BLA PREMIER LINK
พรีเมียร์ ลิงก์
ประกันชีวิตควบการลงทุนที่เบี้ยประกันประหยัดที่สุดในตลาด เพื่อแลกกับความคุ้มครองชีวิตช่วงก่อนเกษียณด้วยเงินที่สูงสุด โดยเฉพาะเมื่อเริ่มทำตอนอายุ 30-45 ปี
เน้นคุ้มครองรายได้ช่วงทำงานหรือช่วงก่อนเกษียณ ด้วยเบี้ยคงที่ที่ 0.4% - 1% ของทุนประกันที่เลือกจนถึงอายุ 60 ปี
(ยิ่งเริ่มทำเร็วยิ่งเลือกทุนชีวิตได้สูง)
อายุรับทำประกัน
แรกเกิด ถึง 70 ปี
เบี้ยประกันเริ่มต้น
12,000
เลือกทุนประกันสูงสุด 200 - 250 เท่า ของเบี้ยจนถึงอายุ 40 ปี
*เน้นพอร์ตลงทุนเสี่ยงต่ำผลตอบแทนคาดการณ์ 1%-3% ต่อปี
- สามารถเลือกทุนชีวิตสูงถึง 200 - 250 เท่าของเบี้ยประกัน จนถึงอายุ 40 ปี (สูงที่สุดในตลาดปัจจุบัน)
- หากไม่พักชำระเบี้ย หรือขายหน่วยลงทุน หรือลดเบี้ยหลัก ระบบจะการันตีให้กรมธรรม์มีผลบังคับ 10 ปี แม้มูลค่าพอร์ตการลงทุนจะติดลบก็ตาม
- เหมาะกับการคุ้มครองสูงถึงอายุ 60 ปี ด้วยเบี้ยที่ประหยัดที่สุด
- ไม่มีการบังคับพ่วงสัญญาความคุ้มครองทุพพลภาพถาวร และสามารถพิจารณาเลือกทุนคุ้มครองทุพพลภาพถาวรที่เหมาะสมเองได้
- ลดหย่อนภาษีส่วนเบี้ยประกันชีวิตที่ไม่ได้นำไปลงทุนในกองทุนรวมได้
สรุปความคุ้มครอง
BLA Premier Link
ความคุ้มครอง
กรณีเสียชีวิต
บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์ เป็นจำนวนที่มากกว่า ระหว่าง (1.) หรือ (2.)
(1.) จำนวนเงินเอาประกันภัย หรือทุนประกันชีวิต
(2.) มูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนของพอร์ตกองทุนรวมในกรมธรรม์ + จำนวนเงิน 5 เท่าของเบี้ยประกันภัยหลักต่อปีในขณะนั้น
กรณีมีชีวิตอยู่จนครบกำหนดสัญญา หรือ ยกเลิกสัญญา
บริษัทจะจ่ายมูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนของพอร์ตกองทุนรวมในกรมธรรม์ให้แก่ผู้เอาประกันภัย
สัญญาเพิ่มเติมความคุ้มครองที่แนบได้
ควรเลือกสัญญาเพิ่มเติมที่เน้นคุ้มครองถึงอายุ 60 ปี ดังนี้
คุ้มครองโรคร้ายแรงเบี้ยเพิ่มตามอายุ
คุ้มครองค่ารักษาอุบัติเหตุ
คุ้มครองชีวิตทุพพลภาพจาดอุบัติเหตุ
คุ้มครองรายได้จากการนอน รพ.
คุ้มครองทุพพลภาพถาวร
จุดเด่น BLA PREMIER LINK เป็นประกันชีวิตชั่วระยะเวลา
ประกันควบการลงทุน (Unit-Linked) มีจากหลากหลายบริษัท และมีความแตกต่างกันในรายละเอียดของโครงสร้างค่าใช้จ่าย เช่น ค่าดำเนินการประกันภัย ค่าบริหารกองทุน เป็นต้น จึงทำให้เปรียบเทียบกันค่อนข้างยาก
แต่จริง ๆ แล้วหากพิจารณาเพียงเฉพาะ 5 ปัจจัยสำคัญ (ด้านล่าง) ก็จะเพียงพอสำหรับช่วยในการเปรียบเทียบเลือกแบบประกัน Unit-Linked ที่นำมาใช้เป็นประกันชีวิตชั่วระยะเวลา เพื่อให้ได้ทุนชีวิตสูงสุดและประหยัดเบี้ยมากที่สุดได้
จุดพิจารณาสำคัญ
รายละเอียด
1. ตารางเพดานทุนชีวิตที่ทำได้ (บริษัทใดให้ทุนชีวิตมากกว่ากัน)
- ส่วนนี้เป็นส่วนแตกต่างหลักของแต่ละบริษัทซึ่งต้องพิจารณาเป็นอันดับแรก เพราะเป็นเงื่อนไข(ที่แก้ไข)ตายตัว ทำให้แม้จ่ายเบี้ยที่เท่ากัน แต่ละบริษัทก็จะมีเพดานทุนชีวิตที่เลือกได้แตกต่างกันทั้งอายุและเพศ ทำให้
- บางบริษัทไม่สามารถให้ทุนชีวิตที่สูงมากได้ ด้วยเพราะมีการบังคับพ่วงสัญญาเพิ่มเติมในแบบประกัน หรือ คิดค่าดำเนินการประกันภัยในจำนวนที่ไม่มากพอที่จะดันเพดานทุนชีวิตให้สูงขึ้น
