เปิดเผยความจริงอันแสนเจ็บปวด ที่คุณและครอบครัวจะได้พบหลังจากที่เรียนจบและทำงานไปได้หลายปีแล้ว

มันไม่ใช่การเจ็บปวดเพียงเพราะคุณกับครอบครัวรู้ตัวช้าไปเท่านั้น แต่มันเจ็บปวดเพราะ คุณกับครอบครัวจะไม่สามารถย้อนเวลา กลับไปแก้ไขอะไรได้อีก

คุณกับครอบครัวจะมีแต่คำถามมากมาย และคอยถามว่าทำไมเรื่องที่เสี่ยงเป็น เสี่ยงตายแบบนี้ถึงไม่ถูกสอนในโรงเรียน

แต่กลับให้คุณกับครอบครัวเรียนจบออกไป แล้วให้ไปเรียนรู้เอง.. ให้ไปถูกหลอก.. ให้ไปเจ็บใจ จนกว่าคุณจะเข้าใจเองได้

เพราะสิ่งที่โรงเรียนคอยสอนคุณกับครอบครัว มักจะวนอยู่เพียง "ต้องแข่งขัน ต้องเก่ง ต้องหาเงินให้ได้มากที่สุด" ซึ่งมีแต่สร้างความเครียด ความกังวลให้กับชีวิตอยู่ตลอดเวลา โดยไม่รู้ว่าต้องรออีกนานเท่าไรจึงจะจบลงสักที 

ทั้ง ๆ ที่หากรู้ "เรื่องเหล่านี้ก่อน" จะทำให้ความเครียด ความกังวลในชีวิตหายไปได้ในทันที   โดยไม่ต้องรออย่างไร้จุดหมาย

สมัครงาน

อย่างไรก็ตาม..เป็นสิ่งที่น่าเสียดายที่

โรงเรียนอาจไม่ได้สอน

    โรงเรียนอาจไม่ได้สอนว่า คุณต้องทำงานให้ได้เงินเท่าไร.. ทำนานแค่ไหน แล้วเป้าหมายที่จำเป็นในชีวิตคือเท่าใด

   โรงเรียนอาจไม่ได้สอนว่า.. ร่างกายและจิตใจของคุณจะถดถอยลงได้อย่างรวดเร็วเมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะหากทำงานกินดื่มใช้ร่างกายและรับความเครียดอย่างมากในทุกวัน

    โรงเรียนอาจไม่ได้สอนว่า.. โรคภัยไข้เจ็บที่คุณและครอบครัวหลีกหนีได้ยากเมื่อถึงช่วงอายุหนึ่งนั้นมีหน้าตาอย่างไร ค่าใช้จ่ายที่แพงขึ้นทุกปีนั้นแทบทำให้ล้มละลายต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาขนาดไหน

    โรงเรียนอาจไม่ได้สอนว่า.. จะจัดการกับความกังวล ว่าห้ามป่วย ห้ามตายในระหว่างที่คุณต้องออกไปทำงานหาเงินเพื่อคนข้างหลังได้อย่างไร

    โรงเรียนอาจไม่ได้สอนว่า.. จะจัดการกับความโลภในการลงทุนได้อย่างไร ให้ไม่เลวร้ายถึงขนาดที่คุณต้องหมดตัว และเป็นหนี้จนอาจคิดสั้นได้

   โรงเรียนอาจไม่ได้สอนว่า.. ชีวิตคุณเป็นสิ่งที่เปราะบางแค่ไหน ถึงขนาดตอบอย่างมั่นใจไม่ได้ด้วยซ้ำว่า คนชราอายุ 70 ปี กับคนหนุ่มสาวอายุ 25 ปี ใครจะจากไปก่อนกัน เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้

   โรงเรียนอาจไม่ได้สอนว่า.. มูลค่าของเงินนั้นเปลี่ยนแปลงตามเวลา และคนที่ยังไม่เข้าใจเรื่องนี้ จะต้องเป็นทาสของเงินต่อไปไม่รู้อีกนานเท่าไร

   โรงเรียนอาจไม่ได้สอนว่า.. คนที่พึ่งพาได้ที่สุดในชีวิต ก็คือตัวคุณเองในอดีต ไม่ใช่ใครที่ไหนทั้งใกล้ตัวและไกลตัว

เมื่อโรงเรียนไม่ได้สอน

บางอย่างที่ไม่ควรมาสอน.. ก็เข้ามาเป็นคุณครูแทน

โดยปล่อยให้คุณครูที่ชื่อว่า ละคร หนัง ซีรีย์ นิยาย โซเชียลมีเดีย อินฟลูเอ็นเซอร์ มาสอนแทน จนได้พาคุณหลงทางออกจากสิ่งที่คุณต้องการในชีวิตจริง ๆ ไป

Big Short movie

ทำไมสิ่งเหล่านี้ไม่ควรเป็นคุณครูให้คุณ

เพราะคุณครูเหล่านี้เอาแต่สอนว่า..

  คุณกับครอบครัวต้องมีทุกอย่างตามที่คุณครูบอกว่าควรมี ไม่ว่าสิ่งนั้นจะแลกมาด้วย การทำงานที่ไม่ชอบ ทำแบบไม่รู้จบ หรือการลงทุนที่เสี่ยงในระดับการพนัน

  คุณกับครอบครัวต้อง มีบ้านหลังใหญ่ มีรถคันหรู ท่องเที่ยวในสถานที่ตื่นตาตื่นใจ อาหารการกินต้องไม่ธรรมดา ต้องมีของสะสมหายาก ต้องมีทุก ๆ อย่าง ที่จะทำให้คนรอบข้างคุณต้องเอ่ยปากชม แม้ต้องผ่อนมาใช้ก่อนจ่ายที่หลังและต้องเป็นหนี้ที่จำกัดอิสรภาพ

  คุณกับครอบครัวต้อง ไล่ตามความสำเร็จ ต้องเป็นที่หนึ่ง มีบริษัทใหญ่โต เป็นผู้บริหารชั้นสูง มีพนักงานนับร้อยนับพัน เป็นที่รู้จักของคนจำนวนมาก มีผู้คนให้ความสนใจ

