สถิติผลการพิจารณาประกันสุขภาพ

ทำให้เห็นว่าเพราะเหตุใด..จึงจำเป็นต้องรับทำประกันสุขภาพให้เร็วที่สุด

แอนนี่ได้พบว่า ปัจจุบันหลายคนเริ่มมองหาประกันชีวิตและประกันสุขภาพกันมากขึ้น จากแต่ก่อนที่อาจเคยคิดกันว่าเป็นเรื่องสิ้นเปลืองหรือไกลตัว แต่เพราะสถานการณ์โควิด 2019 ทำให้คนเราเปลี่ยนความคิดไปมาก และมีมุมมองว่าประกันสุขภาพไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป

รวมถึงในทุกวันนี้สามารถหาอ่านความรู้เรื่องประกันสุขภาพได้ง่ายมากขึ้นในโลกออนไลน์ ทำให้สามารถเข้าใจในความหมายและความสำคัญของการทำประกันมากขึ้นก่อนตัดสินใจทำประกันสุขภาพ

โดย.. มีหลายท่านที่เริ่มสนใจและยื่นขอทำประกันสุขภาพกับทางเรา แต่.. ผลการพิจารณานั้น มีไม่ถึงครึ่งที่บริษัทรับทำประกันสุขภาพโดยไม่มีเงื่อนไข ที่เหลือคือ ตามมาด้วยข้อยกเว้น การปรับเพิ่มเบี้ย และการปฏิเสธการรับทำประกัน

จนบางท่านได้แต่บอกว่า "เรารู้จักกันช้าไป เว็บไซต์นี้ควรมีขึ้นเร็วกว่านี้ และควรเผยแพร่ในวงกว้างมากกว่านี้" เพราะเหตุใดลูกค้าหลายท่านจึงกล่าวเช่นนี้ ลองมาหาคำตอบในบทความนี้กันค่ะ

ผลการพิจารณารับทำประกันมีแบบใดบ้าง

แต่ละช่วงอายุที่ทำประกันมีผลการพิจารณาอย่างไร

เมื่อตัดสินใจเลือกแผนประกันและบริษัทฯ เป็นที่เรียบร้อย เรื่องน่าตื่นเต้นที่สุดของการทำประกันสุขภาพคือ การลุ้นผลการอนุมัติจากบริษัทฯ

จากประสบการณ์ส่วนตัวแอนนี่ที่ยื่นทำประกันของตนเอง ประกันสุขภาพและประกันมะเร็งหรือโรคร้าย เป็นการรอผลการพิจารณาที่น่ากังวลและตื่นกลัวที่สุด โดยเฉพาะถ้าต้องตรวจเลือดอย่างละเอียดสำหรับประกันมะเร็งด้วยแล้ว อารมณ์ยิ่งกว่าลุ้นผลสอบเข้ามหาวิทยาลัยดัง

คือกลัวว่า.. ผลเลือดออกมาแล้วเจอสารบ่งชี้มะเร็ง ซึ่งเท่ากับว่าไม่มีประกันมะเร็งแล้วยังต้องเครียดต่อว่าจะเป็นมะเร็งจริงหรือไม่

แต่ระหว่างที่รอผลการพิจารณา แล้วบริษัทฯ ตอบรับว่าอนุมัติรับประกัน อารมณ์ก็ดีใจสุดขีดเช่นกัน บางทีก็นั่งถามตัวเองว่า ทำไมต้องเครียดขนาดนั้น ทั้ง ๆ ที่สุขภาพก็ยังดีและไม่เคยเจ็บป่วยใด ๆ

แต่เรื่องจริงคือ มีความรู้สึกว่าร่างกายไม่เหมือนเดิมโดยเป็นไปตามอายุที่มากขึ้น และเหมือนเรารู้ตัวเองว่าร่างกายกำลังสึกหลอลงเรื่อย ๆ เพียงแต่ยังไม่ปรากฎอาการหรือยังไม่เคยตรวจสุขภาพอย่างละเอียดมาก่อน นั่นจึงเป็นที่มาของความเครียดของแอนนี่ตอนถูกขอให้ตรวจสุขภาพก่อนทำประกันนั่นเองค่ะ

ที่แอนนี่เครียดแบบนี้ก็คล้ายกับที่คนส่วนใหญ่มักตัดสินใจทำประกันเมื่อพร้อมด้านการเงิน ซึ่งคำว่าพร้อมของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน..

❖ บางคนรอให้มีเงินเก็บครบตามเป้าหมาย

❖ บางคนรอปิดหนี้สินบางส่วนหมดก่อน
❖ บางคนรอให้มีเงินหลือกินเหลือใช้

❖ บางคนรอให้กิจการก้าวหน้ากว่านี้

❖ บางคนรอเลื่อนตำแหน่งหน้าที่การงาน (เงินเดือนมากขึ้น)