- BLA Premier Link ให้ทุนชีวิตสูงสุดที่ 200 เท่าของเบี้ยในเพศชาย และ 250 เท่าของเบี้ยในเพศหญิง จนถึงอายุเริ่มทำประกันที่อายุ 40 ปี
2. ระยะเวลาการันตีให้ความคุ้มครอง (บริษัทใดการันตีอายุกรมธรรม์ได้นานกว่า)
- บางบริษัทไม่มีกำหนดเพดานทุนชีวิต โดยผู้ทำประกันต้องพิจารณาเลือกทุนชีวิตเอง ซึ่งหากเลือกสูงเกินไปก็อาจทำให้กรมธรรม์ปิดตัวลงได้ในระยะเวลาไม่ถึงปี จึงทำให้บริษัทลักษณะนี้ จะไม่มีระยะเวลาการันตีว่ากรมธรรม์จะอยู่ได้นานกี่ปี ถึงแม้มูลค่ากรมธรรม์จะติดลบ(-)
- ในขณะที่บางบริษัทที่มีการกำหนดเพดาน จะมีการระบุจำนวนปีที่การันตีว่ากรมธรรม์จะอยู่ได้นานกี่ปี เช่น ได้นาน 10 ปีแม้มูลค่ากรมธรรม์จะติดลบ(-)ก็ตาม ซึ่งอาจทำให้ได้ประกันชั่วระยะเวลาแบบ 10 ปีที่มีเบี้ยน้อยที่สุดได้
- BLA Premier Link การันตีให้ความคุ้มครองที่ 10 ปี
3. ตารางการจำลอง จากอัตราผลตอบแทนคาดการณ์ต่อปีที่ถูกกำหนดโดย คปภ. (บริษัทใดมีระบบเอื้อให้กรมธรรม์มีอายุได้นานมากกว่า ที่ทุนชีวิตเท่ากัน และ เบี้ยพอ ๆ กัน)
- บริษัทประกันจะพยายามเสนอโบนัส ส่วนลดค่าธรรมเนียมการจัดการต่าง ๆ เพื่อเพิ่มแรงดึงดูดทางการตลาด
- ซึ่งวิธีการเปรียบเทียบที่ยุ่งยากน้อยที่สุด ให้พิจารณาที่ผลลัพธ์การจำลองอัตราผลตอบแทนที่ 2% ต่อไป ในใบเสนอขายของแต่ละบริษัท ด้วยเบี้ยที่เท่ากันทุนชีวิตเท่ากัน
- ว่าผลลัพธ์สุดท้ายของ มูลค่ากรมธรรม์ Unit-Linked ของบริษัทต่าง ๆ บริษัทใดจะสามารถมีอายุกรมธรรม์อยู่ได้นานที่สุด
- BLA Premier Link สามารถให้ทุนชีวิตที่สูงมากด้วยเบี้ยที่น้อย จนถึงอายุ 60 ปี ด้วยอัตราผลตอบแทนคาดการณ์ที่ 2% ต่อปี
4. ควรจ่ายรายปี หรือ รายเดือน [จ่ายแบบใดช่วยให้กรมธรรม์มีอายุได้นานกว่า]
- เนื่องจากพอร์ตกองทุนรวมที่แนะนำให้ใช้สำหรับเน้นทุนชีวิตสูงจะเป็นแบบความเสี่ยงต่ำ ที่เน้นผลตอบแทนในรูปแบบดอกเบี้ยจากตราสารหนี้ทั้งภาครัฐและเอกชนเป็นหลัก
- ดังนั้นการจ่ายแบบรายปีจะทำให้มูลค่าในกรมธรม์เติบโตได้มากกว่า ส่งผลต่ออายุกรมธรรม์ที่ยาวนานมากขึ้น
- ซึ่งหากพิจารณาจากตารางจำลองในใบเสนอขาย เทียบกันระหว่างรายเดือนและรายปี จะเห็นอายุกรมธรรม์ที่แตกต่างกันชัดเจน โดยเฉพาะกับเพศชาย ที่ค่าประกันภัยชีวิต COI สูงอย่างมาก
- BLA Premier Link สามารถชำระเบี้ยรายปีได้ หรือ สามารถเลือกชำระเบี้ยสั้นเพียง 3 ปี แต่คุ้มครองถึงอายุ 60 ปีได้
5. ปีกรมธรรม์ที่เริ่มหยุดพักชำระเบี้ยได้ (บริษัทใดมีกลไกช่วยให้จ่ายเบี้ยได้สั้นกว่า)
- ระยะเวลาของแต่ละบริษัทจะแตกต่างกันไป เช่น บางบริษัทรอ 2 ปี หรือของ BLA จะให้รอ 3 ปี โดยปีที่ 4 จึงจะสามารถหยุดพักชำระเบี้ยประกัน หรือ Premium Holiday ได้
- โดยส่วนใหญ่ระยะเวลานี้จะมีขึ้นมาเพื่อให้ผู้ที่ต้องการชำระเบี้ยสั้น ๆ หรือ มีเงินก้อนเรียบร้อย และอยากรวบจ่ายเบี้ยครั้งเดียว เพราะกลัวจะเผลอนำเงินไปใช้เรื่องอื่น ๆ ก่อน
- เช่น เบี้ย 40,000 บ. ทุนชีวิต 10,000,000 บ. ของผู้หญิงอายุ 40 ปี ต้องการความคุ้มครองนาน 20 ปี (หรือจนถึงอายุ 60) รวมเป็นเบี้ย 800,000 บ.