  คุณกับครอบครัวต้อง เป็นครอบครัวที่เพรียบพร้อม ทุกอย่างต้องดูดี ดูเพอร์เฟ็คในสายตาคนภายนอก

ทั้งหมดนี้ ทำให้คุณต้องเร่งทำงานหาเงินให้ได้มาก ๆ โดยที่ไม่รู้จริง ๆ ว่า คำว่ามาก ๆ นั้นคือเท่าไร  และต้องทำอีกนานแค่ไหนเหมือนคุณถูกสอนมาไม่ครบ

คิดเรื่องการหาเงินให้ได้มาก ๆ

และยิ่งคุณหาได้มาก มันกลับทำให้คุณยิ่งกังวลมากขึ้น


เพราะสิ่งมาก ๆ เหล่านี้ ล้วนวนกลับมา สร้างภาระที่มากมาย ตามมาด้วย แถมคุณและครอบครัวก็ยังคงมีความกังวลใจในเรื่องเหล่านี้กวนใจอยู่เหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็น..

ความกังวลเมื่อคุณหรือคนในครอบครัวออกไปทำงานแล้ว.. ถ้าเกิดอะไรขึ้น คุณและครอบครัวจะอยู่กันต่ออย่างไร ไหนจะหนี้สิน ไหนจะค่าโรงพยาบาล ไหนจะค่าฌาปนกิจ ไหนจะค่าฟ้องร้อง ไหนจะค่าชดเชยคู่กรณี แล้วจะต้องหาทางขายทรัพย์สินหรือต้องกู้หนี้ยืมสิน และกลายเป็นปัญหาหรือภาระให้ใครอีกบ้าง

ความกังวลต่อความเจ็บป่วยในร่างกายทั้งตนเองและครอบครัว ไม่อยากไปตรวจสุขภาพ ไม่อยากรับรู้ ทำไมโรงเรียนไม่สอนให้รู้ว่า มันมีโรคบ้า ๆ มากมายที่ยากจะหลีกเลี่ยงและมีโอกาสเป็นสูงแค่ไหนเมื่ออายุมากขึ้น พร้อมค่าใช้จ่ายที่ไม่ต่างกับการปล้นเอาเงินที่หามาอย่างยากลำบาก ไปทั้งหมด

ความกังวลว่ายามแก่ชรา ค่าอยู่อาศัย ค่าการรักษา ค่าดูแล จะขึ้นไปสูงขนาดไหน จะต้องเป็นภาระใครต่อใครอีก จะมีใครหรืออะไรให้พึ่งพิงได้หรือไม่

ความกังวลว่า สุดท้ายจริง ๆ แล้วต้องหาเงินอีกนานแค่ไหน ต้องหาอีกเท่าไร เมื่อไรชีวิตที่วนเวียนแบบไม่มีจุดสิ้นสุดชัดเจนแบบนี้ จะจบลงสักที

สุดท้าย เมื่อคุณต้องเหนื่อยทั้งกายและใจอย่างถึงที่สุด

คุณจึงเริ่มรู้สึกตัวว่า..

คุณเดินอยู่บนเส้นด้ายมาตลอด นับจากวันที่คุณออกมาจากโรงเรียน คุณถูกสอนให้ทำ ให้หาสิ่งของต่าง ๆ มามากมาย แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ช่วยให้เส้นด้ายนี้หนาและปลอดภัยมากขึ้นเลย

คุณเริ่มแก่ตัวลงมากพร้อมกับแบกภาระเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ คุณเหนื่อย คุณเริ่มเจ็บป่วย คุณเริ่มต้องการแค่ความสงบในชีวิต ได้หลบไปหาความสุขเล็ก ๆ หรือขอแค่ได้ปลดปล่อยภาระที่มีออกไปให้ได้บ้าง

คุณไม่เคยได้กำหนดอะไรเลย ทุกอย่างเหมือนโดนผลักให้ไล่ไปตามกระแสความเชื่อบางอย่างของคนภายนอกเท่านั้น คุณเหนื่อยเหลือเกินที่ต้องวิ่งไปตามสายพานนี้

ตอนนี้คุณรู้สึกว่า ทำไมภาพทุกอย่างมันพล่ามัวไปหมด มันไม่เคยชัดเจนเลย มันไม่มีความมั่นคง มีแต่ความกังวลที่ยังคงอยู่กับคุณเสมอมา

คุณเริ่มรู้ตัวว่า..ทั้งหมดนี้มันไม่ถูกต้อง มันขาดจิ๊กซอว์บางอย่างไป

เมื่อคุณรู้ตัวแล้วว่า..นี่มันไม่ถูกต้อง

คุณจึงได้นั่งหยุดพักกับตนเอง ได้นั่งเคียงข้างกับตนเอง แล้วถามกับตนเองตรง ๆ ว่า จริง ๆ แล้วคุณกับครอบครัวต้องการอะไร

“จริง ๆ คนเราหาเงินไปเพื่ออะไร สุดท้ายแล้ว เราต้องการเพียงแค่สิ่งไหน”

คนทำงาน burnout

และบางทีคุณอาจจะตอบกับตนเองว่า..

“มันไม่ได้มีอะไรซับซ้อน เพียงแค่เราได้ทำในสิ่งที่ชอบ ได้แบ่งปัน ได้ช่วยเหลือในสิ่งที่ตนเองถนัด โดยไม่ต้องกังวลอะไร.. ไม่มีภาระอะไร”

เป้าหมายชีวิตจริง ๆ อาจเรียบง่ายถึงขนาดนี้ แต่คุณครูข้างบนสุดได้สอนให้คุณเดินกลับหลังและอ้อมไปไกลมาก กว่าที่คุณจะได้เริ่มเดินทางถึงเป้าหมายนี้จริง ๆ ด้วยเพียงคำสอนที่ว่า

“คุณจะต้องหาเงินให้ได้มาก ๆ ต้องมีทุกอย่างโดยเร็ว ต้องได้รับคำชื่นชมจากผู้คนจำนวนมาก แล้วคุณจะไม่มีอะไรให้กังวล”

ทั้งที่จริง ๆ แล้ว ความกังวลเหล่านี้สามารถจะหายไปได้ หรือ อย่างน้อยลดลงได้โดยไม่ยาก ไม่ได้ซับซ้อนอะไร ไม่ต้องใช้เงินหลายล้านบาท ไม่ต้องเป็นคนหาเงินเก่งมาก ๆ หรือต้องทำอะไรที่จะเพิ่มภาระขึ้นอีกมากมายเลย