ทุกคนมีสิทธิ์รอให้พร้อมก่อนตัดสินใจทำประกันสุขภาพ แอนนี่เองก็รอให้ตัวเองพร้อมจึงจะตัดสินใจทำประกันสุขภาพ แต่โชคไม่ดีในตอนที่พร้อมนั้น แอนนี่เคยเป็นกรดไหลย้อนมาก่อน จึงทำให้การรับทำประกันนั้นมีเงื่อนไขยกเว้นความคุ้มครองโรคนี้รวมถึงอาการสืบเนื่อง และที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือถูกขอยกเว้นความคุ้มครองทั้งระบบทางเดินอาหาร!! เพราะไม่มีผลตรวจอย่างละเอียดว่าเป็นรุนแรงมากน้อยอย่างไร ฝ่ายพิจารณาจึงยกเว้นค่อนข้างโหดมากค่ะ

และด้วยการรอนี้ของทุกคนที่คล้ายกับแอนนี่ ก็เลยทำให้ผลการพิจารณารับทำประกันของลูกค้า Release your Risk มีความหลากหลายอย่างมาก ทางแอนนี่และทีมจึงรวบรวมข้อมูลทั้งหมดทำเป็นกราฟสรุปให้เห็นว่า ผลการพิจารณาแต่ละแบบเป็นลักษณะไหนบ้าง และเขียนสรุปอธิบายสาเหตุว่าเพราะอะไรไว้ท้ายกราฟค่ะ

กราฟผลการพิจารณารับทำประกันของลูกค้า Release your Risk

กราฟการรับทำประกันของลูกค้า RYR3

ความหลากหลายในผลการพิจารณารับทำประกันสุขภาพ ทำให้เห็นมุมมองของบริษัทประกันต่อเรื่องสุขภาพว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุด การพิจารณาจึงมีความละเอียดอ่อน ใช้เวลาในการพิจารณา และมีความซับซ้อนมากกว่าประกันชีวิตดังกราฟข้างต้น

โดยแอนนี่ได้เขียนสรุปผลการพิจารณาที่ได้มาจากข้อมูลสถิติดังนี้ค่ะ

สถิติรับทำประกันโดยไม่มีเงื่อนไข

ความไม่มีโรค คือลาภอันประเสิรฐ ของลูกค้า Release your Risk ที่มีสุขภาพดีผ่านเกณฑ์การรับทำประกันสุขภาพแบบไม่มีเงื่อนไข มีตั้งแต่อายุ 11-39 ปี หรือคิดเป็น 49.2% ของลูกค้าทั้งหมด

โดยช่วงอายุลูกค้าที่บริษัทฯ รับทำประกันสุขภาพโดยไม่มีเงื่อนไข จำนวนมากที่สุดคือ อายุ 30-39 ปี หรือคิดเป็น 46.7% รองลงมาคือ อายุ 20-29 ปี หรือคิดเป็น 26.7% ถัดไปคือ อายุ 40-49 ปี หรือคิดเป็น 20% และสุดท้ายคือ อายุ 11-19 ปี หรือคิดเป็น 6.7% ตามลำดับ

จึงทำให้เห็นว่า คนทั่วไปในช่วงอายุระหว่าง 11-49 ปี โดยเฉพาะวัย 40-49 ปี ยังมีโอกาสทำประกันสุขภาพได้โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ หากมีสุขภาพดี และไม่มีประวัติการรักษาหรือการป่วยใด ๆ ที่รุนแรง

สถิติรับทำประกันโดยมีข้อเสนอยกเว้นความคุ้มครอง

ลูกค้า Release your Risk ที่มีสุขภาพผ่านเกณฑ์การรับทำประกันสุขภาพแบบมีเงื่อนไขหรือข้อเสนอยกเว้นความคุ้มครอง (ไม่คุ้มครองบางโรค/อาการ) มีตั้งแต่อายุระหว่าง 20-70 ปีขึ้นไป หรือคิดเป็น 31.4% ของลูกค้าทั้งหมด

โดยช่วงอายุลูกค้าที่บริษัทฯ รับทำประกันสุขภาพโดยมีข้อเสนอยกเว้นความคุ้มครอง จำนวนมากที่สุดคือ อายุ 30-39 ปี หรือคิดเป็น 54.5% รองลงมาคือ อายุ 40-49 ปี หรือคิดเป็น 27.3% ถัดไปคือ อายุ 20-29 ปี หรือคิดเป็น 9.1% และสุดท้ายคือ อายุ 70 ปีขึ้นไป หรือคิดเป็น 9.1% เช่นกัน ตามลำดับ ⤴ ย้อนกลับไปดูกราฟ

จากข้อมูลพบว่า สาเหตุของการยกเว้นความคุ้มครองในช่วงอายุ 30-49 ปี เกิดจากประวัติสุขภาพจากการเจ็บป่วยโรคเรื้อรังทั่วไป เช่น  ภูมิแพ้อากาศ  โรคเก๊าท์  กรดไหลย้อน กระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท หรือมีประวัติตรวจสุขภาพหรือตรวจคัดกรองโรคแล้วพบความผิดปกติกับร่างกายที่ไม่รุนแรง (แต่ยังไม่ได้รักษาให้หายขาด) เช่น ก้อนเนื้อบริเวณมดลูก ถุงน้ำรังไข่ขนาดเล็ก เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ก้อนเนื้อบริเวณเต้านม (ฺBIRADS 2) ในกลุ่มผู้หญิง เป็นต้น