- แต่บริษัทบังคับต้องจ่ายเบี้ย 3 ปีก่อน ถึงหยุดชำระเบี้ยได้ ทำให้ปีที่ 1-3 จึงชำระเบี้ย 40,000 บ. และปีที่ 3 ได้ชำระเบี้ยส่วนนำไปลงทุนโดยตรงเพิ่มอีก 680,000 บ. (จาก 800,000 ลบด้วย 120,000 ที่จ่ายไปแล้ว)
- แล้วจึงทำเรื่องหยุดพักชำระเบี้ย ต่อมาในปีที่ 4 - 20 ระบบก็ทำการตัดเงินจากเงินลงทุน 680,000 มาชำระเบี้ยแทนเรื่อย ๆ อัตโนมัติ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการลืมจ่ายเบี้ยอีก
- ซึ่งพอถึงปีที่ 20 อาจพบว่ามีมูลค่าในกรมธรรม์เหลืออยู่ ก็สามารถปิดกรมธรรม์นำเงินออกมาได้หากไม่ต้องการความคุ้มครองต่ออีกแล้ว เพื่อให้เหมือนได้เบี้ยกลับคืนมาบางส่วนอีกด้วย
ตารางเพดานทุนประกันชีวิตที่แนะนำ ณ อายุเริ่มทำประกัน
อายุ (ปี)
ชาย
ทุนขั้นสูง แนะนำ
ทุนขั้นสูง ปกติ
หญิง
ทุนขั้นสูง แนะนำ
ทุนขั้นสูง ปกติ
0 - 34
200 X
200 X
250 X
250 X
35
191 X
200 X
250 X
250 X
36
183 X
200 X
250 X
250 X
37
170 X
200 X
250 X
250 X
38
162 X
200 X
250 X
250 X
39
154 X
200 X
250 X
250 X
40
145 X
200 X
250 X
250 X
41 - 46
100 X
100 X
150 X
150 X
47
91 X
100 X
150 X
150 X
48
87 X
100 X
150 X
150 X
49
79 X
100 X
150 X
150 X
50
75 X
100 X
150 X
150 X
เบี้ยประกันภัยเริ่มต้นที่ ขั้นต่ำ 12,000 บาทต่อปี โดยสามารถเพิ่มเบี้ยได้ตามทุนชีวิตที่ต้องการความคุ้มครอง
โดยผู้ทำประกันสามารถหยุดพักชำระเบี้ย หรือลดเบี้ยประกันภัยหลักที่ชำระอยู่ได้ ตั้งแต่ปีกรมธรรม์ที่ 4 เป็นต้นไป (ลดได้ไม่ต่ำกว่าเบี้ยขั้นต่ำ) จะสามารถทำเรื่องลดเบี้ยได้ในปีกรมธรรม์ถัดไป และ ต้องยังไม่ได้ทำเรื่องหยุดพักชำระเบี้ย
เนื่องจากค่าประกันภัยชีวิต ( COI ) ของเพศชายจะแพงกว่าเพศหญิงมาก โดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้น (ผู้ชายมีความเสี่ยงเสียชีวิตมากกว่าผู้หญิง)
จึงทำให้หากต้องการให้กรมธรรม์ผู้ชายสามารถได้ทุนชีวิตที่สูงและอยู่ได้จนถึงอายุ 60 ปี จะจำเป็นต้องลดทุนประกันลงมาจากเพดานขั้นสูงสุดที่สามารถทำได้ในบางช่วงอายุให้เหลือตามเพดานแนะนำ (ไม่อย่างนั้นกรมธรรม์จะมีอายุได้เพียง 10 ปี ตามการการันตีของบริษัทเท่านั้น)
ซึ่งจะแตกต่างกับของผู้หญิง ที่จะสามารถใช้ทุนชีวิตตามเพดานขึ้นสูงสุดได้ และกรมธรรม์สามารถอยู่ได้เกินอายุ 60 ปีอย่างแน่นอน (ในพอร์ตกองทุนรวมแบบความเสี่ยงต่ำ)
หมายเหตุ :
- หากอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป การพิจาณาเลือกทำประกันชีวิตชั่วระยะเวลาแบบ 10 ปี จะจ่ายเบี้ยน้อยกว่า BLA Premier Link ที่ทุนชีวิตเท่ากัน
- ยิ่งเริ่มทำช้าเพดานที่เลือกได้ยิ่งลดลง โดยหากเลือกเพดานแล้ว เพดานสามารถคงที่ต่อไปได้ตลอดด้วยเบี้ยที่ชำระคงที่เท่าเดิม จนกว่ามูลค่าในกรมธรรม์จะหมดตอนประมาณอายุ 60 ปี
- สามารถเปลี่ยนทุนประกันได้ ณ วันครบรอบเดือนกรมธรรม์ (โดยยึดเพดานทุนประกันที่เปลี่ยนแปลงตามอายุขณะนั้นประกัน) ยิ่งเริ่มทำช้าเพดานที่เลือกได้ยิ่งน้อยลง
ตย. วิธีคำนวณทุนชีวิตตามตารางเพดานทุนชีวิตที่แนะนำ

BLA Premier Link ความคุ้มสูงสุดถึงอายุ 60 (ผลตอบแทนคาดหวัง 3% ต่อปี)
ตย. เบี้ยประกันคงที่ตามอายุที่เริ่มทำประกัน
(ทุนชีวิต 5 ล้านบาท)


พอร์ตการลงทุนที่แนะนำ
พรีเมียร์ลิงก์ เป็นประกันชีวิตควบการลงทุน จึงให้อิสระในการจัดพอร์ตกองทุนรวมที่จะลงทุนภายในกรมธรรม์ได้
โดยจะนำมูลค่าพอร์ตกองทุนรวมในกรมธรรม์ออกมาจ่ายค่าการประกันภัย COI ทุกเดือน ผ่านการขายกองทุนรวมอัตโนมัติ
ทำให้ในเดือนที่ขายกองทุนรวมมาจ่ายค่า COI นั้น..หากตลาดกำลังเป็นตลาดขาลงอย่างหนัก การขายกองทุนเดือนนั้น ย่อมทำให้มูลค่าพอร์ตกองทุนรวมลดลงมาก
โดยเฉพาะหากเลือกพอร์ตกองทุนรวมความเสี่ยงสูงที่มีโอกาสจะลงมากกว่าตลาดได้ ซึ่งหากพอร์ตติดลบอยู่แล้ว ยังต้องขายกองทุนออกมาจ่ายค่าประกันภัย COI ที่ทุนชีวิตสูงร่วมด้วย ก็จะทำให้มูลค่าพอร์ตกองทุนรวมในกรมธรรม์ลดลงอย่างมาก และเสี่ยงถูกปิดกรมธรรม์ลงก่อนอายุ 60 ปีได้