"แค่เพียงเริ่มทำในสิ่งที่โรงเรียนและคุณครูข้างบนนั้นสอนไม่ครบ"

ใช่..พวกเขาสอนไม่ครบ!! จากสิ่งที่ต้องสอนทั้งหมด 5 อย่าง พวกเขากลับสอนเพียง 2 อย่าง

คือโรงเรียนสอนแค่เรื่อง "INCOME การหารายได้"  กับโซเชียลมีเดียสอนเพียงเรื่อง "SPENDING การใช้จ่าย" เท่านั้น

แต่ยังขาดจิ๊กซอว์สำคัญอีกถึง 3 อย่าง ที่คุณกับครอบครัวจำเป็นต้องรู้และเข้าใจ

ก่อนจะลงลึกถึง 3 จิ๊กซอว์ที่ขาดหายไปนี้ ให้คุณลองหลับตาและจินตนาการดูว่า..

เมื่อคุณเป็นดังเหตุการณ์ต่อไปนี้ คุณจะรู้สึกอย่างไร

Happy go to work

⦿   เมื่อคุณและครอบครัวสามารถออกจากบ้านไปทำงานได้อย่างสบายใจ โดยที่ไม่มีห่วงหรือกลัวว่าจะถูกมัจจุราชพรากครอบครัวคุณไปในตอนไหน เพราะคุณมั่นใจว่า คนข้างหลังจะไม่ลำบากเพราะภาระจากการจากไปของคนใดคนหนึ่งแน่นอน

Happy health check

⦿   เมื่อคุณกล้าที่จะเรียนรู้ว่า โรคภัยที่จะเข้ามาตอนช่วงอายุต่าง ๆ นั้นมีอะไรบ้าง กล้าที่จะตรวจสุขภาพ.. ตรวจคัดกรองมะเร็งโรคร้าย โดยไม่กลัวว่าถ้าตรวจพบแล้วคุณจะต้องทำอย่างไร

Happy treatment plan4

⦿   เมื่อคุณกล้าที่จะป่วย กล้าที่จะเลือกวิธีการรักษาที่ดีที่สุด ทั้งต่อตัวคุณเองและครอบครัว พร้อมที่จะนอนรักษาใน รพ. ให้หายป่วยได้อย่างเต็มที่ด้วยความสบายใจ ไม่ต้องรีบเร่ง แล้วสุขภาพจิตเสียเพราะกลัวว่าจะเป็นภาระให้กับคนรอบข้าง ทั้งยังมีเงินช่วยเหลือตอบแทนคนที่อาสาช่วยดูแลคุณหรือครอบครัวของคุณได้

Happy investment3

⦿   เมื่อคุณกล้าที่จะลงทุนและเสี่ยงได้มากขึ้นเพื่อผลตอบแทนที่ดีกว่า เพราะคุณรู้ว่าคุณได้จัดการเงินส่วนที่จำเป็นในปัจจุบันและเงินตอนเกษียณไว้เรียบร้อยแล้ว ทำให้คุณกลับมาตั้งหลักใหม่ได้เสมอ

Happy Retire2

⦿   เมื่ออายุใกล้เกษียณมากเท่าใด คุณยิ่งมีความสุข เพราะคุณรู้แล้วว่าคุณจะได้พักและมีอิสระที่จะทำในสิ่งที่ตนเองชื่นชอบ ได้โดยไม่ต้องคิดเรื่องการหาเงินใด ๆ อีก

ถ้าความรู้สึกหลังจากที่คุณจินตนาการเรื่องเหล่านี้ ออกมาเป็น ความสบายใจ มีพลังชีวิตมากขึ้น ความพล่ามัวเริ่มจางลง

นั่นคือ เครื่องยืนยันที่ทำให้คุณเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่า ชีวิตที่คุณต้องการดำเนินต่อไปนั้น คุณอยากจะเป็นอย่างไร

Happy thinking

3 จิ๊กซอว์นี้จะช่วยให้สิ่งที่คุณจินตนาการ เป็นไปได้

โดยไม่จำเป็นต้องรอนาน ไม่จำเป็นต้องมีเงินทองมากมาย ไม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากมหาศาล

ก็สามารถที่จะเริ่มปลดความห่วง ความกังวล ที่คุณมีได้ในทันที

3 จิ๊กซอว์นี้มีมานานแล้วและคุณเองก็คุ้นเคยดี เพียงแต่คุณกับครอบครัวไม่ได้ประยุกต์ใช้ในอีกทางเท่านั้น  เพราะมันคือขั้นตอนเดียวกันกับเมื่อตอนคุณ

อยากได้บ้าน อยากได้รถ อยากได้มือถือรุ่นใหม่

โดยสิ่งที่คุณจะทำอย่างแรกก็คือ การแบ่งเงินจาก INCOME มา SAVING (เก็บออม)

แต่ถ้าสุดท้ายคุณ ไม่ต้องการรอ เก็บออมจนได้เงินก้อนมาซื้อ คุณต้องการให้มี ให้ได้ใช้ในทันที

สิ่งที่คุณทำต่อไปก็คือ BANK INVESTING คือ ให้ธนาคารมาลงทุนในตัวคุณผ่านการให้สิ่งที่คุณอยากได้มาก่อน จากนั้นคุณสัญญาว่าจะให้เงินธนาคารกลับไป 1.5-3 เท่าของราคาของนั้น ๆ ตามเวลาที่กำหนด

หรือก็คือ การผ่อนจ่าย นั้นเอง โดยยอมเป็นหนี้และต้องมีสินทรัพย์หรือกระแสเงินสดมาเป็นหลักทรัพย์หรือสิ่งยืนยันว่าคุณจะสามารถชำระหนี้ได้ หรือทำให้ธนาคารกล้าลงทุนในตัวคุณ