ส่วนสาเหตุของการยกเว้นความคุ้มครองในช่วงอายุ 20-29 ปี แม้เป็นช่วงอายุที่อยู่ในเกณฑ์สุขภาพดี แต่ก็ยังมีอยู่บ้างที่พบปัญหาสุขภาพ เช่น ถุงน้ำรังไข่ ความผิดปกติแต่กำเนิด (เช่น ภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมนแต่กำเนิด) และสาเหตุจากต้อกระจก ไขข้ออักเสบ และแผลในลำไส้ ในกลุ่มอายุ 70 ปีเป็นต้นไป 

รับทำประกันโดยมีข้อเสนอเพิ่มเบี้ยประกัน

ลูกค้า Release your Risk ที่มีสุขภาพผ่านเกณฑ์การรับทำประกันสุขภาพแบบมีเงื่อนไขเพิ่มเบี้ยประกัน มีอายุระหว่าง 30-69 ปี หรือคิดเป็น 11.4% ของลูกค้าทั้งหมด

โดยช่วงอายุลูกค้าที่บริษัทฯ รับทำประกันสุขภาพโดยเพิ่มเบี้ยประกัน จำนวนมากที่สุดคือ อายุ 60-69 ปี หรือคิดเป็น 52.9% รองลงมาคือ อายุ 40-49 ปี หรือคิดเป็น 23.55% และอายุ 30-39 ปี หรือคิดเป็น 23.55% เช่นกัน ตามลำดับ ⤴ ย้อนกลับไปดูกราฟ

จากข้อมูลพบว่า สาเหตุของการเพิ่มเบี้ยประกันภัยในช่วงอายุ 40-69 ปี เกิดจากโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และสาเหตุจากการเพิ่มเบี้ยในลูกค้าอายุ 30-39 ปี เกิดจาก*ค่าดัชนีมวลกายเกินมาตรฐาน (แม้ไม่มีโรคใด ๆ) และ/หรือ เบาหวานและความดันโลหิตสูง (พบได้น้อย)

*การเพิ่มเบี้ย (ชั่วคราว) ในกลุ่มลูกค้าที่มีค่าดัชนีมวลกายเกินมาตรฐาน โดยเมื่อสามารถลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่บริษัทฯ สามารถรับความเสี่ยงได้ จึงจะสามารถยื่นเรื่องขอ ยกเลิกเงื่อนไขการเพิ่มเบี้ย ได้ค่ะ

เลื่อนการรับทำประกัน

การยื่นขอทำประกันสุขภาพ บางครั้งผลการพิจารณาก็เป็นแบบ*เลื่อนการรับทำประกัน โดยจากที่ Release your Risk เคยยื่นให้กับลูกค้ามา คิดเป็น 2.9% ที่ถูกเลื่อนการรับประกัน ของลูกค้าทั้งหมด

โดยช่วงอายุลูกค้าที่บริษัทฯ เลื่อนการรับทำประกัน จำนวนทั้งหมดคือ อายุ 30-39 ปี หรือคิดเป็น 100% ⤴ ย้อนกลับไปดูกราฟ

จากข้อมูลพบว่า สาเหตุของการเลื่อนรับทำประกันในช่วงอายุ 30-39 ปี เกิดจากประวัติสุขภาพของการเจ็บป่วยเรื้อรัง เช่น โรคซึมเศร้ารักษาใกล้จะหายขาด  และ/หรือ ผลการตรวจสุขภาพที่พบค่าความผิดปกติของอวัยวะ เช่น ค่าตับสูงเกินปกติ เป็นต้น

*โดยเกณฑ์การพิจารณาประกันสุขภาพจะประเมินอัตราความเสี่ยงด้านชีวิตร่วมด้วย เมื่อค่าความเสี่ยงด้านชีวิตสูงเกินมาตรฐาน (แต่สามารถดูแลร่างกายให้ค่านั้นกลับมาเป็นปกติได้) การพิจารณาประกันสุขภาพอาจต้องเลื่อนการรับทำประกันไปก่อน แล้วยื่นทำประกันใหม่ภายหลัง 6 เดือนเป็นต้นไป พร้อมกับผลตรวจสุขภาพล่าสุดที่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานหรือดีขึ้นจากเดิม

ปฏิเสธรับทำประกัน

การยื่นขอทำประกันสุขภาพ บางครั้งผลการพิจารณาก็เป็นแบบ ปฏิเสธรับทำประกัน โดยจากที่ Release your Risk เคยยื่นให้กับลูกค้ามา คิดเป็น 11.4% ของลูกค้าทั้งหมด

โดยช่วงอายุลูกค้าที่บริษัทฯ ปฏิเสธรับทำประกันสุขภาพ จำนวนมากที่สุดคือ อายุ 30-39 ปี หรือคิดเป็น 48.3% รองลงมาคือ อายุ 60-69 ปี หรือคิดเป็น 25.85% และอายุ 70 ปีขึ้นไป หรือคิดเป็น 25.85% เช่นกัน ตามลำดับ ⤴ ย้อนกลับไปดูกราฟ

สาเหตุของการปฏิเสธ เกิดจากโรคซึมเศร้า *โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) และโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ในคนช่วงอายุ 30-39 ปี ส่วนลูกค้าที่อายุ 60 ปีเป็นต้นไป มักถูกปฏิเสธด้วยโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง

*ปัจจุบันคนวัยทำงานมักมีความเครียดสะสมจากที่ทำงานมากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุหลักทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองในขณะที่อายุยังน้อยได้