นี้จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือก พอร์ตกองทุนรวมความเสี่ยงต่ำ ที่ช่วยป้องกันปัญหาตลาดขาลงหนักนี้
โดยพอร์ตเสี่ยงต่ำจะไม่ติดลบมากตามตลาด หรือ แทบไม่ติดลบเลย ด้วยมีความผันผวนที่น้อยและสามารถคาดการณ์ว่าจะคุ้มครองได้ถึงอายุ 60 ได้อย่างแม่นยำกว่าพอร์ตความเสี่ยงสูงมาก
หมายเหตุ : ปัจจุบันในส่วนสิทธิการลดหย่อนภาษีประกันชีวิต พรีเมียร์ลิงก์ จะไม่สามารถนำเบี้ยส่วนที่นำไปลงทุนไปลดหย่อนภาษีได้ (แต่คาดว่าปี 68 หรือ 69 จะสามารถนำมาลดหย่อนทั้งหมดได้แล้ว)
พอร์ตกองทุนรวมความเสี่ยงต่ำที่ BLA คัดสรร

พอร์ตกองทุนรวมแบบความเสี่ยงต่ำที่ทางบริษัทแนะนำ จะประกอบไปด้วย ตราสารหนี้ 80% และ ตราสารทุนหรือหุ้น 20%
เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้ผลตอบแทน (ที่มีความผันผวนน้อยและยากที่จะติดลบมากได้) โดยจะสามารถพิจารณาเกี่ยวกับพอร์ตกองทุนรวมที่บริษัทแนะนำ และเหตุใดจึงควรเป็นพอร์ตความเสี่ยงต่ำ ได้จากปัจจัยดังต่อไปนี้
สถิติอัตราผลตอบแทนโดยเฉลี่ยต่อปี

สถิติอัตราผลตอบแทนตามปี

รายชื่อกองทุนรวมในพอร์ตความเสี่ยงต่ำที่ BLA คัดสรร
รายชื่อกองทุนรวม
สัดส่วนการลงทุน
ประเภทสินทรัพย์
Fund fact sheet
ตัวอย่าง ความคุ้มครองทุนชีวิต 10 ล้าน
ทุนชีวิต 10,000,000 บาท คงที่ถึงอายุ 60 ปี ที่เบี้ย 54,545 บ.ต่อปีแบบคงที่ ของผู้ชายอายุ 36 ปี


ตารางจำลองอัตราผลตอบแทนคาดหวัง ตามที่ คปภ. กำหนด
จุดสังเกตุสำคัญอยู่ที่คอลัมป์ "อายุ" และ "ผลประโยชน์กรณีเสียชีวิต"

สมมติ อัตราผลตอบแทนการลงทุน -1% ต่อปี


สมมติ อัตราผลตอบแทนการลงทุน 5% ต่อปี
จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า หากเลือกเบี้ยคงที่ 54,545 บ.ต่อปี ที่ทุนคุ้มครองคงที่ 10 ล้านบาท (หรือคิดเป็น 183.3 เท่าของเบี้ย) หากอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 2% ต่อปี จะทำให้กรมธรรม์สามารถคุ้มครองได้ถึงอายุ 60 ปีกว่า ๆ หรือหากต้องการความมั่นใจเพิ่มขึ้น อาจปัดเพิ่มเบี้ยอีกเล็กน้อยเป็นที่ 55,000 บ.ต่อปี
คุณสมบัติพิเศษ สามารถชำระเบี้ยสั้นแต่คุ้มครองยาวได้
BLA Premier Link จะมีประโยชน์อย่างมาก หากต้องการชำระเบี้ยสั้น เช่น 3-5 ปี ด้วยวิธีชำระเบี้ยที่เหลือล่วงหน้าเข้ามาในกรมธรรม์ได้ จากนั้นหยุดชำระเบี้ยเพื่อปล่อยให้ระบบทำการตัดเบี้ยล่วงหน้านี้มาชำระเบี้ยแต่ละงวดอย่างอัตโนมัติ
โดยจะเรียกเบี้ยล่วงหน้านี้ว่า "เบี้ยประกันภัยเพิ่มเติมพิเศษ" หรือ "Top-up Premium" (แต่จะชำระเบี้ยแบบนี้ได้เฉพาะปีที่ยังไม่ได้หยุดพักชำระเบี้ยเท่านั้น หรือ ตอนได้รับคำเตือนว่ามูลค่ากรมธรรม์กำลังจะหมดแล้วเท่านั้น)
โดย เบี้ยประกันภัยเพิ่มเติมพิเศษ (Top-up Premium) นี้ จะแบ่งออกเป็น 2 แบบด้วยกันคือ
เบี้ยประกันภัยเพิ่มเติมพิเศษที่ตั้งใจว่าจะชำระเป็นประจำทุกปี พร้อมเบี้ยประกันภัยหลัก
เบี้ยประกันภัยเพิ่มเติมพิเศษที่ไม่ต้องการชำระเป็นประจำทุกปี (เลือกชำระตามปีที่ต้องการได้ แต่ปีนั้นต้องไม่อยู่ในช่วงหยุดพักชำระเบี้ย เว้นแต่มูลค่ากรมธรรม์กำลังจะหมดลง และถูกเตือนจากระบบ)
คุณสมบัติเด่น BLA Premier Link เมื่อเทียบกับบริษัทอื่นๆ
จุดเด่น BLA Premier Link
- เป็นเพียงแบบประกันเดียวในตลาดที่กำหนดให้อายุ 0-40 ปี สามารถทำทุนชีวิตได้ 200-250 เท่าของเบี้ยประกันหลักและยังมีการันตีอายุกรมธรรม์ให้อีก 10 ปี
ประกันชีวิต Unit-Linked บริษัทอื่น
- บริษัทอื่น ๆ หากอายุ 30-40 ปี การให้ความคุ้มครองมักจะได้ประมาณที่ 100-120 เท่า หรือ หากเป็นแบบไม่มีเพดาน ก็จะไม่มีการการันตีอายุกรมธรรม์ให้
จุดเด่น BLA Premier Link
- หากจำเป็นต้องขายกองทุนรวมส่วนที่เป็นเบี้ยหลักออกมา จะถูกบทลงโทษเพียง 2 ปีแรก ที่จะถูกหักค่าดำเนินการประกันภัยเพิ่มเติมพิเศษเท่านั้น
▸ ขายปีกรมธรรม์ที่ 1 จะถูกหัก 50% ของมูลค่ากองทุนรวม
▸ ขายปีกรมธรรม์ที่ 2 จะถูกหัก 25% ของมูลค่ากองทุนรวม
▸ และปีกรมธรรม์ที่ 3 จะไม่ถูกหักค่าดำเนินการประกันภัย
โดยขั้นต่ำของการขายจะอยู่ที่ 2,000 บ. และมูลค่ากรมธรรม์ตอนนั้นต้องไม่ต่ำกว่า 8,000 บ.