และวิธีการนี้ละคือจิ๊กซอว์สำคัญที่ขาดหายไป

คุณรู้หรือไม่ว่า ด้วยวิธีการแบบเดียวกันนี้เอง หากเปลี่ยนจากบ้าน รถ มือถือ มาเป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่คุณและครอบครัวไม่อยากให้เกิดขึ้นแต่หลีกหนีไม่ได้ เช่น ค่ารักษาพยาบาลตลอดชีวิต ค่าจัดงานฌาปนกิจ ค่าภาระหนี้สิน ค่าภาระทางธุรกิจ ค่าศาล ค่าเลี้ยงดูครอบครัว ค่าเล่าเรียนบุตร

ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้ ต่างกับค่าบ้านค่ารถ ตรงที่คุณไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นตอนไหน แต่ไม่ว่าอย่างไรคุณไม่อยากให้มันเกิดขึ้นในตอนที่ คุณยังไม่พร้อม)

ด้วยความต้องการนี้เอง จิ๊กซอว์สำคัญที่ชื่อว่า PROTECTION (การป้องกัน) จึงเกิดขึ้นมา

หรือก็คือการ "การผ่อนล่วงหน้า" ให้กับค่าใช้จ่ายที่กังวลว่า มีโอกาสเกิดขึ้นแต่ไม่รู้ว่าเมื่อไร โดยหากเกิดขึ้นเมื่อใดก็จะสามารถมีเงินสดมาใช้จ่ายกับความกังวลนั้น ๆ ได้เร็วที่สุด

วิธีนี้จึงเหมือนเป็นทั้งการ SAVING + INVESTING ไปในตัว และที่สำคัญที่สุดก็คือ คุณกับครอบครัวไม่จำเป็นต้องหา INCOME จำนวนมาก มากันไว้เผื่อเหตุการณ์ที่ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร

โดยคุณเพียงแบ่งเงินจำนวนไม่กี่ % ของ INCOME (เหมือนที่คุณโดนบังคับให้ทำประกันสังคม) คุณก็จะมีเครื่องมือ PROTECTION นี้ไว้ใช้ ในยามที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ในทันที

คุณจะสังเกตได้ว่ากลไกของเครื่องมือนี้เปรียบเสมือนการที่คุณตัดสินใจที่จะ ผ่อนล่วงหน้าโดยที่คุณยังไม่ได้เป็นหนี้ หรือ ยังไม่ได้กู้ยืมเงินอะไรมา แต่เมื่อถึงช่วงเวลาที่ต้องใช้เงิน
ก็จะมีเงินให้คุณได้ใช้

และในบางสถานการณ์ วงเงินกู้นี้ก็จะรีเซ็ตกลับมาเต็มวงเงินเหมือนเดิมอีกครั้งในทุกครั้งที่จะใช้หรือในทุก ๆ สิ้นปี หรือบางสถานการณ์เมื่อกู้ออกไปแล้วคุณก็หยุดได้ โดยไม่ต้องผ่อนจ่ายใด ๆ อีกซึ่งมันเป็นอะไรที่

กลับกันกับ SPENDING การผ่อนจ่าย การกู้ยืมเงิน และการเป็นหนี้  ตามปกติอย่างสิ้นเชิง

และนี่คือ 3 จิ๊กซอว์สำคัญ ที่เป็นเครื่องมือทางการเงิน ที่โรงเรียนไม่พูดถึง

"SAVING" "INVESTING" และ "PROTECTION"


เพียงแค่ทำกลับกัน..

จะได้ประโยชน์อย่างคาดไม่ถึง

และด้วยการที่คุณยอมผ่อนล่วงหน้าตั้งแต่ยังไม่เป็นหนี้ วงเงินที่ได้จึงมีมูลค่าสูงมาก เมื่อเทียบกับการที่คุณรอให้เกิดเหตุการณ์ให้เป็นหนี้ก่อน แล้วจึงค่อยผ่อนจ่าย

ซึ่งการกู้แบบปกติอาจจำเป็นต้องมีหลักทรัพย์ หรือต้องแบกหน้าหาคนให้มาช่วยค้ำประกัน แตกต่างกับการผ่อนล่วงหน้าที่คุณเพียงนำสุขภาพที่แข็งแรงไปค้ำวงเงินเท่านั้น

ผ่อนก่อน กู้ทีหลัง  ได้วงเงินมูลค่าสูงมาก แถมเงินผ่อนสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้

รวมถึงกลไกนี้ รัฐบาลก็สนับสนุน โดยสามารถนำมาลดหย่อนภาษีส่วนบุคคลได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณมีโอกาสได้เงินคืนภาษีหรือประหยัดภาษีที่จะจ่าย ลงไปได้อีกมาก

ที่สำคัญที่สุดหากนำ 3 เครื่องมือนี้รวมกัน

จะสามารถ "ตีมูลค่าเงินต้นขั้นต่ำของการผ่อนล่วงหน้า" และออกมาเป็นเป้าหมายการเงินในระยะเวลาที่ต้องการ หรือระยะเวลาก่อนเกษียณได้


และเป็นจุดเริ่มต้นของการวางแผนการเงินรอบด้าน

ให้สามารถบอกได้ว่าจริง ๆ แล้วจำเป็นต้องหาเงินอีกเท่าไรถึงจะหยุดได้ 

ซึ่งจะนำไปสู่การปรับปรุงรายรับรายจ่าย เพื่อให้มีสุขภาพทางการเงินที่สอดคล้องกับเป้าหมายที่ได้มานี้ 

รวมถีงยังสามารถลงทุนได้เสี่ยงสูงมากขึ้น เพราะมีส่วนที่ปลอดภัยกว่ารองรับไว้หมดเรียบร้อยแล้ว

แต่..หน้าแปลก!?!
ถึงแม้โรงเรียนอาจไม่ได้สอน

แต่ทำไมคุณกับครอบครัวที่อาจเคยได้ยินเกี่ยวกับเครื่องมือทางการเงินเหล่านี้มาแล้ว กลับเลือกที่จะหลีกหนี

เพราะทุกเครื่องมือทางการเงิน ไม่สามารถเดินไปหาผู้ใช้งานเองได้ และไม่สามารถพูดอธิบายถึงความสำคัญความจำเป็น และเงื่อนไขการใช้งานต่าง ๆ อย่างละเอียดได้