สถิติผลการพิจารณารับประกันตามช่วงอายุ

ยิ่งอายุน้อยยิ่งได้เปรียบ

เมื่อโควิด 2019 ทำให้เราเห็นว่าประกันมีประโยชน์อย่างไร คนเราจึงเริ่มมองหาประกันสุขภาพ และมักมีคำถามว่าควรทำตอนไหนดี คำตอบจริง ๆ เลยคือ ควรทำตอนที่รู้ตัวว่า.. อยากทำประกัน แต่ก็ไม่ต้องถึงกับรีบขนาดนั้นถ้าเป็นประกันสุขภาพ (เมื่อเทียบกับประกันชีวิต เพราะสุขภาพยังพอคาดการณ์จากสุขภาพปัจจุบันได้ แต่ชีวิตพร้อมจะไปได้ทุกเมื่อ) อาจใช้เวลาสักหน่อยเพื่อเลือกหาแผนที่ถูกใจและเหมาะกับงบประมาณ

ช่วงอายุที่ดีที่สุดที่เหมาะทำประกันสุขภาพ คำตอบชัดเจนเลยคือ ช่วงวัยเยาว์ เพราะเป็นวัยปราศจากโรคหรือสุขภาพดี แต่คุณพ่อคุณแม่อาจมองข้ามเรื่องการทำประกันสุขภาพไปเพราะความมีสุขภาพดีของลูก ๆ จึงมองว่ายังไม่จำเป็น

เมื่อผ่านพ้นช่วงวัยเยาว์ไปแล้ว ควรทำประกันสุขภาพช่วงอายุใดดีที่สุด

คนส่วนใหญ่ เมื่อตระหนักดีในเรื่องประโยชน์ของการทำประกันสุขภาพแล้ว มักตัดสินใจทำประกันเมื่อพร้อมด้านการเงิน หรือรอให้จัดสรรรายจ่ายที่จำเป็นได้ลงตัวก่อน (โดยส่วนมากมักวางประกันไว้เป็นเรื่องสำคัญอันดับสุดท้าย)

แต่ถ้าทุกคนได้เห็นสถิติการพิจารณาของบริษัทฯ กับกลุ่มคุณลูกค้า Release your Risk ที่ทางแอนนี่และทีมได้รวบรวมมาทำเป็นกราฟให้เห็นแล้ว จะเข้าใจเลยว่าต้องมีความพร้อมให้เร็วขึ้น เพราะอะไรเดี๋ยวมาดูหัวข้อถัดไปกันค่ะ

กราฟการรับทำประกันของลูกค้า RYR5

อายุ 10-19 ปี

การยื่นขอทำประกันสุขภาพของลูกค้า Release your Risk อายุ 10-19 ปีหรือคิดเป็น 2.9% ของลูกค้าทุกช่วงอายุทั้งหมด

โดยผลการพิจารณาจากบริษัทฯ คือ การรับทำประกันโดยไม่มีเงื่อนไข มากที่สุด คิดเป็น 100% ⤴ ย้อนกลับไปดูกราฟ

เนื่องจากคนในช่วงนี้มีสุขภาพที่ดี แม้จะมีประวัติการเจ็บป่วยทั่วไปบ้าง เช่น เป็นไข้หวัด ท้องเสีย แต่ผลการพิจารณาสุดท้ายคือการรับทำประกันโดยไร้เงื่อนไข

คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่ตระหนักในเรื่องประกันสุขภาพของลูก ๆ โดยเฉพาะเรื่องอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ในวัยนี้ การมองหาประกันสุขภาพจึงเน้นแผนประกันที่มีค่ารักษาผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก รวมถึงประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล

อายุ 20-29 ปี

การยื่นขอทำประกันสุขภาพของลูกค้า Release your Risk อายุระหว่าง 20-29 ปี หรือคิดเป็น 14.3% ของลูกค้าทุกช่วงอายุ

โดยผลการพิจารณาจากบริษัทฯ มีแบบ รับทำประกันโดยไม่มีเงื่อนไข คิดเป็น 79.6% และแบบ ยกเว้นความคุ้มครอง คิดเป็น 20.4% ตามลำดับ ⤴ ย้อนกลับไปดูกราฟ

ปัจจุบันโรคภัยไม่ได้เกิดกับเฉพาะคนสูงอายุเท่านั้น คนอายุน้อย ๆ อย่างวัย 20 ปี สมัยนี้ก็เริ่มมีปัญหาด้านสุขภาพ จากที่แอนนี่ติดตามเพจคุณหมออรัญ (คุณหมอด้านสูตินารีเวช) เคยมีคนไข้อายุ 19-24 ปีที่มีปัญหาเรื่องถุงน้ำรังไขโตจนเบียดกระเพาะปัสสาวะ ตับและปอดทั้ง 2 ข้างจนต้องผ่าตัดด่วน

หรือเพื่อนของแอนนี่เอง เคยเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เพราะไปดันตู้เสื้อผ้า จนต้องผ่าตัดตั้งแต่สมัยอายุ 26 ปี และเมื่อทำประกันสุขภาพก็จะโดนยกเว้นความคุ้มครองในเรื่องนี้รวมถึงภาวะสืบเนื่อง