ประกันชีวิต Unit-Linked บริษัทอื่น
- สามารถขายกองทุนรวมส่วนที่เป็นเบี้ยหลักได้ โดยหากขาย
▸ ปีที่ 1 จะถูกหัก 85% หรือ 50% หรือ 40%
▸ ปีที่ 2 จะถูกหัก 80% หรือ 35%
▸ ปีที่ 3 จะถูกหัก 65% หรือ จะไม่ถูกหักค่าดำเนินการประกันภัยแล้ว
▸ ปีที่ 4-10 จะถูกหัก 55% - 15% หรือ จะไม่ถูกหักค่าดำเนินการประกันภัยแล้ว
จุดเด่น BLA Premier Link
- เบี้ยหลักจะมีการหักค่าดำเนินการประกันภัยตั้งแต่ปีที่ 1 เป็นต้นไปดังนี้ (ค่าจัดตั้งระบบ ค่ากำหนดเงื่อนไขเพดานทุนชีวิต ค่าการันตีอายุกรมธรรม์ ค่าธรรมเนียม ค่าบริหารต่าง ๆ)
กรุงเทพประกันชีวิต (BLA) | |
---|---|
ปีที่ 1 | 60% ของเบี้ยหลัก |
ปีที่ 2 | 40% ของเบี้ยหลัก |
ปีที่ 3 | 20% ของเบี้ยหลัก |
ปีที่ 4-6 | 10% ของเบี้ยหลัก |
ปีที่ 7-8 | 2% ของเบี้ยหลัก |
ปีที่ 9 เป็นต้นไป | 0% ของเบี้ยหลัก |
ประกันชีวิต Unit-Linked บริษัทอื่น
- เบี้ยหลักจะมีการหักค่าดำเนินการประกันภัยตั้งแต่ปีที่ 1 เป็นต้นไปดังนี้ (ค่าจัดตั้งระบบ ค่ากำหนดเงื่อนไขเพดานทุนชีวิต ค่าการันตีอายุกรมธรรม์ ค่าธรรมเนียม ค่าบริหารต่าง ๆ)
บริษัทประกันชีวิต A | |
---|---|
ปีที่ 1 | 60% ของเบี้ยหลัก |
ปีที่ 2 | 40% ของเบี้ยหลัก |
ปีที่ 3 | 20% ของเบี้ยหลัก |
ปีที่ 4 | 10% ของเบี้ยหลัก |
ปีที่ 5 | 5% ของเบี้ยหลัก |
ปีที่ 6 เป็นต้นไป | 0% ของเบี้ยหลัก |
บริษัทประกันชีวิต B | |
---|---|
ปีที่ 1 | 70% ของเบี้ยหลัก |
ปีที่ 2 | 30% ของเบี้ยหลัก |
ปีที่ 3 | 20% ของเบี้ยหลัก |
ปีที่ 4 | 10% ของเบี้ยหลัก |
ปีที่ 5 | 5% ของเบี้ยหลัก |
ปีที่ 6 เป็นต้นไป | 0% ของเบี้ยหลัก |
บริษัทประกันชีวิต C | |
---|---|
ปีที่ 1 | 60% ของเบี้ยหลัก |
ปีที่ 2 | 40% ของเบี้ยหลัก |
ปีที่ 3 | 30% ของเบี้ยหลัก |
ปีที่ 4-10 | 10% ของเบี้ยหลัก |
ปีที่ 11 เป็นต้นไป | 5% ของเบี้ยหลัก |
โบนัสพิเศษจาก
Release your Risk
เนื่องจากทาง Release your Risk จะเน้นการบริการไปที่การวางแผนเกษียณผ่านการบูรณาการเครื่องมือการเงินต่าง ๆ ทั้ง ประกันชีวิต ประกันโรคร้ายแรง ประกันสุขภาพ ประกันบำนาญ กองทุนรวม โดยให้ข้อมูลที่ครบถ้วนมากที่สุดในทุกขั้นตอน เพื่อประกอบการตัดสินใจเลือกใช้เครื่องมือนั้น ๆ โดยไม่มีปัญหาเกิดขี้นตามมาภายหลัง
ซึ่งแน่นอนว่าจะรวมไปถึงการวางแผนให้เครื่องมือที่จำเป็นอย่างเช่น ประกันโรคร้ายแรง ประกันสุขภาพ สามารถอยู่ดูแลได้ตลอดช่วงเกษียณ (ที่รายได้ลดลงแต่ราคาเครื่องมือสูงขึ้นมากตามอายุ) โดยการให้เฉพาะข้อมูลเครื่องมืออย่างเดียวจะไม่เพียงพออีกต่อไป แต่จำเป็นต้องมีการคำนวณสำหรับตอนเกษียณมาร่วมด้วย
ดังนั้นทาง Release your Risk จึงได้พัฒนาเครื่องมือคำนวณขึ้นมา เพื่อให้ท่านที่มีเครื่องมือการเงินเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้วางแผนไปถึงตอนเกษียณ ได้สามารถใช้บริการเครื่องมือคำนวณนี้เพื่อเตรียมการได้ทันกาล และใช้เงินน้อยลงจากเดิมอย่างมาก
**อย่างไรก็ตามหากท่านเลือกสมัครใช้เครื่องมือการเงินต่าง ๆ กับทาง Release your Risk ท่านจะได้โบนัสพิเศษเป็นสิทธิการเข้าใช้เครื่องมือคำนวณต่อไปนี้ ได้โดยไม่ต้องเสียค่าบริการใด ๆ เพิ่มเติม
โบนัสพิเศษ Level -1-
Release Your Risk
สิทธิเข้าใช้เครื่องมือคำนวณวางแผนประกันบำนาญมูลค่า 5,000 บ.

BONUS Level : 1.1
แบบประกัน
เบี้ยไม่น้อยกว่า
ชีวิต/โรคร้ายแรง/สุขภาพ
7,000 - 14,999 บาท (ต่อปีต่อคน)
เครื่องมือคำนวณหาแบบประกันบำนาญผลตอบสูงสำหรับไว้ชำระเบี้ยประกันแบบคงที่ หรือ เป็นเงินบำนาญ ตอนเกษียณ
ช่วยในการคำนวณหาแบบประกันบำนาญของแต่ละบริษัทที่จะใช้เงินน้อยที่สุด
- เพื่อใช้ชำระเบี้ยประกันแบบคงที่ตอนเกษียณได้ (เหมาะอย่างยิ่งกับ BLA อุ่นใจโรคร้าย) โดยประหยัดเงินมากกว่า 50% ขึ้นไป และไม่ต้องกังวลการหาเงินสำหรับชำระเบี้ยตอนเกษียณ
- เพื่อใช้เป็นเงินบำนาญส่วน NEEDs แบบคงที่ต่อเดือนหรือต่อปีในตอนเกษียณได้ โดยเตรียมเงินน้อยลงกว่า 50% ขึ้นไป โดยเป็นเงินที่ไม่ต้องเสียภาษี ไม่ต้องดูแลบริหาร หรือมีความเสี่ยงด้านการลงทุนใด ๆ
BONUS Level : 1.2
แบบประกัน
เบี้ยไม่น้อยกว่า
ชีวิต/โรคร้ายแรง/สุขภาพ
15,000 - 24,999 บาท (ต่อปีต่อคน)
เครื่องมือคำนวณหาประกันบำนาญผลตอบแทนสูงสำหรับไว้ชำระเบี้ยประกันสุขภาพที่เบี้ยเพิ่มตามอายุ ตอนเกษียณ
ช่วยในการคำนวณหาแบบประกันบำนาญของแต่ละบริษัทที่จะใช้เงินน้อยที่สุด
- เพื่อใช้ชำระเบี้ยประกันสุขภาพที่เพิ่มตามอายุตอนเกษียณได้ (เหมาะอย่างยิ่งกับประกันสุขภาพเหมาจ่าย) โดยประหยัดเงินมากกว่า 50% ขึ้นไป และไม่ต้องกังวลการหาเงินสำหรับชำระเบี้ยตอนเกษียณ
โบนัสพิเศษ Level -2-
Release Your Risk
สิทธิเข้าใช้เครื่องมือคำนวณวางแผนเกษียณมูลค่า 20,000 บ.

ช่วยในการคำนวณวางแผนเกษียณ ผ่านการลงทุนในกองทุนรวมลดหย่อนภาษีเป็นอันดับแรก โดยใช้กลยุทธ กองทุน Target Date + กองทุน Global Asset Allocation + Time Segmentation + ประกันบำนาญ + Monte Carlo Simulations + การคำนวณติดตามผล
- สำหรับคำนวณวางแผนเกษียณทั้งส่วนเบี้ยประกันสุขภาพและบำนาญ เพื่อมีโอกาสประหยัดเงินได้มากกว่า 60%-80% ขึ้นไป
- สามารถคำนวณอัตราความอยู่รอดของกองทุนเกษียณที่ต้องการในแต่ละอายุได้ ผ่านการทำ Monte Carlo Simulation
- สามารถคำนวณอัตราความอยู่รอดของกองทุนเกษียณที่เพิ่มขึ้น หากนำบำนาญจากประกันบำนาญมาคำนวณร่วมด้วยในสัดส่วนที่ต้องการได้
- สามารถนำผลการลงทุนจริงที่ได้ในแต่ละปี มาคำนวณติดตามผลคาดการณ์ปรับแผนการลงทุนได้ โดยเฉพาะในกรณีที่มีการเปลี่ยนแผนการลงทุน เช่น ไม่ได้ลงทุนเท่ากันทุกปีตามแผนที่วางไว้ตอนแรก
BONUS Level : 2.1
แบบประกัน
เบี้ยไม่น้อยกว่า
ชีวิต/โรคร้ายแรง/สุขภาพ
25,000 - 49,999 บาท (ต่อปีต่อคน)
เครื่องมือคำนวณ "กองทุนสุขภาพ" สำหรับเบี้ยประกันสุขภาพและค่ารับผิดส่วนแรก ตอนเกษียณ
- สำหรับใช้ชำระเบี้ยประกันสุขภาพเหมาจ่าย และ สำหรับเผื่อค่ารับผิดส่วนแรกในตอนเกษียณ เพื่อมีโอกาสประหยัดเงินได้มากกว่า 60%-80% ขึ้นไป พร้อมการคำนวณร่วมกับบำนาญที่ได้จากประกันบำนาญ หรือจากประกันสังคม
BONUS Level : 2.2
แบบประกัน
เบี้ยไม่น้อยกว่า
ชีวิต/โรคร้ายแรง/สุขภาพ/บำนาญ
50,000 บาท (ต่อปีต่อคน)
ฺเครื่องมือคำนวณ "กองทุนเกษียณ" สำหรับเป็นเงินบำนาญเสริมประกันบำนาญตอนเกษียณ
- สำหรับใช้เป็นบำนาญส่วน WANTs หรือ ส่วนเงินเฟ้อของ NEEDs ตอนเกษียณ เพื่อมีโอกาสประหยัดเงินได้มากกว่า 60%-80% ขึ้นไป พร้อมการคำนวณร่วมกับบำนาญที่ได้จากประกันบำนาญ หรือจากประกันสังคม
สิทธิพิเศษจาก
BLA กรุงเทพประกันชีวิต
กรุงเทพประกันชีวิต หรือ BLA เอง มีสิทธิพิเศษต่าง ๆ มอบให้กับท่านที่ตัดสินใจเข้าร่วมโอนและเฉลี่ยความเสี่ยงภัยกับทาง BLA ดังต่อไปนี้
PROMOTION เบี้ยปีแรก 0% 4 เดือน
เพื่อให้ท่านสามารถทำการโอนและเฉลี่ยความเสี่ยงได้ง่ายมากขึ้น ทาง BLA จึงมีโปร 0% 4 เดือน ของบัตรและแบบประกันที่เข้าร่วมรายการดังนี้

*ยกเว้นประกันชีวิตควบการลงทุน และ ประกันชีวิตแบบชำระเบี้ยครั้งเดียว และ บัตรเครดิตต้องเคยใช้ซื้อของออนไลน์มาก่อน
สมาชิก BLA HAPPY LIFE CLUB
และเมื่อท่านได้เข้าร่วมโอนและเฉลี่ยความเสี่ยงกับทาง BLA เรียบร้อย ท่านจะได้สิทธิพิเศษการใช้บริการฟรี หรือได้รับสินค้าฟรี รวมถึงส่วนลดพิเศษ จากทางบริษัท Partner ของทาง BLA มากมาย ที่ครอบคลุมทั้งสินค้าและบริการในทุกด้านดังต่อไปนี้



เข้าถึง BLA HEALTH SERVICES
นอกจากสิทธิพิเศษของบริษัท Partner ต่าง ๆ แล้ว ทางด้านที่เกี่ยวข้องกับการตรวจวินิจฉัยและการรักษา ทาง BLA จะมีบริการที่ดูแลและครอบคลุมเพิ่มเติมจากความคุ้มครองในกรมธรรม์ของท่าน ทั้งก่อนเข้ารับการรักษา ระหว่างการรักษา และ หลังเข้ารับการรักษา ดังต่อไปนี้ (*สิทธิพิเศษจะแตกต่างกันไปตามแบบประกันที่ท่านถืออยู่)

เงื่อนไขที่ต้องทำความเข้าใจก่อนจะเริ่มทำประกัน
ในระหว่างขั้นตอนการพิจารณารับทำประกัน อาจจำเป็นต้องมีการขอข้อมูลดังต่อไปนี้ (ตาม พรบ.ป้องกันการฟอกเงิน)
เขตพื้นที่สีแดง (Red Zone)
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ
ภาคเหนือ
▸ ผู้ขอทำประกันมีโอกาสสูงที่จะถูกขอให้ตรวจสุขภาพ
▸ ขอให้แสดงแหล่งที่มาของรายได้ และสินทรัพย์ที่มี (มีที่มาที่ไปว่าทำไมต้องทำประกัน)
เขตจังหวัดสีแดง (Red Province)
อุดรธานี
อุบลราชธานี
ขอนแก่น
หนองบัวลำภู
มหาสารคาม
นครราชสีมา
▸ ผู้ขอทำประกันมีโอกาสสูงที่จะถูกขอให้ตรวจสุขภาพ
▸ ขอให้แสดงแหล่งที่มาของรายได้ และสินทรัพย์ที่มี (มีที่มาที่ไปว่าทำไมต้องทำประกัน)
1. จำนวนทุนประกันชีวิตต่อจำนวนเท่าของรายได้ (ต่อปี)
อายุรับประกัน (ปี)
ทุนชีวิตสูงสุด(เท่า)
20 - 29
15-20 เท่าของรายได้ต่อปี
30 - 39
10-15 เท่าของรายได้ต่อปี
40 - 49
10 เท่าของรายได้ต่อปี
50 - 59
5-10 เท่าของรายได้ต่อปี
อายุ 60 ปีขึ้นไป
5 เท่าของรายได้ต่อปี
2. ความสามารถในการชำระเบี้ยประกัน
**เบี้ยประกันรวมทั้งหมดไม่ควรเกิน 20% ของรายได้ต่อปี (หลังหักภาษี)
กรณีทุนประกันภัยสูง (นับทุนประกันชีวิตรวมทุกกรมธรรม์ที่มีผลบังคับ)
ทุนประกัน 1,000,000 บาทขึ้นไป
▸ เอกสารแสดงที่มาของรายได้ เช่น Statement สลิปเงินเดือน เอกสารยื่นภาษี เป็นต้น
ทุนประกัน 5,000,001 บาทขึ้นไป
▸ ตอบแบบสอบถามสำหรับการประกันภัยวงเงินสูง (12 ข้อ)
ทุนประกัน 10,000,001 บาทขึ้นไป
▸ ตอบแบบสอบถามสำหรับการประกันภัยวงเงินสูง (20 ข้อ)
▸ สำเนา Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือน
▸ สำเนาหนังสือจดทะเบียนบริษัท และสำเนารายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัท อายุไม่เกิน 3 เดือน (ถ้ามี)
▸ สำเนางบดุล และงบกำไร-ขาดทุน ย้อนหลัง 3 ปี (ถ้ามี)
เบี้ยประกัน 10 ล้านบาทขึ้นไป (ต่อปี)
▸ ตอบแบบสอบถามสำหรับเบี้ยประกันภัยมูลค่าสูง
▸ สำเนาหลักฐานแสดงแหล่งที่มาของจำนวนเงินที่จะใช้ในการชำระเบี้ยประกันภัยประกอบ เช่น
สมุดบัญชีเงินฝาก / สมุดบัญชีกองทุน / สัญญาซื้อขาย / หนังสือโอนกรรมสิทธิ์ / หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย / แบบยื่นเสียภาษีเงินได้ เป็นต้น พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง
หมายเหตุ : เขตพื้นที่ความเสี่ยงสูงหรืออาชีพเสี่ยงสูง มีโอกาสที่จะขอเอกสารเพิ่มเติมดังนี้ >> ผลตรวจเลือดค่าตับ รูปถ่ายปัจจุบันของผู้ขอทำประกันพร้อมที่พักอาศัยตามที่อยู่ที่ระบุโดยเห็นบริเวณบ้าน , ชี้แจ้งรายได้และแหล่งที่มาของรายได้โดยละเอียด , สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร , รายการยื่นภาษีเงินได้ , โฉนดที่ดิน เป็นต้น
เงื่อนไขสำคัญ
1. อายุที่รับประกันภัย
- อายุ 20 - 70 ปี
- ผู้เยาว์อายุ 0-1 ปี ให้แนบสำเนาสูติบัตรพร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง (โดยผู้ใช้อำนาจปกครองหรือผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้เยาว์) สำหรับใบคำขอเอาประกันชีวิตที่มีคำถามสุขภาพให้แนบสำเนาสมุดบันทึกสุขภาพผู้เยาว์เพิ่มเติม
- ผู้เยาว์อายุ 2-14 ปี ให้แนบสำนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาสูติบัตร หรือสำเนาทะเบียนบ้าน รับรองสำเนาถูกต้อง (โดยผู้ใช้อำนาจปกครองหรือผู้แทนโดยชอบธรรม)
หมายเหตุ : กรณีผู้ขอเอาประกันภัยยังไม่บรรลุนิติภาวะตามกฎหมายกำหนด และไม่ใช่ผู้ชำระเบี้ยประกันภัย ให้แนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ชำระเบี้ยประกันภัย พร้อมลงนามสำเนาถูกต้อง
2. อนุญาตให้ชำระเบี้ยประกันภัยผ่านบัตรเครดิตทุกธนาคาร (ยกเว้น บัตรไดเนอร์คลับและบัตรเอเม็กซ์ทุกประเภท) ตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข ของประกาศช่องการทางชำระเงินค่าเบี้ยประกันภัย กรณีชำระด้วยบัตรเครดิตโดยบริษัทรับผิดชอบค่าธรรมเนียมการใช้บัตรเครดิต ภายใต้ข้อกำหนดดังนี้
▸ "เบี้ยประกันภัยหลัก" และ "เบี้ยประกันภัยเพิ่มเติมพิเศษที่ชำระเป็นประจำ" สามารถชำระเบี้ยประกันภัยผ่านระบบตัดบัตรเครดิตแบบออนไลน์ ( Payment Gateway) หรือแจ้งความประสงค์ให้ความยินยอมหักชำระค่าเบี้ยประกันภัยผ่านบัตรเครดิต (Recurring form) ได้ในการชำระเบี้ยประกันภัยปีแรก งวดแรกสำหรับการชำระเบี้ยประกันภัยปีแรก งวดถัดไป และการชำระเบี้ยประกันภัยปีต่อไป อนุญาตให้ชำระโดยแจ้งความประสงค์ให้ความยินยอมหักบัญชีบัตรเครดิต (Recurring form) แบบต่อเนื่องเท่านั้น ทั้งนี้ การชำระด้วยบัตรเครดิตทุกกรณี เจ้าของบัตรเครดิตจะไม่ได้รับคะแนนสะสมจากบริษัทบัตรเครคิต ตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนด
▸ ไม่อนุญาตให้ชำระ "เบี้ยประกันภัยเพิ่มเติมพิเศษที่ไม่ได้ชำระเป็นประจำ" ผ่านบัตรเครดิต
3. อนุญาตให้ชำระงวดเบี้ยประกันภัย ดังนี้
งวดชำระเบี้ยประกัน
หมายเหตุ
รายปี
-
ราย 6 เดือน
-
ราย 3 เดือน
-
รายเดือน
(ขั้นต่ำ 1,000 บ.)
จะต้องชำระครั้งแรกจำนวน 2 งวดและการชำระเบี้ยประกันภัยรายเดือนในครั้งต่อไปให้หักผ่านบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิตเท่านั้น
4. ไม่อนุญาตให้ชำระเบี้ยประกันภัยด้วยเงินสดผ่านตัวแทนประกันชีวิต
5. ไม่แถมฟรี สัญญาเพิ่มเติม ทพ.
6. สำหรับผู้เอาประกันที่เป็นผู้เยาว์ไม่อนุญาตให้ซื้อสัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองการชำระเบี้ย (คช.)
7. สามารถซื้อสัญญาเพิ่มเติมอื่น ๆ ได้
8. ไม่อนุญาตให้เปลี่ยนแบบประกัน แต่สามารถเพิ่มหรือลดจำนวนเงินเอาประกันภัยได้ตามเงื่อนไขที่รับประกัน
9. มีค่าการประกันภัยเพิ่มพิเศษเนื่องจากประวัติสุขภาพและอาชีพ
10. ค่าธรรมเนียมกรมธรรม์ของแบบประกันข้างต้นได้แก่ ค่าการดำเนินการประกันภัย, ค่าธรรมเนียมการบริหารกรมธรรม์ และค่าการประกันภัย สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 172) ได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท
11. แนบหลักฐานเพิ่มเติมหากผู้รับผลประโยชน์ เป็นดังต่อไปนี้
11.1
บุตร บิดา/มารดา หรือพี่น้องที่นามสกุลไม่ตรงกัน
11.2
ผู้รับผลประโยชน์ที่มิใช่บุตร / บิดา / มารดา / คู่สมรส
12. สำหรับบุคคลต่างชาติ ขอเอกสารเพิ่มเติม ดังนี้
12.1
กรณีบุคคลต่างชาติพำนัก/ทำงานในประเทศไทย หรือมีคู่สมรสชาวไทย
▸ สำเนาหนังสือเดินทางและวีซ่าพร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง
▸ สำเนาหนังสืออนุญาตให้ทำงานในประเทศไทย (Work Permit) พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง (ถ้ามี)
▸ สำเนาใบสำคัญการสมรส พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง (ถ้ามี)
▸ ตอบแบบสอบถามสำหรับชาวต่างชาติ (กรณีไม่มี Work Permit และ/หรือใบสำคัญการสมรส)
12.2
กรอกที่อยู่ตามภูมิลำเนาของผู้ขอเอาประกันภัย (ที่อยู่ที่ต่างประเทศ) ในใบคำขอเอาประกันชีวิตในช่องที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน
12.3
แบบฟอร์ม พ-9 สำหรับผู้ขอเอาประกันภัยที่มีสัญชาติอเมริกัน รวมถึงผู้ที่เป็นหรือเคยเป็นผู้ถือ Green Card
12.4
แบบฟอร์ม W-8BEN สำหรับผู้ขอเอาประกันภัยที่ไม่มีสัญชาติอเมริกัน แต่มีหน้าที่เสียภาษีให้กรมสรรพากรประเทศสหรัฐอเมริกา
เงื่อนไขที่สำคัญ
1. ระยะเวลาผ่อนผันชำระเบี้ยประกันภัย 30 วัน
2. กรณีผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต ผู้รับประโยชน์จะต้องรีบแจ้งให้บริษัททราบภายใน 14 วัน นับแต่วันที่เสียชีวิต
3. กรณีที่บริษัทจะไม่คุ้มครอง
(3.1) กรณีไม่เปิดเผยข้อความจริง หรือแถลงข้อความเท็จ บริษัทจะบอกล้างสัญญาภายใน 2 ปี นับแต่ วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามกรมธรรม์ หรือตามการต่ออายุ หรือวันที่บริษัทอนุมัติให้เพิ่มจำนวนเงินเอา ประกันภัยในเฉพาะส่วนที่เพิ่ม
(3.2) ฆ่าตัวตายภายใน 1 ปี นับแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามกรมธรรม์ หรือตามการต่ออายุ ตามกรมธรรม หรือตามการต่ออายุ หรือวันที่บริษัทอนุมัติให้เพิ่มจำนวนเงินเอาประกันภัยในเฉพาะส่วนที่เพิ่ม หรือถูกผู้รับประโยชน์ฆ่าตาย
เอกสารที่ใช้ประกอบการเรียกรองเงินตามกรมธรรมประกันภัย กรณีการเสียชีวิตจากโรค
(ก) กรมธรรม์ประกันภัยของผู้เอาประกันภัย และใบเรียกร้องสิทธิของผู้รับประโยชน์ทุกคน ตามแบบที่บริษัทกำหนด
(ข) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับประโยชน์ โดยต้องนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
(ค) สำเนาใบมรณบัตร โดยต้องนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
(ง) สำเนาทะเบียนบ้าน ที่มีการจำหน่ายการตายของผู้เอาประกันภัย โดยต้องนำต้นฉบับมาแสดงด้วย
(จ) ใบยินยอมของผู้รับประโยชน์ หรือ ทายาทในการเปิดเผยประวัติ
(ฉ) ใบรายงานแพทย์ กรณีเสียชีวิตที่โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล
ถ้าเป็นการเรียกร้องเงินตามกรมธรรม์ประกันภัยกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ หรือเหตุอื่น ต้องมีเอกสารเพิ่ม เติม ดังต่อไปนี้
(ช) สำเนาบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดีที่ได้รับรองสำเนาถูกต้องจากพนักงานสอบสวน
(ซ) สำเนารายงานการชันสูตรพลิกศพ