จึงทำให้ต้องมีผู้แนะนำเครื่องมือทางการเงินขึ้นมา และมีค่าตอบแทนการแนะนำที่ให้จากบริษัทเจ้าของเครื่องมือการเงินนั้น ๆ ในจำนวนที่แตกต่างกันไปตามจุดประสงค์ของแต่ละเครื่องมือ

และด้วยผลประโยชน์ค่าตอบแทนนี้เอง จึงเป็นที่มาให้เกิดปัญหาตามมา ด้วยความที่ผู้แนะนำเองก็อยากได้เครื่องมือที่ให้ค่าการแนะนำสูง แนะนำง่าย และไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องใช้เวลาอธิบายนาน

จึงเริ่มเกิดขบวนการทำงานที่บอกความจริงเพียงด้านเดียว หรือความจริงแบบที่จัดชุดแพ็คเกจมาแล้ว ถ้านั่นจะช่วยให้ปิดการขาย ที่ถูก "กดดัน" ยอดมา ได้ง่ายมากขึ้น

ทำให้โดยส่วนใหญ่ ผู้แนะนำอาจเลือกที่จะไม่ใช้เวลาในการให้ความรู้ความเข้าใจถึงในแก่นของเครื่องมือ แต่เลือกที่จะแนะนำในสิ่งที่คนส่วนใหญ่อยากได้ยินแทน (ซึ่งคนส่วนใหญ่รู้จักแต่ INCOME และ SPENDING)  เช่น

พูดเฉพาะจุดเด่น (แต่ไม่เคยได้ยินว่า ข้อจำกัดมีอะไรบ้างและมีวิธีอื่นอีกไหม)

จ่ายคงที่ มีเงินคืน คุ้มค่า (แต่ไม่ได้บอกว่าต้องจ่ายสูงตั้งแต่แรก เพื่อแบ่งเงินส่วนหนึ่งไปลงทุน)

จ่ายสั้น (แต่ไม่ได้บอกว่าเหมือนเป็นการกันเงินคุณเองเพื่อคุ้มครองตัวคุณเอง)

เล่นกับอารมณ์ (แต่ไม่ได้บอกว่าเครื่องมือที่จะใช้เพื่อครอบครัวนั้นจะเหมาะสมที่สุดหรือไม่)

จึงเหมือนเป็นการแนะนำเครื่องมือการเงินเหล่านี้แบบเดียวกับการขายสินค้าทั่วไป.. ที่จับต้องได้.. โดยเน้นการสร้างความสัมพันธ์ ความเชื่อใจ อารมณ์.. ชี้ให้เห็นตัวเลข และใช้เทคนิคทั้งหมดนั้นมาปิดการขาย

แต่จริง ๆ เครื่องมือการเงินคือสัญญา ไม่ใช่สินค้าทั่วไป จึงจำเป็นต้องเข้าใจเงื่อนไขทั้งหมด หรืออย่างน้อยสาระสำคัญก่อนทำสัญญา ไม่ใช่เพียงเชื่อใจ เห็นตัวเลขแล้วก็ลงมือทำสัญญา เพราะนั่นล้วนแต่สร้างปัญหาตามมาในภายหลัง และได้สร้างชื่อเสียมากมายให้กับเครื่องมือการเงินเหล่านี้

ยิ่งพอมารวมกับความเข้าใจผิดและการบอกกันแบบปากต่อปาก จากที่เป็นเครื่องมือทางการเงินที่จะช่วยทุ่นแรงให้คุณกับครอบครัว กลับกลายเป็นเครื่องมือการหาเงินของผู้แนะนำไปแทน

แม้สุดท้าย..จะมีผู้คนบางส่วนได้ทำความเข้าใจและเห็นถึงความสำคัญจริง ๆ แต่ก็ไม่ไว้ใจผู้แนะนำ จนทำให้ต้องไปสมัครเป็นผู้แนะนำเอง เพื่อที่จะเข้าไปศึกษาล้วงข้อมูลจริง ๆ ออกมาไว้ทำให้กับครอบครัว

แต่นั่นก็เป็นวิธีที่ใช้เวลาอย่างมาก และต้องยอมรับว่าขั้นตอนบางอย่างจำเป็นต้องเรียนรู้จากประสบการณ์ เพราะไม่ได้มีการสอนหรือบอกตรง ๆ ไว้ทั้งหมดตั้งแต่แรก เนื่องด้วยเนื้อหาและข้อมูลที่เยอะมากจนเกินไป และผลประโยชน์ที่ทับซ้อนกันอยู่

"ดังนั้นคงจะดีมาก ๆ หากมีผู้ที่เข้าไปล้วงข้อมูลนี้ และนำออกมาบอกกับทุกคนจริง ๆ อย่างตั้งใจ โดยไม่เอาผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างค่าการแนะนำ ค่าตอบแทนการตลาด เข้ามาเกี่ยวข้อง"

และนี่คือที่มาของ Release Your Risk

เราจะนำข้อมูล นำความจริงทั้งหมดของเครื่องมือทางการเงินด้าน PROTECTION ออกมาตีแผ่แบบไม่หมกเม็ด ไม่สนใจค่าตอบแทน ว่าอะไรจะให้มากกว่าอะไร

เพราะหน้าที่ของเรา คือ "การบอกความจริงทั้งหมด" 
เพื่อจะทำให้คุณกับครอบครัวได้เลือกเครื่องมือที่เหมาะสมที่สุด

ไม่ว่าความจริงเหล่านี้จะมีข้อมูลมากเพียงใด เราก็จะให้ข้อมูลทั้งหมด จะอธิบาย ทั้งเบื้องหน้า และเบื้องหลัง

แบบที่คุณมั่นใจได้ว่า :

"คุณกับครอบครัวจะเข้าใจในเครื่องมือ และเลือกใช้งานด้วยความเข้าใจ ไม่ใช่เพียงเพราะถูกเลือกมาให้เท่านั้น"

แล้วทั้งหมดนี้ Release your Risk

จะได้อะไร

ทางเรามีหน้าที่นำข้อมูลทั้งหมดของเครื่องมือทางการเงินส่วนบุคคลด้าน PROTECTION ออกมาวิเคราะห์อธิบาย รวมไปถึงความสัมพันธ์ทั้งจากด้าน INVESTING ด้าน SAVING และด้าน SPENDING