และเพื่อนอีกคนมีการรักษาไซนัสอักเสบอยู่บ่อย ๆ ที่เป็นทีนานหลายวัน ตั้งแต่อายุ 25 ปี หมดค่ารักษายิบย่อย รวม ๆ แล้วก็เป็นเงินจำนวนมาก โชคดีที่ตอนนั้นเพื่อนยังมีประกันกลุ่มบริษัท แต่ตอนนี้เพื่อนทำประกันสุขภาพเรียบร้อยและโดยยกเว้นความคุ้มครองเกี่ยวกับไซนัสและภาวะสืบเนื่อง

ทุกโรคและอาการที่แพทย์บอกว่าไม่รุนแรง แค่รับยากลับบ้าน แต่มุมมองบริษัทประกันฯ จะมองเป็นเรื่องเสี่ยงเพราะมีรอยโรคเกิดขึ้นแล้ว การรับทำประกันจึงต้องยกเว้นความคุ้มครองเพื่อป้องกันความเสี่ยง

แต่หากมีการรักษาและการยืนยันจากแพทย์ผู้รักษาเป็นลายลักษณ์อักษรที่ชี้ชัดว่า หายจากโรค/อาการนั้นแล้ว ลักษณะนี้สามารถยื่นขอยกเลิกการไม่คุ้มครองโรคได้ค่ะ

อายุ 30-39 ปี

การยื่นขอทำประกันสุขภาพของลูกค้า Release your Risk อายุระหว่าง 30-39 ปี เป็นจำนวนกลุ่มมากที่สุด คิดเป็น 48.6% ของลูกค้าทุกช่วงอายุทั้งหมด และเป็นช่วงอายุที่มีผลการพิจารณาครบทุกรูปแบบ ค่ะ

โดยผลการพิจารณาจากบริษัทฯ แบบ รับทำประกันโดยไม่มีเงื่อนไข มีจำนวนมากที่สุด คิดเป็น 41.2% รองลงมาคือแบบยกเว้นความคุ้มครอง คิดเป็น 35.3% ถัดมาคือแบบปฏิเสธรับทำประกัน คิดเป็น 11.8% และแบบเลื่อนการรับทำประกันและเพิ่มเบี้ยประกัน คิดเป็น 5.9% เท่า ๆ กัน ตามลำดับ ⤴ ย้อนกลับไปดูกราฟ

ในช่วงวัยนี้ เห็นได้ชัดว่าเริ่มมีความเสี่ยงโรคมากขึ้น คุณผู้หญิงมักจะโดนยกเว้นความคุ้มครองเรื่องถุงน้ำรังไข ก้อนเนื้อบริเวณเต้านม ก้อนเนื้อบริเวณมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ไทรอยด์เป็นพิษ และกรดไหลย้อน สาเหตุที่พบมีทั้งแสดงอาการและส่วนมากจากการตรวจสุขภาพประจำปี/ตรวจสุขภาพบริษัท

ส่วนคุณผู้ชายมักจะโดนยกเว้นเรื่องภูมิแพ้ ไซนัส โรคเก๊าท์ ข้ออักเสบ ต้อหิน ไทรอยด์ และมีถูกเลื่อนการรับทำประกันเนื่องด้วยมีค่าตับที่สูงเกินเกณฑ์

ส่วนสาเหตุของการปฏิเสธรับทำประกัน มาจากโรคซึมเศร้าและโรคหลอดเลือดสมอง ที่กำลังรักษาและติดตามอาการอยู่ และมีโดนเพิ่มเบี้ยประกันเนื่องจากมีค่าดัชนีมวลกายสูงเกินมาตรฐาน

จากข้อมูลสรุปได้ว่า วัย 30-39 ปีค่อนข้างมีความเสี่ยงด้านสุขภาพ หากใครที่อยู่ในช่วงอายุนี้แและยังมีสุขภาพดี แอนนี่แนะนำให้รีบหาประกันสุขภาพทำเอาไว้ก่อนเลยโดยเร็วที่สุดค่ะ

อายุ 40-49 ปี

การยื่นขอทำประกันสุขภาพของลูกค้า Release your Risk อายุระหว่าง 40-49 ปี หรือคิดเป็น 20% ของลูกค้าทุกช่วงอายุทั้งหมด

โดยผลการพิจารณาจากบริษัทฯ มีแบบ รับทำประกันโดยไม่มีเงื่อนไขและยกเว้นความคุ้มครอง คิดเป็น 42.9% เท่า ๆ กัน รองลงมาคือแบบเพิ่มเบี้ยประกัน คิดเป็น 14.3% ตามลำดับ ⤴ ย้อนกลับไปดูกราฟ

คนในวัยนี้ใช่ว่าจะมีปัญหาด้านสุขภาพกันทั้งหมด เพราะสัดส่วนการรับทำประกันโดยไม่มีเงื่อนไข เท่ากับ การยกเว้นความคุ้มครอง จากลูกค้า release your risk ก็มีแบบเคยรักษาเนื้องอกมดลูกมาก่อน โดยการผ่าตัดเอามดลูกออกหมดแล้วมานานเกิน 5 ปี บริษัทฯ ไม่กังวลในความเสี่ยง เพราะผู้เอาประกันทำการรักษาหายแล้ว

การยกเว้นความคุ้มครองส่วนมากเป็นกลุ่มคุณผู้หญิง เช่น ถุงน้ำรังไข ก้อนเนื้อมดลูก ถุงน้ำบริเวณเต้านม เป็นต้น ส่วนคุณผู้ชายเกือบทั้งหมดทำประกันได้โดยไม่มีเงื่อนไข ค่ะ ทำให้เห็นว่าคุณผู้หญิงมักมีปัญหาด้านสุขภาพมากกว่าคุณผู้ชาย

แต่การโดนเพิ่มเบี้ยประกันส่วนหนึ่งปรากฎอยู่ในกลุ่มคุณผู้ชาย เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน

แต่ถ้าตอนนี้คนที่อยู่ในช่วงวัยระหว่าง 40-49 ปีแล้วยังมีประวัติสุขภาพดี แอนนี่แนะนำอย่างยิ่งว่าควรรีบทำประกันสุขภาพค่ะ

อายุ 50-59 ปี

กลุ่มลูกค้า Release your Risk ช่วงอายุระหว่าง 50-59 ปียังไม่ปรากฎค่ะ

จากประสบการณ์การสื่อสารและการนำเสนอข้อมูลแก่ผู้ที่สอบถามเข้ามากจำนวนหนึ่ง คนในวัยนี้เป็นช่วงวัยที่เงินเดือนสูงมาก หรือเป็นเจ้าของธุรกิจที่ยังพอมีแรงทำงาน และยังคิดว่าจ่ายค่ารักษาเองได้เมื่อเห็นว่าเบี้ยแพงเกินไป

การตัดสินใจทำประกันในคนกลุ่มนี้จึงยังเป็นเรื่องที่ต้องคิดหนักพอสมควร เพราะเห็นว่าเบี้ยเริ่มสูงมาก และยังมีภาระผ่อนบ้านหรือรายจ่ายที่กำลังจะหมดไป จึงยังไม่อยากเพิ่มภาระระหว่างนี้ อยากจะโฟกัสเป็นอย่าง ๆ และยังไม่ค่อยมีเพื่อนหรือคนรู้จักที่สนิทที่ป่วยหนัก ๆ ความคิดอยากทำประกันจึงมาเป็นช่วง ๆ และก็ผ่านไป

อายุ 60-69 ปี

การยื่นขอทำประกันสุขภาพของลูกค้า Release your Risk อายุระหว่าง 60-69 ปี หรือคิดเป็น 8.6% ของลูกค้าทุกช่วงอายุทั้งหมด

โดยผลการพิจารณาจากบริษัทฯ มีแบบ เพิ่มเบี้ยประกันภัย คิดเป็น 66.7% และแบบปฏิเสธรับทำประกัน คิดเป็น 33.3% ตามลำดับ ⤴ ย้อนกลับไปดูกราฟ

โอกาสการรับทำประกันของกลุ่มลูกค้าช่วงอายุนี้คือ รับแบบเพิ่มเบี้ย กับ ไม่รับทำประกัน ด้วยอายุที่มากขึ้นหรือเป็นวัยเกษียณ การทำประกันสุขภาพจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างคิดหนักมากเพราะเบี้ยสูงมาก ๆ โดยส่วนมากผู้ที่จ่ายเบี้ยประกันมักเป็นบุตรหลานที่รักและเป็นห่วงเรื่องการรักษาพยาบาลในปัจจุบัน

สาเหตุของการเพิ่มเบี้ย คือ โรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน ส่วนสาเหตุของการปฏิเสธไม่รับทำประกัน คือ โรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง ค่ะ

เนื่องจากวัยนี้เริ่มเกิดโรคร้ายแรงมากขึ้น และเริ่มมีตัวอย่างการเจ็บป่วยและการรักษาพยาบาลของคนรอบข้าง เพื่อนฝูง และคนรู้จักมากขึ้น จึงเริ่มเห็นปัญหาและภาระค่าใช้จ่ายระหว่างการรักษา ทำให้ตัดสินใจทำประกันทันทีเมื่อมีโอกาสทำได้ค่ะ

อายุ 70 ปีขึ้นไป

กลุ่มลูกค้าที่เคยคิดว่าจะทำประกันไม่ได้แล้ว แต่ทำได้ค่ะ

การยื่นขอทำประกันสุขภาพของลูกค้า Release your Risk อายุระหว่าง 70 ปีขึ้นไป หรือคิดเป็น 5.7% ของลูกค้าทุกช่วงอายุทั้งหมด

โดยผลการพิจารณาจากบริษัทฯ มีแบบ ยกเว้นความคุ้มครอง คิดเป็น 43.8% และแบบปฏิเสธรับทำประกัน คิดเป็น 51.7% ตามลำดับ ⤴ ย้อนกลับไปดูกราฟ

โอกาสการรับทำประกันของกลุ่มลูกค้าช่วงอายุนี้คือ การยกเว้นความคุ้มครอง และ ปฏิเสธรับทำประกัน เมื่อเทียบกับช่วงอายุ 60-69 ปีข้างต้น การโดนยกเว้นความคุ้มครอง น่าจะเป็นผลที่ดีกว่า การเพิ่มเบี้ยประกัน (เพราะเบี้ยจะสูงขึ้นอีกมาก) แต่การยกเว้นอาจจะโดนหลายโรค เช่น มะเร็ง ต้อกระจก ลำไส้อักเสบ กรดไหลย้อน ข้ออักเสบ เป็นต้น

ในยุคโควิดครองเมือง การมีประกันสุขภาพติดตัวไว้เป็นเรื่องที่น่าอุ่นใจ ถึงแม้การโดนยกเว้นนั้นมีหลายโรครวมกัน แต่ในเรื่องโรคร้ายแรงอื่น ๆ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) และโรคหัวใจ ยังได้รับความคุ้มครอง ซึ่งทำให้ลูกค้าหมดห่วงไปอย่างมากค่ะ

บทสรุป

ของการทำประกันสุขภาพ

กลุ่มลูกค้า Release your Risk มีตั้งแต่อายุ 11-70 ปีขึ้นไป การพิจารณารับทำประกันของบริษัทฯ จึงมีความหลากหลายครบทุกแบบ ดังนั้นถ้าให้แอนนี่แนะนำว่าช่วงอายุใดควรทำประกันมากที่สุด คำตอบคือ ทำประกันสุขภาพช่วงที่ ไม่มีประวัติสุขภาพ หรือ ไม่มีประวัติผลตรวจสุขภาพ เพื่อจะได้ไม่โดนเพิ่มเบี้ยหรือยกเว้นความคุ้มครอง เลื่อนการรับทำประกันหรือปฏิเสธการรับทำประกัน

ช่วงอายุ 11-19 ปี ถือเป็นวัยที่สุขภาพดีที่สุดและมักจะไม่มีประวัติสุขภาพอะไรที่สำคัญ การทำประกันสุขภาพจึงมักทำได้ง่ายและไม่ยุ่งยาก รวมทั้งเบี้ยประกันค่อนข้างต่ำ จึงเป็นช่วงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่เริ่มวางแผนการเงินและเตรียมตัวรับมือกับเบี้ยประกันที่จะสูงขึ้นในอนาคตได้ทันกาลค่ะ

ช่วงอายุ 20-29 ถือว่ายังมีสุขภาพที่ดี แต่ปัจจุบันมีความเสี่ยงรอบด้านโดยเฉพาะโควิด 2019 จึงทำให้ต้องมองหาประกันสุขภาพติดตัวไว้ คุณผู้หญิงมีความเสี่ยงด้านสุขภาพมากกว่าคุณผู้ชาย เช่นโอกาสเกิดเนื้องอกมดลูก ถุงน้ำรังไข่ ถุงน้ำบริเวณเต้านม เป็นต้น

ช่วงอายุ 30-39 ปี เป็นช่วงที่มีสุขภาพดีอยู่ (เพราะยังไม่ได้ตรวจสุขภาพอย่างละเอียด) โดยเกือบ 50% ของคุณผู้หญิงที่ไปตรวจสุขภาพเกี่ยวกับช่องท้องล่าง มักพบความผิดปกติเกี่ยวกับมดลูกและรังไข่ ความผิดปกติที่ไม่ส่งผลรุนแรง มีเพียงติดตามอาการและขนาดเท่านั้น แต่มุมมองบริษัทประกันฯ ถือว่าเป็นความเสี่ยง จึงมักโดนยกเว้นความคุ้มครองจนกว่าจะทำการรักษาหรือผ่าตัดให้หาย

รวมทั้งวัยนี้เป็นวัยทำงานและมีความกดดันสูง ความเสี่ยงเรื่องโรคซึมเศร้าและโรคหลอดเลือดสมอง จึงสูงมากขึ้น จนทำให้ถูกปฏิเสธรับทำประกันได้ รวมถึงเรื่องอาหารการกินที่ส่งผลเสียต่อเรื่องน้ำหนักตัว จนทำให้โดนเพิ่มเบี้ยประกันสุขภาพได้ หากตอนนี้ยังมีสุขภาพที่ดี แนะนำว่าควรมองหาประกันสุขภาพติดตัวไว้ค่ะ

ช่วงอายุ 40-49 ปี เป็นช่วงอายุที่มีทั้งสุขภาพดีและมีประวัติสุขภาพ/โรคประจำตัว รวมถึงมีการรักษาโรค/อาการมาแล้วบ้าง เช่นความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน เป็นต้น และเป็นวัยที่เริ่มมีการตรวจคัดกรองโรค เช่น มะเร็งทุกชนิด ทำให้บางครั้งพบความผิดปกติในร่างกายจนเป็นเหตุให้ต้องโดยยกเว้นคามคุ้มครอง/โดนเพิ่มเบี้ยประกัน ดังนั้นแนะนำอย่างยิ่งว่าถ้ายังมีสุขภาพดีไม่มีประวัติสุขภาพใด ๆ ในวัยนี้ว่าควรรีบทำประกันสุขภาพติดตัวไว้ค่ะ เพราะถือว่ายังมีเวลาโอนความเสี่ยงได้ทันค่ะ

ช่วงอายุ 50-59 ปี ทาง Release your Risk ยังไม่มีข้อมูลปรากฏ เนื่องจากเป็นเพียงการนำเสนอข้อมูลแผนประกันเท่านั้น ยังไม่ได้ตัดสินใจทำประกัน จากประสบการณ์การสื่อสารและการนำเสนอข้อมูลแก่ผู้ที่สอบถามเข้ามาจำนวนหนึ่ง คนในวัยนี้เป็นช่วงวัยที่เงินเดือนสูงมาก หรือเป็นเจ้าของธุรกิจที่ยังพอมีแรงทำงาน และยังคิดว่าจ่ายค่ารักษาเองได้เมื่อเห็นว่าเบี้ยแพงเกินไป รวมถึงเป็นช่วงที่ยังมีภาระค่าใช้จ่ายสูงจึงยังไม่อยากเพิ่มภาระเรื่องเบี้ยประกันให้ตัวเอง

ช่วงอายุ 60-69 ปี เป็นช่วงวัยที่อย่างไรก็พร้อมตัดสินใจจะมีประกันสุขภาพแล้ว เพราะเห็นชัดเจนถึงปัญหาหลังเกษียณ แต่ก็มาพร้อมด้วยโรคประจำตัว เช่นความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ซึ่งมักโดนเพิ่มเบี้ย หรือปฏิเสธรับทำประกัน

ช่วงวัย 70 ปีขึ้นไป มักโดนยกเว้นความคุ้มครอง หรือปฏิเสธการรับทำประกัน และใช้เวลาในการพิจารณานาน เนื่องจากมีประวัติสุขภาพค่อนข้างหนามาก รวมถึงเบี้ยประกันสุขภาพที่ค่อนข้างสูงจนอาจต้องเลือกเป็นแผนแบบมีรับผิดส่วนแรก และเห็นความเสี่ยงภัยของโรคและค่าใช้จ่ายที่หนักหน่วงกว่าเบี้ยประกันอยู่ใกล้ตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ จากคนรู้จักรอบตัวที่อยู่ในวัยเดียวกัน

จากบทสรุปในการพิจารณารับทำประกันนี้ เป็นอีกข้อบ่งชี้หนึ่งที่ชัดเจนว่า ตัวเราเองในอดีตเท่านั้น ที่จะสามารถช่วยตัวเราเองในปัจจุบันหรือในอนาคตได้ เพราะประวัติสุขภาพไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้ และแบบประกันสุขภาพเหมาจ่ายแผนที่ดีและคุ้มค่าก็ทยอยปิดตัวลง และเปิดตัวใหม่ที่เบี้ยปรับมากขึ้นแทน

ดังนั้นหากคุณผู้อ่าน อ่านมาถึงย่อหน้าสุดท้ายนี้ แอนนี่สนับสนุนว่าควรมีประกันสุขภาพโดยเร็วไม่ว่ากับบริษัทใดก็ตาม เพราะนั่นคือหนึ่งในหนทางที่จะเปลี่ยนงบด้านค่ารักษาที่ไม่ชัดเจน ให้เป็นเบี้ยประกันที่มีความชัดเจนและได้รับการคุ้มครองเพียงพอทุกโรคภัยในตอนที่ยังไม่มีประวัติการรักษา 

ยิ่งหากทำประกันกับที่ปรึกษาการเงินการลงทุน ที่ช่วยคำนวณหามูลค่าจริงตามเวลาของเบี้ยประกันทั้งหมดจนถึงในปัจจุบันได้ ก็จะยิ่งทำให้รู้ค่าเบี้ยประกันจริง ๆ และทำให้ประหยัดเบี้ยได้หลักหลายล้านบาท ไม่จำเป็นต้องรอไปจ่ายเบี้ยแพง ๆ ตอนสูงอายุ แต่สามารถเตรียมจ่ายเบี้ยของตอนสูงอายุด้วยเงินที่น้อยกว่ามากในตอนที่อายุยังน้อยได้

หาที่ปรึกษาการเงินลักษณะนั้นให้เจอ เพราะจะสามารถช่วยให้ท่านคำนวณเบี้ยประกัน ให้เหมือนหนี้บ้านที่ยิ่งโปะหนี้ได้มากเท่าใดในแต่ละปี หนี้และดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายจะยิ่งลดลงไปมากเท่านั้น เบี้ยประกันสุขภาพก็เป็นลักษณะนั้นเช่นกันค่ะ


เกี่ยวกับผู้เขียน

  • Ruchira Taboonruang

    จากประสบการณ์ที่ผ่านมาในชีวิตการทำงานทั้งหมดของแอนนี่ในสายงาน CRM ได้พบว่า ความไม่รู้ เป็นศัตรูที่แพงอย่างมากในโลกของการเงิน ซึ่งในหลายครั้งกว่าจะรู้และเข้าใจก็อาจจะสายไปแล้ว และนี้คือสาเหตุใหญ่ที่ทางเรา จะแก้ไขปัญหานี้ให้ได้ โดยให้ความรู้ทางการเงินที่ดีและเหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา รวมถึงการป้องกันไม่ให้ถูกเอาเปรียบจากความไม่รู้นี้ ผ่านเว็บไซต์ Release your Risk ที่ต้องการให้ทุกคนได้ปล่อยความเสี่ยงที่ตนเองถือไว้อยู่ ผ่านเครื่องมือทางการเงินด้วยความเข้าใจ และมีประสิทธิภาพสูงสุดค่ะ

>
Scroll to Top

เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งาน ซึ่งสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ตกลงทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึก