แก้ปัญหาประกันชีวิตควบโรคร้ายแรงเบี้ยคงที่ด้วย BLA Happy CI

บทนำ : การแก้ไขด้วยวิธีแยกประกันชีวิต กับ ประกันโรคร้ายแรงเบี้ยคงที่ ออกจากกัน

เบื้องต้นการแก้ไขปัญหาเบี้ยสูงเข้าใกล้ทุนประกัน ประกันชีวิตควบโรคร้ายแรงนั้น จะสามารถแก้ไขได้โดย

• ปรับให้ประกันโรคร้ายแรงเบี้ยคงที่เน้นคุ้มครองเฉพาะโรคร้ายแรงที่เสี่ยงเป็นสูง หรือ มีสถิติการเคลม 94%-96% ของการเคลมโรคร้ายแรงทั้งหมดเท่านั้น

• ยกเลิกการควบรวมของประกันชีวิตกับประกันโรคร้ายแรง เพื่อทำให้ผู้ทำประกันมีอิสระในการเลือกแบบประกันชีวิตและทุนประกันชีวิตที่ต้องการได้เอง ไม่ต้องผูกติดกับทุนประกันประกันโรคร้ายแรง

กำแพงมูลค่าเงินเวนคืนของประกันโรคร้ายแรงเบี้ยคงที่ ที่แยกออกมา

แม้จะสามารถแก้ปัญหาเบี้ยประกันสูงด้วยการแยกประกันโรคร้ายแรงเบี้ยคงที่ออกมาเดียว ๆ และมีมูลค่าเวนคืนเป็นของตนเอง จนทำให้มูลค่าเวนคืนประกันโรคร้ายแรงเบี้ยคงที่เติบโตเร็วกว่าประกันชีวิตมากในช่วงแรก ๆ

อย่างไรก็ตามจะมี ปัญหากำแพงมูลค่าเวนคืนเกิดขึ้นแทนในส่วนของประกันโรคร้ายแรงเบี้ยคงที่ที่แยกออกมา ดังรูปด้านล่าง ซึ่งเป็นปัญหาที่ไม่มีใน ประกันชีวิต และ ประกันชีวิตควบโรคร้ายแรง ด้วยเพราะมูลค่าเวนคืนของประกันชีวิตจะเป็นลักษณะที่ทยอยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนเท่าทุนประกันเมื่อครบสัญญาไม่เจอกำแพงใด ๆ

โดยมูลค่าเวนคืนของประกันชีวิตสามารถทำแบบนี้ได้เพราะความเสี่ยงภัยด้านชีวิตจะไม่ได้เพิ่มแบบก้าวกระโดดสูงมากเหมือนกับความเสี่ยงภัยด้านโรคร้ายแรงในตอนสูงอายุ

โดยกำแพงมูลค่าเวนคืนสูงสุดของประกันโรคร้ายแรงเบี้ยคงที่นี้จะไม่สามารถเกิน 50%-53% ของทุนโรคร้ายแรงได้ ไม่ว่าจะเริ่มทำประกันตอนอายุเท่าใดก็ตาม  

ซึ่งส่งผลอย่างมากหากเริ่มทำประกันตอนสูงอายุที่เบี้ยทั้งสัญญามากกว่า 50%-53% ของทุนโรคร้ายแรง และทำให้ไม่ว่าจะรอนานอย่างไรมูลค่าเวนคืนก็ไม่มีทางเติบโตเกินเบี้ยที่จ่ายไปทั้งสัญญาได้

โดยทางแก้ไขปัญหานี้จะต้องอาศัย มูลค่าเวนคืนของประกันชีวิตที่ไม่มีปัญหากำแพงมูลค่าเวนคืน เข้ามาช่วย ทำให้หากเลือกทุนประกันชีวิตที่เหมาะสมกับแบบประกันชีวิตที่ดีพอ มูลค่าเวนคืนที่เติบโตของประกันชีวิตจะสามารถพยุงมูลค่าเวนคืนของประกันโรคร้ายแรงเบี้ยคงที่

จนทำให้มูลค่าเวนคืนรวมกันทั้งหมดสามารถเกินเบี้บรวมทั้งสัญญาที่จ่ายไปได้ แม้จะเริ่มทำประกันตอนอายุมากอย่างอายุ 55 - 65 ปีแล้วก็ตาม 

"แบบประกันชีวิต BLA" ที่สามารถเลือกจับคู่ได้

แนวทางทำลายกำแพงมูลค่าเงินเวนคืน โดยปรับให้ ทุนประกันชีวิต ใกล้เคียง ทุนประกันโรคร้ายแรงเบี้ยคงที่

ด้วยปัญหากำแพงมูลค่าเวนคืนของประกันโรคร้ายแรงเบี้ยคงที่ BLA Happy CI ทำให้หากทำประกันตอนอายุมากกว่า 32-35 ปี มูลค่าเวนคืนของ BLA Happy CI จะไม่สามารถเกินเบี้ยทั้งสัญญาที่จ่ายไปได้จนกว่าจะอายุ 99 ปี ดังกราฟด้านล่าง

**อายุ 99 ปีเป็นโบนัสพิเศษของ BLA Happy CI ที่จะให้เงินคืนเท่าทุนประกันโรคร้ายแรงที่เลือก หากอยู่ครบสัญญาโดยไม่เป็นโรคร้ายแรงใด

จึงทำให้ควรแนบ BLA Happy CI ให้คู่กับสัญญาหลักประกันชีวิตที่มีจำนวนทุนชีวิตใกล้เคียงหรือมากกว่าทุนโรคร้ายของ BLA Happy CI เพื่ออาศัยการเติบโตของมูลค่าเวนคืนที่สูงเพิ่มขึ้นทุกปีของประกันชีวิตเข้าช่วย

จากกราฟเส้นสีแดงด้านล่าง จะเห็นได้ชัดเจนว่าเมื่อนำมูลค่าเวนคืนของทั้งประกันชีวิตและ BLA Happy CI ทั้งหมดมารวมกัน จะสามารถเกินเบี้ยประกันทั้งสัญญาได้อย่างรวดเร็วตั้งแต่อายุ 66 ปีเป็นต้นไป หรือใช้เวลาเพียง 29 ปีกรมธรรม์เท่านั้น

และด้วยมูลค่าเวนคืนของประกันชีวิตที่มีอิทธิพลสูงมากนี้เอง หากสามารถเลือกประกันชีวิตที่เบี้ยน้อยแต่ได้ทุนสูง และมูลค่าเวนคืนเติบโตเร็ว อย่างประกันมรดก Prestige Life 99/5 มาจับคู่กับ BLA Happy CI ได้ 

ก็จะยิ่งทำให้มูลค่าเวนคืนสะสมของประกันมรดก และ BLA Happy CI ทั้งหมดรวมกัน สามารถเกินเบี้ยประกันทั้งสัญญาได้อย่างรวดเร็วตั้งแต่อายุ 58 ปีเป็นต้นไป หรือใช้เวลา 20 ปีกรมธรรม์เท่านั้น

การปรับ "สัดส่วน" ทุนประกันชีวิต : ทุนประกันโรคร้ายแรง ที่เหมาะสมตามอายุเริ่มทำประกัน

หากเริ่มทำ BLA Happy CI ตอนอายุมากอย่างเช่น อายุ 55 ปี แม้จะใช้ประกันมรดกช่วยก็ยากที่จะได้มูลค่าเวนคืนเติบโตเกินเบี้ยทั้งหมดได้อย่างรวดเร็วดังรูปด้านล่าง ที่ต้องรอถึงอายุ 96 ปี

เนื่องจากเบี้ยทั้งหมดโรคร้ายแรงจะใกล้เคียงกับทุนโรคร้ายที่ได้อย่างมาก และเกินกำแพงมูลค่าเวนคืนไปมากกว่าที่ มูลค่าเวนคืนของประกันมรดกจะยกระดับขึ้นมาได้ไหว 

จากปัญหาดังกล่าวจะสามารถแก้ไขให้มูลค่าเวนคืนของประกันมรดกสามารถพยุงมูลค่าเวนคืนของโรคร้ายแรงได้ โดยลดทุนประกันของโรคร้ายแรงลง

ซึ่งพอลดทุนประกันโรคร้ายลงแล้ว ก็จะทำให้มูลค่าเวนคืนของประกันมรดกที่ทุนยังสูงเท่าเดิมอยู่ สามารถเติบโตเหนือเบี้ยทั้งหมดของประกันโรคร้ายแรงที่ลดทุนลงมาได้ดังรูปด้านล่าง ที่ปรับลดทุนโรคร้ายแรงจาก 5,000,000 บ. เป็น 2,000,000 บ.

และทำให้มูลค่าเวนคืนทั้งหมดเกินเบี้ยรวมทั้งหมดภายหลังจ่ายเบี้ยปีที่ 20 หรือเบี้ยปีสุดท้ายของ ประกันโรคร้ายแรง BLA Happy CI ทันที

จากจุดนี้เองจึงทำให้เห็นถึงความจำเป็นในการเลือกสัดส่วนระหว่างทุนประกันชีวิต (ทุนประกันมรดก) กับ ทุนประกันโรคร้ายแรง ที่เหมาะสม

โดยหากอายุยังน้อยกว่า 32 ปี ที่มูลค่าเวนคืนของ BLA Happy CI สามารถเกินเบี้ยทั้งหมดได้ด้วยตนเอง สัดส่วนของทุนประกันชีวิตที่สูงก็อาจไม่จำเป็นมากนัก (เว้นแต่ต้องการนำไปจับคู่กับประกันมรดกเพื่อให้มูลค่าเวนคืนแซงเบี้ยทั้งหมดเมื่อชำระเบี้ยครบ 20 ปีพอดี)

ในขณะที่หากเริ่มทำ BLA Happy CI ตอนอายุมากกว่า 32 ปีขึ้นไป การพิจารณาทุนประกันชีวิตที่เหมาะสมเพื่อยกระดับมูลค่าเวนคืนให้เกินเบี้ยที่จ่ายไปทั้งหมด จะเป็นสิ่งสำคัญ

บทสรุป การแก้ไขปัญหาประกันชีวิตควบโรคร้ายแรงด้วย BLA Happy CI

• จะเห็นได้ชัดเจนว่าการแยก ประกันชีวิต กับ ประกันโรคร้ายแรงเบี้ยคงที่ ออกจากกันนั้น ช่วยให้ได้ ความคุ้มครองที่เพิ่มมากขึ้น (หรือ บริษัทประกันแบกรับความเสี่ยงมากขึ้น) และทำให้ได้มูลค่าเวนคืนเกินเบี้ยที่จ่ายไปทั้งหมดได้อย่างรวดเร็วโดยอาศัยประกันมรดกที่ใช่
• ซึ่งการได้มูลค่าเวนคืนเกินเบี้ยเร็ว ก็เหมือนกับได้เเงินที่ลงทุน (เพื่อแลกกับความคุ้มครอง) กลับมาเร็ว ทำให้หลังจากนี้หากเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องได้รับความคุ้มครองอีก ก็สามารถยกเลิกสัญญาแล้วได้เงินกลับคืนมาได้ทุกเมื่อ
• หรือ หากยังต้องการได้รับความคุ้มครองต่อไป ก็ยังสามารถนำเงินส่วนนี้ออกมาใช้ได้ในยามฉุกเฉินชั่วคราว ผ่านการกู้กรมธรรม์ที่อัตราดอกเบี้ยน้อยมาก

อย่างไรก็ตามประกันโรคร้ายเบี้ยคงที่ ของ กรุงเทพประกันชีวิต หรือ BLA Happy CI นั้น อาจจะไม่ได้เหมาะกับทุนคน โดยจะสามารถพิจารณาว่า BLA Happy CI จะเหมาะกับท่านหรือไม่ ที่รายละเอียดข้อมูลของแบบประกัน BLA Happy CI โดยตรงด้านล่างนี้