ซึ่งทุกเครื่องมือทางการเงินมักจะผสม 4 ด้านนี้เข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้เครื่องมือที่จะนำไปสู่เป้าหมายที่ต้องการต่าง ๆ ได้อย่างดีที่สุด

แต่ปัญหาคือ การแนะนำเครื่องมือเหล่านี้นั้น บริษัทเจ้าของเครื่องมือจะมีค่าการแนะนำหรือค่าตอบแทนการตลาดให้มาเสมอ และนั่นคือ ผลประโยชน์ทับซ้อนที่จะทำให้การแนะนำแบบไม่ลำเอียงหรือแบบตามจริงครบรอบด้าน ปรากฏออกมาได้ยาก

อย่างทางเราเอง ถึงแม้จะได้เขียนบทความบอกความจริงทุกอย่างออกมาแบบไม่คิดค่าใช้จ่าย แต่คุณกับครอบครัวก็อาจ ยังรู้สึกเคลือบแคลงใจ ว่าการที่เราอธิบายแบบนี้ อาจเป็นเพราะต้องการขายเครื่องมือนั้น ๆ เพื่อให้ได้ค่าตอบแทนสูง ๆ ใช่หรือไม่

ดังนั้นเพื่อขจัดความเคลือบแคลงใจนี้ออกไป ทางเราจึงตัดสินใจที่จะจัดทำและจำหน่ายซีรีย์ E-Book คู่มือเลือกใช้เครื่องมือทางการเงินที่ครอบคลุมความกังวลทั้งด้านความมั่งคั่ง สุขภาพ และการเกษียณ ของส่วนบุคคลและครอบครัวขึ้นมา

เพื่อทำให้ทางเราได้มีความชัดเจนมากขึ้นว่า เราจะรับค่าตอบแทนจาก E-Book นี้แลกกับการทำให้คู่มือนี้เป็นคู่มือที่ดีที่สุดเล่มหนึ่ง ไม่ใช่เพราะหวังมุ่งเป้าไปที่จะเอาค่าตอบแทนการตลาดหรือค่าการแนะนำเครื่องมือทางการเงินจากบริษัท

ซึ่งภายใน E-Book จะตีแผ่ข้อมูลทุกอย่าง พร้อมบทวิเคราะห์ เปรียบเทียบ ทั้งในมุมมองของทั้งผู้ทำสัญญา ผู้แนะนำสัญญา และผู้รับทำสัญญา

เพื่อให้คุณกับครอบครัวเข้าใจถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังได้อย่างลึกซึ้งโดย ไม่ต้องเสียเวลา เสียโอกาส และค่าใช้จ่ายเพื่อเข้ามาล้วงข้อมูลเหล่านี้ด้วยตนเอง หรือต้องมานั่งขุดข้อมูลบางอย่างเพื่อวิเคราะห์หาผลประโยชน์ทับซ้อนที่ปิดบังเอาไว้

และเพื่อไว้เป็นคู่มือข้างกายในการเลือกใช้เครื่องมือทางการเงินส่วนบุคคลและส่วนครอบครัวอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ได้เพียงมอบหมายให้ผู้แนะนำที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน เป็นคนเลือกจัดแพ็คเกจแทนคุณกับครอบครัวเพียงเท่านั้น

โดยคุณกับครอบครัวจะทราบถึงที่มาว่า ทำไมผู้แนะนำชอบแนะนำเครื่องมือนี้มากกว่าอีกเครื่องมือหนึ่ง หรือชอบให้เพิ่มเติมเครื่องมือนี้เพิ่มเข้ามาด้วย รวมไปถึงทำไมบริษัทผู้รับทำสัญญาจึงจำเป็นต้องมีเครื่องมือเหล่านี้ออกมา

แน่นอนว่าไม่ใช่เพียงเพราะ เครื่องมือเหล่านี้นั้น ดีต่อคุณกับครอบครัวฝ่ายเดียวแน่นอน


นปัจจุบัน E-BOOK ที่เป็นทั้งคู่มือและการตีแผ่ในสิ่งที่โรงเรียนอาจไม่ได้สอนหรือลืมสอนไปนั้น ยังอยู่ระหว่างการจัดทำ และจะเปิดรับจองในราคาพิเศษพร้อมโบนัสที่ไม่ธรรมดาเร็ว ๆ นี้

โดยในระหว่างนี้่จะยังสามารถอ่านข้อมูลประเด็นสำคัญ ที่ทางเราพยายามย่อความลงมาในหน้าเว็บด้านล่างนี้แทนก่อนได้

ซึ่งเนื้อหาในส่วนรายละเอียดและเบื้องหลังหลายอย่างจะมีการขยายความเพิ่มใน E-Book รวมไปถึงประเด็นที่อ่อนไหวต่าง ๆ ที่ตอนนี้ยังอยู่ในหน้าเว็บ ก็จะมีการทยอยตัดออกจากในหน้าเว็บ และมารวมอยู่ในซีรีย์ E-Book นี้แทนในอนาคต


ด้านล่างนี้คือเนื้อหาบางส่วนใน E-BOOK

ที่จะช่วยให้คุณกับครอบครัวได้เข้าใจ เปรียบเทียบและเลือกใช้เครื่องมือทางการเงิน

เพื่อปลดภาระที่หลีกหนีไม่ได้และคอยติดตามตัวคุณกับครอบครัวเหมือนเงาตามตัว

โดยภาระที่สร้างความกลัว ความกังวลแบบเงียบ ๆ แต่พร้อมจะออกมาน็อคคุณกับครอบครัวให้สลบได้ภายในหมัดเดียว ซึ่งคุณกับครอบครัวควรศึกษาเจาะลึกหาทางป้องกันและหาแผนสำรอง เพื่อให้สามารถทราบเป้าหมายทางการเงินว่าต้องทำงานอีกนานแค่ไหน ต้องมีเงินเท่าไร จะมีดังต่อไปนี้

5 ความเสี่ยงที่ชีวิตสู้กลับได้ทุกเมื่อ และจะกลายเป็นภาระอันหนักอึ้งของครอบครัว ที่ไม่คุ้มในการแก้ไขด้วยเงินเก็บและสินทรัพย์ที่หามาอย่างยากลำบากเพียงอย่างเดียว

แต่ควรศึกษาทำความเข้าใจเครื่องมือทางการเงินให้มาทุ่นแรงช่วย ซึ่งจะประหยัดและทันการณ์ได้มากกว่า อย่างไรก็ตามหากเลือกใช้เครื่องมือโดยขาดความรู้ความเข้าใจ ก็อาจจะถูกหลอกหรือใช้เครื่องมือที่ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์และความต้องการได้ ดังนั้นคู่มือด้านล่างนี้ทางเราจึงจัดทำขึ้นมาเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้โดยตรง ดังต่อไปนี้

Sad Debt6

⦿   ภาระที่เกิดขึ้นหลังจากมัจจุราชมาเยือนคนในครอบครัวแบบไม่ทันตั้งตัว ที่สร้างทั้งความกังวล ความเศร้าใจ กับภาระที่จะตามมาอีกมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนหนี้สิน ค่าคดีความ ค่าทนาย ค่าศาล ค่าฟ้องร้องทวงคืนความยุติธรรม ค่าจัดการจัดตั้งกองมรดกต่าง ๆ

ความกังวลอันดับที่หนึ่ง ที่เพียงหลับตานึกถึงก็รู้ว่าจะสร้างความเลวร้ายได้ขนาดไหน ทำให้ในทุกปีจำเป็นที่ทั้งครอบครัวต้องประชุมเตรียมการรับมือไว้เสมอ

คู่มือเครื่องมือการเงินจัดการความเสี่ยงด้านความมั่งคั่ง

RELEASE  WEALTH  RISKS

Sad debt12

⦿   ภาระเมื่อคนในครอบครัวป่วยเข้า รพ. ที่คอยสร้างความกังวลว่าจะต้องไปหาเงินหรือต้องกู้หนี้ยืมสิน ขอร้องคนรู้จัก ขอร้องโรงพยาบาล เพราะค่ารักษาพยาบาลที่แพงขึ้นทุกปีปีละอย่างน้อย 8% พอถึงตอนเกษียณก็ไม่รู้จะแพงขึ้นไปอีกแค่ไหน และหากรอใช้สวัสดิการรัฐก็เสี่ยงที่จะช้าเกินไป

ความกังวลอันดับที่สอง ที่อาจมีเวลาให้ได้ร่ำลากันแต่ก็มาพร้อมค่าใช้จ่ายที่โหดร้ายถึงที่สุด และทำให้ไม่กล้าที่จะป่วย ทั้ง ๆ ที่เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

คู่มือเครื่องมือการเงินจัดการความเสี่ยงด้านสุขภาพ

RELEASE  HEALTH  RISKS

Sad debt8

⦿   ภาระค่าใช้จ่ายตอนเกษียณ ที่สร้างความกังวลให้ไม่สามารถเกษียณได้ จะยังต้องทำงานไปต่อเรื่อย ๆ จนกว่าจะจากโลกนี้ไป

ความกังวลอันดับที่สาม เป็นสิ่งที่ไกลตัวที่สุดเพราะคาดเดาเวลาได้ แต่กลับเป็นสิ่งที่ควรเริ่มต้นจัดการให้เร็วที่สุด เพราะยิ่งเริ่มช้ามากเท่าไร ปัญหาก็จะยิ่งใหญ่ และยิ่งต้องใช้เงินมากขึ้นเรื่อย ๆ เท่านั้น

คู่มือเครื่องมือการเงินจัดการความเสี่ยงตอนเกษียณ

COMING SOON..

Salepage Health 11

⦿   ภาระที่เกิดขึ้นจากเงินเฟ้อ เงินที่ถูกเก็บไว้เฉย ๆ จะเสื่อมมูลค่าลงเรื่อย ๆ หรือในอีกนัยหนึ่งก็คือ ข้าวของแพงมากขึ้น ต้องใช้เงินมากกว่าเดิมในการซื้อของชิ้นเดิม

ความกังวลอันดับที่สี่ เป็นสิ่งที่ทั้งใกล้และไกลตัว คือ ใกล้เพราะว่าเงินทยอยลดมูลค่าลงจริง ๆ แต่ไกลเพราะใช้ระยะเวลาหนึ่งจึงจะเริ่มเห็นผลและรู้สึกตัว การจะแก้ปัญหาความกังวลส่วนนี้ได้จึงจำเป็นต้องเข้าใจวิธีการลงทุนอย่างไรให้ปลอดภัยจากสภาวะนี้

คู่มือเครื่องมือการเงินจัดการความเสี่ยงของเงินเฟ้อ

COMING SOON..

Salepage Health 20

⦿   ภาระค่าใช้จ่ายด้านภาษี เป็นสิ่งที่สามารถพูดได้เต็มที่ว่าเป็นเป็นกรรมที่จะติดตามมาในทุกปีหรือทุกครึ่งปี ทำให้จำเป็นต้องสูญเสียรายได้เกือบ 1-2 เดือน เพื่อมาให้กับภาษีโดยเฉพาะ

ความกังวลอันดับที่ห้า ทางออกที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้อันดับแรก คือ การหาทางเลือกจ่ายให้ตนเองก่อน และต้องเป็นการจ่ายที่ทางรัฐบาลสนับสนุนหรืออนุญาตให้นำมาลดหย่อนภาษีได้ โดยหากจัดการส่วนนี้ดี ๆ อย่างมีแบบแผนจะช่วยให้ลดภาระในอนาคตได้มากพอสมควรด้วย

คู่มือเครื่องมือการเงินจัดการความเสี่ยงภาษีส่วนบุคคล

COMING SOON..

เครื่องมือทางการเงินเหล่านี้

สามารถทำงานสอดประสานกันได้ เมื่อเข้าใจถึงที่มาและวางแผนบูรณการร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ

ซึ่งจะทำให้การยิงปืนนัดเดียวแต่ได้นกหลายตัว จะเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ ไม่ยากเลยค่ะ

เข้าใจก่อนเลือกใช้เครื่องมือการเงิน เพื่อสามารถเกษียณสุขได้อย่างสบายใจ และนั่นคือหน้าที่ของเรา

RELEASE YOUR RISK

เราคือทีมงานที่ รวมตัวกันเพราะความเจ็บปวดจากการไม่ได้ศึกษาเครื่องมือทางการเงินอย่างจริงจัง เพราะคิดว่าไม่จำเป็น ไม่มีเวลา รู้แต่เพียงวิธีการหารายได้และจัดการการค่าใช้จ่ายเท่านั้น

จนมีวันหนึ่งได้มีคนเข้ามาเปิดใจให้ทางเราได้เห็นประโยชน์ของเครื่องมือทางการเงิน ทำให้เกิดความเชื่อใจ และทำตามคำแนะนำด้วยอารมณ์เป็นห่วงครอบครัว โดยที่ยังไม่เข้าใจเครื่องมือการเงินนั้นจริง ๆ ว่ามีวิธีการทำงานอย่างไร 

สุดท้ายเมื่อรู้สึกแปลก ๆ จึงได้เอาตนเองเข้าไปศึกษาและล้วงข้อมูล จนทำให้รู้ว่า นี่มันไม่ใช่เครื่องมือที่เหมาะสมกับเราในตอนนี้ มันมีเครื่องมืออื่นที่เหมาะสมมากกว่า แต่นั้นก็สายไปแล้ว เพราะทุกอย่างเป็นสัญญา ที่ย่อมมีบทลงโทษหากจะยกเลิกสัญญา ซึ่งสร้างบาดแผลที่เจ็บปวดแสนสาหัสให้กับทางเรา

RELEASE YOUR RISK จึงถูกก่อตั้งขึ้นมาจากความเจ็บปวดนี้ เพราะราต้องการทำตรงกันข้าม (ทุกอย่าง) กับสิ่งที่ทำให้เราได้เคยเจ็บปวดมาอย่างแสนสาหัส

เราต้องการให้คุณได้มีข้อมูลในการศึกษาทำความเข้าใจแบบไม่ถูกกดดันและถูกเร่งรัดการตัดสินใจ

เราต้องการให้คุณเลือกใช้เครื่องมือทางการเงินด้วยข้อมูลรวมกับความเชื่อใจ ไม่ใช่เพียงเพราะความเชื่อใจอย่างเดียว

เราอยากให้คุณเข้าใจที่มาของตัวเลขและ ข้อควรระวัง ในการได้มาของตัวเลขนั้น ๆ

หลายสิ่งที่บริษัทแนะนำมา เราอยากให้คุณวิเคราะห์สัญญาอย่างละเอียด ในทุกด้านแม้ในด้านที่บริษัทไม่บอก

ทุกอย่างที่เราอยากให้คุณทำ เป็นแรงเสียดทานต่อกาลงมือทำทั้งสิ้น แม้เครื่องมือการเงินอย่างประกัน ยิ่งทำเร็วยิ่งดีแต่ด้วยที่เป็น สัญญาระยะยาว 50-60 ปี (หรือมากกว่านี้) การใช้เวลาศึกษาทำความเข้าใจสัก 1-2 ชั่วโมงขึ้นไปนั้น ดูค่อนข้างสมเหตุสมผลมากกว่าการเชื่อตามกันมา เชื่อตามที่ถูกแนะนำ

ดังนั้นทางเราจึงได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดด้าน ความจริงในมุมมองของแต่ละฝ่าย เบื้องหลังและที่มาของเครื่องมือ เพื่อให้คุณกับครอบครัวได้เข้าใจ และเห็นภาพรวมกับวัตถุประสงค์ของเครื่องมือแต่ละแบบ ได้เปรียบเทียบกันในแต่ละด้าน

และสุดท้ายได้เครื่องมือที่เหมาะสมที่สุด ที่จะนำมาใช้รวมกันสำหรับการวางแผนการเงินเพื่อเกาียณสุขได้อย่างสบายใจ 

เกี่ยวกับ
RELEASE YOUR RISK

แอนนีนี่นี่

แอนนี่ - รุจิรา ต๊ะบุญเรือง

ผู้แนะนำให้ความรู้ในเครื่องมือการเงินแบบองค์รวม

ผู้แนะนำการลงทุนตราสารซับซ้อนประเภท 2 เลขที่ 088660

ตัวแทนกรุงเทพประกันชีวิต เลขที่ 6001021654

จากประสบการณ์ที่ผ่านมาในชีวิตการทำงานทั้งหมดของแอนนี่ในสายงาน CRM ได้พบว่า ความไม่รู้ เป็นศัตรูที่แพงอย่างมากในโลกของการเงิน และโดยส่วนใหญ่กว่าจะได้รู้ก็อาจจะสายไปแล้ว

แอนนี่จึงจะเน้นแก้ไขปัญหานี้ ผ่านการให้ความรู้ทางการเงินที่ครบถ้วนที่สุดเพื่อป้องกันการถูกเอาเปรียบจากความไม่รู้นี้ค่ะ

Untitled design 23 1

บาส - ฐิติ  รุ่งเจริญไพศาล

ผู้ค้นคว้าพัฒนา FRAMEWORK เพื่อการเกษียณสุข

ผู้วางแผนการลงทุน IP เลขที่ 105969

ที่ปรึกษทางการเงิน AFPT เลขที่ AFPT190104

ตัวแทนกรุงเทพประกันชีวิต เลขที่ 6101074044

ผมอยู่ในสายงานนักพัฒนาโปรแกรมและอาจารย์มหาวิทยาลัยมากว่า 10 ปี ซึ่งได้พบความจริงว่า หากขาดความรู้ ความเข้าใจ ลำดับการใช้งานของเครื่องมือทางการเงินที่ถูกต้องแล้ว  ก็ยากที่จะทราบได้ว่าจะมีอิสรภาพทางการเงินได้เมื่อใด

ผมจึงพยายามพัฒนาเครื่องมือคำนวณ ที่จะใช้เครื่องมือการเงินให้ครบรอบด้านโดยเฉพาะในกรอบการลดหย่อนภาษี เพื่อช่วยให้สามารถคำนวณเงินที่จำเป็นสำหรับนำไปสู่อิสรภาพทางการเงินในช่วงเกษียณได้ ทั้งยังต้องสามารถลงมือทำตามได้ง่ายและมีความยืดหยุ่นตามสถานการณ์รายได้ที่สามารถเปลี่ยนแปลงไปได้

>
Scroll to Top

เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งาน ซึ่งสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ตกลงทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึก